ลู่จิ้นยวนมองหน้าเวินหนิงที่แดงเล็กน้อย และเม็ดเหงื่อที่เกาะอยู่ตรงปลายจมูก
"เธอวิ่งมาเหรอ?"
"คือ.....เปล่าค่ะ ฉันกลัวคุณต้องรีบใช้ เลยรีบไปหน่อย" เวินหนิงไม่ได้พูดถึงเรื่องของเวินหลาน เชื่อว่าลู่จิ้นยวนเองก็คงไม่ชอบฟังเรื่องคาวๆแบบนั้น
พอได้ยินแบบนั้น ลู่จิ้นยวนที่มีสีหน้าตึงเครียดก็ยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะรับเอกสารไปจากเธอ "ไม่คิดว่าเธอจะมีความรับผิดชอบในหน้าที่เหมือนกัน"
เวินหนิงพยักหน้ารับอย่างใจลอย ในใจยังเอาแต่นึกถึงเรื่องของเวินหลาน ลู่จิ้นยวนหันไปมองงานเลี้ยงด้านหลังที่เต็มไปด้วยผู้คนพร้อมเครื่องดื่มต่างๆ อีกทั้งยังมีสาวโสดมากมายที่รอเข้าหาเขาอยู่
เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับสังคมจอมปลอมที่ต้อมสวมหน้ากากใส่กันแบบนี้มาก พอเห็นว่าเวินหนิงกำลังจะกลับ ก็พูดขึ้น "ฉันกำลังมองหาคู่ควงเข้างานอยู่ เธอมาเป็นให้หน่อยแล้วกัน"
เวินหนิงที่เพิ่งดึงสติกลับมา ตกใจจนตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน
ล้อเล่นใช่มั้ย ตอนนี้เธอยังใส่ชุดฟอร์มสีขาวดำของบริษัทตระกูลลู่อยู่เลย ในขณะที่คนในงานเลี้ยงแต่งตัวกันมาสวยงามหรูหราแบบนั้น ขืนให้เธอเดินเข้าไปแบบนี้ มีหวังคนในงานได้หัวเราเยาะเธอตายแน่?
"เดี๋ยวฉันพาเธอไปซื้อชุดเอง" ลู่จิ้นยวนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยไม่ปล่อยให้เวินหนิงมีโอกาสปฏิเสธ
".............." เห็นความตั้งใจของเขาแล้ว เวินหนิงก็ไม่กล้าขัดอะไร เพราะยังไงแล้วตอนนี้เขาเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของเธอ "แต่ ถ้าเราเข้าไปด้วยกันแบบนี้ จะไม่มีปัญหาอะไรตามมาทีหลังเหรอคะ"
ลู่จิ้นยวนไม่รีรอให้เธอได้พูดอะไรอีก เขาดึงมือเธอขึ้นรถไป ไม่นานรถก็มาถึงสถานที่ที่หนึ่งที่ไกลออกมา " ที่นี้ล่ะ "
เวินหนิงค่อยๆลงจากรถ ขณะเงยหน้ามองป้ายหน้าร้าน ในใจเธอก็กระตุกวาบขึ้นมาเล็กน้อย
ที่ที่ลู่จิ้นยวนพาเธอมานั้นเรียกว่าหลานเมิ่ง เป็นร้านดีไซน์เนอร์เสื้อผ้าชื่อดังในเมืองเจียงเฉิน เมื่อตอนที่แม่เธอยังแข็งแรงอยู่ ก็เคยพาเวินหนิงมาที่นี้
แม่จะพูดเสมอว่า "หนิงหนิงเป็นเจ้าหญิงน้อยของแม่ ต้องแต่งตัวสวยๆนะรู้มั้ย"
หลังจากลู่จิ้นยวนจอดรถเสร็จ ก็หันมามองเวินหนิงที่ยืนนิ่งอยู่หน้าร้าน ยังไม่ทันได้ทักขึ้น เขาก็สังเกตเห็นความเศร้าสร้อยและเจ็บปวดในแววตาเธอ ในความนิ่งเฉยของเธอแฝงด้วยความเศร้าหมองจนยากที่จะละสายตาได้
น้ำเสียเขาที่ทักขึ้นอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว "เข้าไปเถอะ"
เวินหนิงพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป ทันใดนั้นเธอก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ "ฉันจำได้ว่าที่นี่ต้องนัดล่วงหน้า เราเข้ามาแบบนี้ จะไม่เป็นไรเหรอคะ?"
"คนที่ต้องนัดล่วงหน้าคือเธอ ไม่ใช่ฉัน" ลู่จิ้นยวนพูดขึ้นอย่างวางตัว แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง พอเขาพาเธอเดินเข้าไปปุ๊บ ก็มีคนมาต้อนรับทันที แล้วพาพวกเขาไปยันห้องVIP
ดูแล้ว เธอยังประเมินอำนาจบารมีของลู่จิ้นยวนที่มีในเมืองเจียงเฉินต่ำไป ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนชีวิตของเวินหนิงก็ถือว่าดีอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเทียบกับตระกูลลู่แล้ว ยังถือว่าห่างไกลกันมากนัก
ทั้งสองรออยู่ชั่วครู่ ก็มีชายหนุ่มผมยาวคลุมบ่าเดินเข้ามา ก่อนจะจ้องไปที่ลู่จิ้นยวนแล้วเลื่อนสายตาไปมองหน้าเธอ แล้วยกมุมปากยิ้มอย่างร้ายๆ "นี่สงสัยพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วมั้ย? คุณชายลู่ถึงได้พาผู้หญิงมาที่นี่ได้ ทั้งที่ไม่ได้มาตั้งหลายปีแล้ว"
เฉิงหยางจ้องไปที่ลู่จิ้นยวน และพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน เนื่องจากพวกเขาเป็นเพื่อนกันจึงพูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง
ลู่จิ้นยวนมองเขาแวบหนึ่ง "พูดมากน่ะ รีบทำผมและหาเสื้อให้เธอเลย"
พอเห็นว่าลู่จิ้นยวนยังคงเอาใจยากเหมือนเดิม เฉิงหยางก็ส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางเวินหนิงที่นั่งเกร็งอยู่ข้างๆ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก