เมื่อโทรศัพท์เสร็จ ซ่งรั่วอวิ้นจึงเดินออกมา
เธอจะไปเอาตัวอย่างเลือดด้วยตัวเองที่สนามบิน เรื่องนี้สำคัญมาก จะให้เกิดเรื่องผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
แต่บังเอิญตรงที่ เมื่อเธอจะออกนอกบ้านก็ถูกหยงซือเหม่ยที่มาหาเธอเห็นเข้า “เป็นยังไงบ้าง เรื่องที่ให้เธอไปทำ ทำสำเร็จแล้วเหรอ?
ผู้หญิงคนนั้น ยินยอมที่จะจากไปหรือเปล่า?”
“ฉันกำลังช่วยคุณแม่ของเธอตามหาคนที่มีไขกระดูกที่เข้ากันได้ แค่เพียงหาเจอ เธอจะต้องยกลู่จิ้นยวนให้เธอแน่”
ซ่งรั่วอวิ้นพูดตามความจริง
“อะไรนะ?
หาไขกระดูกที่เข้ากันได้?
ซ่งรั่วอวิ้น เธอไม่ได้ล้อเล่นกับฉันหรอกนะ?
ถ้าหากหาไม่เจอ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีวันไปจากลู่จิ้นยวนเหรอ?”
“ซือเหม่ย เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้...”
“หึหึ ฉันว่าเเธอกำลังเล่นตลกกับฉันอยู่ ช่างเถอะ พูดอะไรกับคนแบบเธอก็สูญเปล่า ฉันสู้ไปหาเพื่อนของฉันยังจะดีกว่า ให้พวกเธอช่วยคิดหาวิธี”
“รอ รอเดี๋ยวก่อน พวกเธอจะคิดหาวิธีอะไร?”
ซ่งรั่วอวิ้นมีลางสังหรณ์ไม่ดีในทันที หลังจากที่หยงซือเหม่ยโตขึ้น นิสัยค่อนข้างดื้อรั้น จึงมีกลุ่มเพื่อนที่จิตใจไม่ค่อยดีชอบส่งเสริมให้เธอทำเรื่องไม่ดี
เธอกังวลว่าหยงซือเหม่ยจะคิดวิธีอะไรที่ร้ายแรง แล้วกลับเป็นการทำร้ายตัวเอง
“เรื่องนี้ เธอไม่ต้องสนใจ”
หยงซือเหม่ยไม่สนใจคำเกลี้ยกล่อมของซ่งรั่วอวิ้นสักนิด แต่กลับผลักเธอออก แล้วออกไปจากบ้าน
มองดูแผ่นหลังของเธอ ซ่งรั่วอวิ้นหมดหนทางเป็นอย่างมาก แต่ว่าเธอเป็นเพียงลูกเลี้ยง ถึงจะพูดอะไร เธอก็ไม่มีทางฟัง
...
เวินหนิงอยู่ภายในโรงแรม เล่นเป็นเพื่อนลู่อันหราน
ส่วนผู้ชายสองคนนั่น เธอไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น
“อันหราน ดูอะไรอยู่เหรอ?”
เวินหนิงอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นลู่อันหรานถือ ipad ดูอย่างจริงจังมาก
“ผมอยากไปที่นี่ ส่วนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ!”
ลู่อันหรานมองดูภาพใบปลิวบนรูปภาพอย่างตั้งหน้าตั้งตา
เห็นเขาอยากไปขนาดนั้น เวินหนิงเดินเข้าไป มองดูภาพใบปลิวบนนั้น “ลูกอยากไปขนาดนี้ งั้นพวกเราไปกันวันพรุ่งนี้”
“จริงเหรอครับ?
ดีมากจริง ๆ ครับ”
ลู่อันหรานดีใจจนกระโดดโลดเต้น “พวกเราเรียกคุณพ่อไปด้วยกันเถอะครับ”
เวินหนิงถอนหายใจ “แม่พาลูกไปไม่ดีเหรอจ้ะ?”
ลู่อันหรานเอนคอมองเธอ “คุณแม่ครับ ช่วงนี้คุณแม่ทะเลาะกับคุณพ่อใช่ไหมครับ?”
ถึงแม้ลู่อันหรานจะโง่ยังไงก็ดูออกได้ ว่าเวินหนิงกำลังหลบลู่จิ้นยวนอยู่
แต่ว่าทำไมนะ?
“ไม่ได้ทะเลาะกันจ้ะ เพียงแต่แม่คนเดียวสามารถพาลูกไปเที่ยวได้ แถมพ่อของลูกก็งานยุ่งมาก”
เวินหนิงไม่ได้แก้ตัวเยอะเกินไป อันที่จริงเธอหวังว่าลู่อันหรานจะค่อย ๆ คุ้นเคยกับชีวิตที่ไม่มีลู่จิ้นยวน
“งั้นก็ได้ครับ...”
ลู่อันหรานจึงทำได้เพียงรับปาก แต่ว่าอารมณ์ไม่ได้ดีขนาดนั้นเหมือนตอนแรก
เวินหนิงทำอะไรไม่ถูก ในเมื่อลู่จิ้นยวนเป็นคุณพ่อของเขา ดูเหมือนทำแบบนี้แน่นอนว่าทำให้เขาไม่ดีใจ แต่ว่าเธอไม่ทำแบบนี้ไม่ได้
ในตอนที่เวินหนิงกำลังคิดหาวิธีทำให้ลู่อันหรานดีใจอีกครั้ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก
เธอมองดู เป็นเมืองเจียงเฉิงด้านนู้นที่โทรมา จึงเดินออกไปรับสาย
คนที่อยู่อีกฝ่ายหนึ่งของโทรศัพท์ รายงานกับเธอถึงสถานการณ์ของไป๋หลินยวี่กับเย่ซือเยวี่ยในตอนนี้
เวินหนิงคิดไปคิดมา จึงโทรหาเย่ซือเยวี่ย
เธอไม่ได้ติดต่อกับเย่ซือเยวี่ยหลายวันแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ได้เตรียมใจพร้อมสำหรับการผ่าตัดหรือยัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก