เวินหนิงพึ่งจะรู้ว่าผมของเธอไปพันติดอยู่กับกระดุมเสื้อตรงหน้าอกของผู้ชายโดยไม่รู้ตัว การกระทำเมื่อครู่นี้ของเธอ เกือบจะดึงผมจุกนั้นหลุดออกมา ทำให้เธอเจ็บจนน้ำตาจะไหลออกมาอยู่แล้ว
"รอแป๊ปหนึ่งนะ ฉันกำลังแกะออก" ใบหน้าของเวินหนิงร้อนอย่างกับโดนเผา แค่อยากบอกว่าผมของตัวเองรู้จักสร้างปัญหาจริงๆ ยังรู้จักหาที่หาเวลาด้วย
ลู่จิ้นยวนไม่มีการขยับใดๆ ปล่อยให้เธอทำอยู่ยังงั้น
แต่เวินหนิงต้องก้มศีรษะไว้เพื่อไม่ให้ผมของเธอถูกดึง ดังนั้น จึงแกะอยู่นานเป็นครึ่งวัน ได้แค่จับตรงซ้ายทีหนึ่งขวาทีหนึ่งตรงหน้าอกของผู้ชาย มันไม่ได้ผลอะไรเลย กลับทำให้ตัวเธอรู้สึกละอายใจไปหมด จนอยากจะหารูมุดตัวเข้าไปซ้อน
“ นี้เธอกำลังแกะผม หรือกำลังลวนลามกันแน่” ลู่จิ้นยวนโดนมืออันอ่อนนุ่มราวกับไม่มีกระดูกของเธอสัมผัสไปมา ในสายตานั้นร้อนระอุไปสองสามนาที
ผู้หญิงคนนี้ หรือว่าเป็นกันจงใจเหรอ
"ไม่ใช่ ฉัน ... ฉันมองเห็นไม่ถนัด ... " เวินหนิงมีอาการบ่นเล็กน้อย "ถ้าไม่งั้น ก็ใช้กรรไกรตัดทิ้งเลยดีกว่า"
ลู่จิ้นยวนได้เห็นหูที่แดงอย่างกับลูกตำลึงของหญิงสาว ใช้นิ้วเรียวยาวของเขายื่นไปแกะอยู่สองสามที น่าประหลาดใจผมที่เวินหนิงแกะยังไงก็ไม่สามารถแกะได้ในตอนนี้กับถูกแกะออกอย่างง่ายดาย
"ยังบอกจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอีก" ลู่จิ้นยวนกล่าวด้วยสีหน้าติดแกล้งหน่อยๆ
"ฉัน ... " เวินหนิงได้แต่จ้องมองแต่พูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นความรู้สึกผ่อนคลายที่หาได้ยากบนใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนอุณหภูมิที่เขาเพิ่งกอดนั้นยังคงติดอยู่ที่ตัว แต่กลับรู้สึกคอแห้งไปขึ้นมา "ฉันออกไปแป๊ปหนึ่งนะคะ ลองไปถามดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลู่จิ้นยวนเห็นแต่ด้านหลังที่รีบร้อนหลบหนีของเธอ รอยยิ้มบนมุมปากของเขาก็กว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น เขานึกจำอะไรบางอย่างได้ก็เลยลดรอยยิ้มลง แล้วโทรไปหาอันเฉิน
"ช่วยไปเชิญคนของตระกูลยวี๋ออกไปจากโรงพยาบาลหน่อย"
สายตาของลู่จิ้นยวนหนักแน่นและน้ำเสียงเย็นชา
คำพูดของยวี๋เฟงหมิงที่พูดเข้าหูเขาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก จำเป็นต้องได้รับการสั่งสอนนิดหน่อย
"นี่ ... มันจะดูไม่ค่อยดีหรือเปล่าคะ เพราะตอนนี้บริษัทตระกูลลู่กำลังเจรจาตกลงแผนธุรกิจสถานบันเทิงที่อยู่ภายใต้ของตระกูลยวี๋"
สีหน้าของอันเฉินรู้สึกลำบากใจ ไม่รู้ว่าเจ้านายไปโดนลมอะไรพัดมา
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พึ่่งนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านั้นบริษัทตระกูลลู่นั้นมีประสงค์ร่วมมือกับตระกูลยวี๋ เพื่อขยายแผนธุรกิจของวงการบันเทิง
"ไปบริษัทเดียวนี้ ฉันต้องการตรวจสอบความเสี่ยงของการร่วมมือนี้ใหม่อีกครั้ง"
ลู่จิ้นยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจโดยกันตบยนโต๊ะ
เมื่ออันเฉินได้ยินเช่นนี้ รู้สึกแย่แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ วางแผนเจรจากันมาอย่างดีและกำลังจะตกลงกันได้แล้ว แล้วทำไมถึงบอกหยุดก็ให้หยุดเลย
เมื่อเวินหนิงกลับมาถึงที่ห้องผู้ป่วย ลู่จิ้นยวนได้จากไปแล้ว เมื่อมองไปที่ห้องว่างเปล่า ความรู้สึกว่างเปล่ากระทบใจเขาชั่วขณะ
แต่ไม่ช้า เวินหนิงก็ส่ายหัวไปมา เป็นไปได้ไง ที่เธอกำลังเพ้อฝันหวังว่าลู่จิ้นยวนจะมาอยู่กับเธอในคืนนี้
เพียงเพราะเขามาเยี่ยมเธอครั้งเดียว คิดไปไกลแล้ว มันจะเป็นกันหลงตัวเองมากไปแล้ว
...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก