เวินหนิงคิดไปคิดมาสักพัก รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ
เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ถึงได้มั่นใจว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหยงที่เธอเคยเห็นมาก่อน
ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็เต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนนี้ จะเป็นผู้หญิงที่ถูกแลกเปลี่ยนสถานะชีวิตกับเธอหรือไม่
ดูเหมือนว่า เธอมีชีวิตที่ไม่เลวเลย
เวินหนิงค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงแม้ว่ายังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเธอหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่า นายท่านตระกูลหยงจะไม่ได้มีอคติกับหลานสาวที่ไม่รู้ว่าพ่อกำเนิดเป็นใคร แต่กลับหลงรักและเอาใจใส่เธอมาก
แต่หยงซือเหม่ยไม่เห็นเวินหนิงที่อยู่ข้างๆสักนิด สายตาเธอจ้องมองไปที่ลู่จิ้นยวนคนเดียว
อืม รูปร่างสูงหุ่นดีหน้าตาไม่ได้แย่ไปกว่าดาราชายยอดนิยม ดูแล้วเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ
แล้วยังไง ตอนนี้เขาก็ต้องวิ่งมาที่บ้านตระกูลหยงก้มหัวขอความช่วยเหลือ
เมื่อนึกถึงผู้ชายคนนี้ที่เคยปฏิเสธตัวเอง หยงซือเหม่ยก็ตะคอกอย่างเย็นชา “ ลู่จิ้นยวนแต่ก่อนสายตาของคุณค่อนข้างที่จะสูงไม่ใช่เหรอ ปฏิเสธงานแต่งของตระกูลหยง ตอนนี้คุณมาที่นี่ไม่คิดว่ามันจะตลกไปหน่อยไหม”
ลู่จิ้นยวนเหลือบมองหยงซือเหม่ยแล้วไม่สนใจคำหยอกล้อเธอ " ผมมีเรื่องจะคุยกับนายท่านของบ้านคุณ"
เขาไม่ชอบการวางตัวของคุณหนูใหญ่ที่หยิ่งผยองคนนี้แม้แต่นิด
“ ท่านปู่ไม่อยู่ค่ะ”
หยงซือเหม่ยรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีเฉยเมยของลู่จิ้นยวน เธอที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหยงยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
ซึ่งมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับสิ่งที่เธอจินตนาการไว้ว่าลู่จิ้นยวนจะต้องมาขอร้องให้เธอให้โอกาสเขาอีกครั้ง
“ ช่วยบอกนายท่านตระกูลหยงด้วยว่า ผมมีเรื่องสำคัญที่จะต้องปรึกษาหารือกับท่าน”
ลู่จิ้นยวนแสร้งทำสายตาไม่เห็นเธอ แล้วยังคงพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูด
หยงซือเหม่ยโกรธมาก แล้วไปเห็นเวินหนิงที่ยืนอยู่ข้างๆ
"คุณเป็นใคร
แฟนสาวของเขาเหรอ "
เมื่อเห็นการแต่งกายของเวินหนิง เธอก็อดหัวเราะเยาะเธอไม่ได้ ทั้งตัวของเธอยังสู้เครื่องประดับที่ข้อมือของตัวเองไม่ได้ ที่แท้ ลู่จิ้นยวนเป็นผู้ชายที่ขี้เหนียวสุดๆคนหนึ่ง
“ ไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็น ... ”
เวินหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวอย่างไร
"ฮึ่ม ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นใคร อย่างไรก็ตามฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่มู่เยียนหรานอย่างแน่นอน"
หยงซือเหม่ยจำได้ว่าก่อนหน้านั้นแฟนสาวของลู่จิ้นยวนคือมู่เยียนหราน เพราะเธอไม่พอใจอย่างมาก จึงได้ตรวจสอบสืบข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นมาทั้งหมดแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่พอใจ แต่ความสวยและความสามารถของมู่เยียนหราน เธอจึงได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจอย่างลับๆ
ดังนั้นเมื่อเห็นเวินหนิง เธอจึงจงใจพูดกวนประสาทเธอ
"... " จู่ๆใบหน้าของเวินหนิงก็ดูน่าเกลียดขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้
“ ลู่จิ้นยวน แต่ก่อนนั้นคุณเคยบอกว่าคุณจะรักมู่เยียนหรานคนเดียวไม่ใช่เหรอ ดังนั้น ไม่ว่าผู้หญิงคนอื่นจะฐานะตระกูลดีแค่ไหนคุณก็ไม่สนใจ แล้วตอนนี้ ... ทำไมคุณถึงเปลี่ยนคนแล้วล่ะ”
ใบหน้าของลู่จิ้นยวนจมลง เมื่อได้ยินคำพูดนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นสีหน้าการแสดงออกของเวินหนิง เขาจึงไม่อยากสนใจคำพูดที่ไร้สาระและหาเรื่องของหยงซือเหม่ยคนนี้อีก “ ในเมื่อคุณหนูหยงไม่ต้องการคุยเรื่องธุรกิจ งั้นพวกเราขอกลับก่อน ถ้านายท่านเปลี่ยนใจผมค่อนกลับมาใหม่”
หลังจากพูดจบ เขาก็พาเวินหนิงออกจากที่นี่
หยงซือเหม่ยยิ้มอย่างสะใจ ทีนี่ มีเรื่องสนุกๆดูแล้ว
เวินหนิงระงับความโกรธของตัวเองไว้ เธอรู้ว่าหยงซือเหม่ยกำลังรอดูเรื่องตลกของพวกเขา จึงไม่ได้แสดงออกมา ณ ตอนนั้น แต่ทันทีที่ถึงรถ เธอก็อ้างปากพูดทันที " ที่แท้ ที่คุณบอกว่าตระกูลหยงไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายก็เพราะเหตุนี้เอง ”
เธอไม่ใช่คนโง่ พอจะฟังความหมายของหยงซือเหม่ยออก
นอกจากว่า ก่อนหน้านั้นที่ลู่จิ้นยวนกับมู่เยียนหรานยังรักกันและมีความรักที่ลึกซึ้งต่อกัน เพื่อเธอแล้ว เขาเลยปฏิเสธที่จะแต่งงานกับตระกูลหยง แล้วทำให้พวกเขาขุ่นเคือง
เวินหนิงรู้สึกปวดจี๊ดที่หัวใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก