เจียงซินเฉียวอยู่ข้างในห้อง และเวินหนิงกับลู่อันหรานก็คอยเฝ้าอยู่ที่ข้างนอก
เธอก็พลันนึกถึงเรื่องที่ว่าเวลาการเข้ารับผ่าตัดของแม่ได้ผลสรุปออกมาแล้ว และก็หาตัวลูกสาวแท้ๆ ของแม่ที่หายตัวไปนานหลายปีพบแล้ว นอกจากนี้ไป๋ซินหรานก็ฟื้นขึ้นมา อีกทั้งยังหาคุณแม่พบ เรื่องทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
เวินหนิงอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
หลายวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้กดดันเธอจนแทบจะจมลงไปแล้ว ยังดีที่เธอสามารถรอจนมาถึงวันนี้ที่ดอกไม้ได้ผลิแย้มออกอีกครั้ง
รอให้แม่ผ่าตัดเสร็จก่อน เธอก็จะไปพักผ่อนเสียสักระยะหนึ่ง
“แม่ ถ้าแม่เหนื่อยแล้ว ก็ไปพักสักหน่อยจะดีกว่านะครับ”
ลู่อันหรานรู้ว่าช่วงนี้แม่ลำบากวิ่งวุ่นไปทั่วจึงได้เอ่ยปากพูดออกไป “เรื่องทางนี้เดี๋ยวผมดูเอง”
เวินหนิงส่ายหน้า เธอเองก็ซาบซึ้งกับน้ำใจของลู่อันหราน แต่เพราะว่าตนเองนั้นไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว เธอเลยคิดว่าต่อให้เหนื่อยมากเสียยิ่งกว่านี้ก็ไม่สามารถหนีไปในช่วงเวลาแบบนี้ได้
“ไม่ต้องหรอก อันหราน แม่ของลูกยังสามารถทนต่อไปได้นะ”
ลู่อันหรานเห็นความหนักแน่นของเวินหนิง ก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อให้มากความ
เวินหนิงครุ่นคิด ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างลู่อันหรานและไป๋ซินหรานกำลังดีเสียขนาดนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าหากเธอถูกรับเอาไปแล้ว เขาจะรู้สึกผิดหวังไหม
“อันหราน เมื่อกี้แม่ของไป๋ซินหรานบอกมาว่า จะพาเธอกลับไปด้วย ลูกคิดว่าอย่างไร”
“หืม?”
ลู่อันหรานได้ยินดังว่า ก็เอามือลูบคางอย่างครุ่นคิด มองไปที่เวินหนิงอย่างลังเลนิดหน่อย “เรื่องนั้น.........แม่ ผมมีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกกับแม่ ความจริงแล้วผมขอร้องคุณพ่อ ให้พ่อช่วยออกแรงตามหาคุณแม่ของไป๋ซินหรานแล้วให้มาที่นี่”
ลู่อันหรานรู้ว่าคุณแม่ในตอนนี้ไม่ชอบที่จะให้พ่อยื่นมือเข้ามายุ่ง ดังนั้นก็เลยกลัวว่าจะถูกแม่ด่า
เวินหนิงได้ยินว่าลู่จิ้นยวนยื่นมือเข้ามาช่วย ก็ผงะไปในทีแรก ความรู้สึกภายในใจก็พลันสับสนยุ่งเหยิงขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ สามารถบอกได้ว่าตัวเธอไม่เคยมองลู่จิ้นยวนในทางที่ดีเลย จึงได้แต่คอยตอบปฏิเสธเขามาโดยตลอด
แต่มาถึงตอนนี้ เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเขาที่ออกแรงเข้ามาข่วย อีกทั้งยังเป็นตอนที่มือของเขาได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
เวินหนิงหลุบตาลงต่ำ ราวกับว่ากำลังจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งความครุ่นคิด
ลู่อันหรานเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรเลย ก็พลันรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมา คงไม่ใช่ว่าเพราะด้วยเรื่องนี้ก็จะโทษตนเองอีกนะ?
“แม่ ผมไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจแม่นะ เพียงแต่ว่า.......”
“อันหราน ไม่ใช่เลยลูก แม่ไม่ได้โทษหนู แม่เข้าใจว่าหนูหวังดี”
เวินหนิงถูกเสียงของลู่อันหรานเรียกสติให้ออกมาจากห้วงแห่งความคิดนั้น แล้วจึงส่งยิ้มมองไปที่เขา “เพียงแต่ว่าตอนนี้พ่อของลูกได้รับบาดเจ็บอยู่ ถ้าเรื่องไหนที่พวกเราไม่จำเป็นต้องไปรบกวนเขา ก็อย่าไปรบกวนเขาเด็ดขาดนะ”
เมื่อลู่อันหรานได้ยินคำของแม่ ก็ถอนหายใจออกมา “แม่ ความจริงแล้ว แม่ยังเป็นห่วงพ่ออยู่ใช่ไหม”
เวินหนิงได้ยินดังว่าก็ผงะไปด้วยความตื่นตะลึง และไม่ได้ตอบคำถามออกไป
แต่ว่าลู่อันหรานก็สามารถรู้ความคิดของแม่ได้จากท่าทีตอบกลับนั้น
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอยังคงห่วงใยพ่ออยู่ แต่ว่า ก็เหมือนมีเงื่อนปมอะไรสักอย่างที่ผูกเอาไว้ที่ใจของเธอ
เขาจำเป็นที่จะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว ถึงจะสามารถทำให้แม่เดินออกมาจากหัวใจที่คอยคิดแต่จะปฏิเสธอยู่แบบนี้ออกมาได้.........
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก