เวินหนิงได้ยินเธอพูดเช่นนั้นก็นึกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการบริจาคไขกระดูก จึงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาในทันที
แต่ว่า หัวข้อการสนทนานี้ไม่สามารถที่จะพูดขึ้นมาต่อหน้าไป๋หลินยวี่ได้
ดังนั้นเมื่อทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว ซ่งรั่วอวิ้นก็ลังเลอยู่เป็นเวลานาน เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดว่าอะไรก่อนดี เพื่อที่จะพูดเกี่ยวกับความจริงนี้ได้
ความอึมครึมนี้ทำให้จิตใจของเวินหนิงรู้สึกทรมานอยู่ไม่น้อย
เธอกังวลเป็นอย่างมากว่าซ่งรั่วอวิ้นจะเปลี่ยนใจ
“เธอต้องการที่จะพูดอะไรกันแน่........เธอรีบพูดออกมาจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นหัวใจฉันจะทนแบกรับอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว”
เวินหนิงทนฝืนรับความทรมานจากความกดดันนี้ต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงพูดออกมาอย่างเหลืออด
เมื่อซ่งรั่วอวิ้นได้ยินดังว่า สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจ หยิบเอาเอกสารการตรวจสอบดีเอ็นเอออกมา “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนฉันเคยพูดกับเธอเอาไว้ว่า ฉันเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่เคยได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลย
ความจริงแล้ว หลายปีมานี้ฉันก็ตามหาพวกท่านมาโดนตลอด และเมื่อสักครู่นี้เอง ในที่สุดฉันก็หาท่านพบแล้ว”
เวินหนิงดูท่าทีของซ่งรั่วอวิ้น ความคาดเดาอันบ้าบิ่นที่ยากจะเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้นมาในสมองของเธอ
เมื่อสักครู่พึ่งจะหาพบ...........และความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อของซ่งรั่วอวิ้นกับแม่ก็สอดคล้องกันอย่างพอดิบพอดี
บนโลกใบนี้ไม่มีความบังเอิญอย่างไร้เหตุผล
นอกเสียจากว่า........
“เธอเองก็เป็นคนฉลาด ตอนนี้น่าจะเดาออกแล้วใช่ไหม.......ถูกแล้ว เมื่อกี้ฉันได้ไหว้วานให้คุณหมอตรวจดีเอ็นเอ ผลก็ออกมาแล้ว ว่าไป๋หลินยวี่เป็นแม่แท้ๆ ของฉัน”
เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว เป็นชั่วขณะหนึ่งที่เวินหนิงก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบออกไปว่าอย่างไรดี
ต่อให้ได้มีการเตรียมใจถึงเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่สิ่งที่คาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างฉับพลัน หลังจากนั้นก็บอกเธอถึงผลลัพท์ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว จึงทำให้เวินหนิงรู้สึกยากที่จะรับได้
“หลายปีมานี้ ฉันคอยเอาแต่จงเกลียดจงชังพ่อแม่ของตัวเองมาโดยตลอด ในปีนั้นที่พวกเขาเอาฉันไปทิ้งในป่าที่อยู่ในหุบเขาลึก เป็นสถานที่รกร้างที่ไม่มีคนอยู่เลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีชาวบ้านเดินผ่านมาแล้วช่วยฉันเอาไว้พอดี บางที ตอนนี้ฉันก็อาจไม่ได้มายืนคุยกับเธออยู่ตรงนี้แล้วก็ได้
แต่ว่า การที่ได้รู้จักกับเธอมาเป็นเวลามานาน ฉันก็รู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น ดังนั้น ฉันก็เลยอยากรู้ ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ทำไมเด็กสองคนถึงได้ถูกสลับตัวกัน สุดท้ายแล้วมันเป็นอุบัติเหตุ หรือว่ามีใครบางคนตั้งใจทำ”
ซ่งรั่วอวิ้นกัดฟันกรอด เล่าเรื่องทั้งหมดในอดีตที่ไม่มีใครทราบให้เวินหนิงฟัง
เรื่องที่ถูกทอดทิ้ง เป็นบาดแผลชิ้นใหญ่ที่สุดในใจของเธอมาโดยตลอด ซ่งรั่วอวิ้นไม่เคยบอกเล่าความขมขื่นนี้ให้ใครฟังมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก