เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ เวินหนิงรู้สึกนับถือหนังหหน้าของยวี๋เฟยหมิงนี่หนาจริงๆ
เขาไปเอาความเชื่อมั่นมาจะไหนถึงได้พูดว่าลู่จิ้นยวนนั้นเป็นชายแก่หัวล้านและขี้เเหร่
แม้ยวี๋เฟยหมิงนั้นก็ถือว่าเป็นหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับลู่จิ้นยวนแล้วมันเทียบกันไม่ได้จริงๆ แค่เศษแก้วจะไปเทียบกับเพชรพลอยได้อย่างไร
“ เวินหลานรู้เรื่องพวกนี้หรือเปล่า นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าผู้หญิงอย่างฉันไม่คู่ควรกับนาย แล้วตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่”
เวินหนิงรู้สึกรำคาญมากอยากกำจัดเขาออกไปไกลๆ แต่ยวี๋เฟยหมิงยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอ
"ไหนๆเธอก็ขึ้นเตียงของชายแก่มาแล้ว ยังจะมาแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์อีก มันให้เธอเท่าไหร่ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่มีปัญญาจ่าย"
"สมองนายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ... " เวินหนิงสลัดมือที่ถูกเขาดึงเอาไว้ออก กำลังจะจากไป แต่จู่ๆยวี๋เฟยหมิงก็ใช้วิธีชั่วๆเพื่อที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งหุบปากได้เร็วที่สุดก็คือ จูบเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวินหนิงปฏิเสธเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความปรารถนาที่จะพิชิตที่ซ่อนเร้นของยวี๋เฟยหมิงก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา ตอนนี้เขาแค่ต้องการมห้ผู้หญิงคนนี้ยอมเขา
ยวี๋เฟยหมิงกดไหล่ของเวินหนิงไว้แน่น ทำท่ากำลังจะจูบลงไป
เวินหนิงเบิกตากว้าง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายวี๋เฟยหมิงจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ เธอกำลังจะเอื้อมมือไปตบเขา ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นไม่ไกล “พี่เฟยหมิง พี่สาว”
เวินหลานรีบร้อนวิ่งออกมาจากสตูดิโอไปที่โรงพยาบาลเมื่อเช้านี้ แต่กลับไม่เห็นตัวของยวี๋เฟยหมิง หลังจากที่ถามอยู่ครู่ใหญ่ๆ ถึงรู้ว่าเขาออกมานานเป็นครึ่งค่อนวันแล้ว โทรโทรศัพท์ก็ไม่มีคนรับ
ประหลาดใจ อยู่ๆเวินหลานก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดตรงหน้าประตูห้องผู้ป้วยของเวินหนิงในวันนั้น ดังนั้นจึงได้ตรงมาหาถึงที่นี้ โดยไม่คาดคิดว่าเธอจะเห็นฉากนี้
“ หลานหลาน” เมื่อยวี๋เฟยหมิงเห็นเวินหลานปรากฏตัว ความตกใจของเขาได้ทำให้ความคิดชั่วๆในใจของเขานั้นสลายไปทันที
กับเวินหนิงแล้ว แม้ว่าเขาจะสนใจเธออยู่บ้าง แต่เขาแค่อยากเล่นๆสนุกๆเท่านั้น เพื่อแก้แค้นเธอที่ช่วงนี้ทำให้เขาอับอายต่างๆนาๆ ถ้าหากเขาจะต้องสูญเสียเวินหลานแฟนตัวจริงที่ฐานะครอบครัวดีและยังเป็นถึงดาราดังแนวหน้าแล้วล่ะก็ มันจะไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องสูญเสียไปเลย
"เป็นเพราะเขามายั่วยวนพี่เอง" ยวี๋เฟยหมิงปล่อยมือแล้วยังผลักเวินหนิงออกไปอย่างเต็มแรง เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของเขา
เวินหนิงไม่ทันได้ตั้งตัว เกือบโดนเขาผลักจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น เธอก้าวถอยหลังไปสองสอมก้าว แล้วนวดข้อมือแดงๆที่ถูกผู้ชายคนนี้หยิกจนเจ็บ "ยวี๋เฟยหมิง นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า"
ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนั้นเธอจะตาบอดได้แค่ไหนกัน ถึงได้มองไม่ออกแม้แต่นิดเลยว่ายวี๋เฟยหมิงนั้นเป็นแค่หญ้าอ่อนที่น่าขยะแขยงที่สุด
"เวินหนิง" เวินหลานก้าวเท้าใหญ่เดินเข้าไปพร้อมกับยกมือขึ้นจะตบเธอ "นี่แกยังคงหน้าด้านไม่มียางอายมายุ่งวุ่นวายกับพี่เฟยหมิงอีกเหรอ วันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนให้แกรู้หน่อยแล้ว"
เวินหนิงเหลือบมองเธออย่างเย็นชา ยืนมือไปคว้าข้อมือของเวินหลานไว้ทันที ทำให้เธอลงมือไม่ได้ “นี่เธอคิดว่าตอนนี้ฉันยังจะยอมให้เธอตบตีด่าว่าได้ตามสบายใจชอบเหรอ ตอนนี้เป็นคู่หมั้นของเธอต่างหากที่มาดันรอฉันที่หน้าประตูบริษัท ยังมายุ่งวุ่นวายกับฉัน นี่เธอไม่ไปจับตาเฝ้าดูผู้ชายของเธอดีๆ ยังจะกลับมาสั่งสอนฉันอีกเหรอ "
คำพูดของเวินหนิงแต่ละคำแต่ละประโยค ไม่ได้ไว้หน้าหรือเกรงใจทั้งสองคนแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขาหาความสุขจะการดูถูกดูหมิ่นเธอ แล้วทำไมเธอต้องใจดีกับพวกเขาด้วย
เวินหลานหายใจลึกๆแรงๆกับคำพูดของเวินหนิง ทำไมเธอจะไม่เข้าใจ แต่เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีเธอเลยต้องระงับความโกรธเอาไว้ และเลือกที่จะเอาความโกธรทั้งหมดนี้ลงที่เวินหนิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่สามารถที่จะระงับมันได้อีก
“ หลานหลาน มันไม่ใช่อย่างนั้น ... ฉัน ... ”
ยวี๋เฟยหมิงอยากจะอธิบาย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพูดอธิบายอะไรได้ เพราะว่า เขาเป็นคนที่ปรากฏตัวอยู่ที่ชั้นล่างของบริษัทเวินหนิง ไม่ใช่ว่าเวินหนิงไปหาเขาถึงบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก