บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 99

คิดถึงตรงนี้ หลิวเมิ่งเซวี่ยก็กำมือแน่นจนเล็บจิกเข้ากับฝ่ามือจนเป็นรอย ก่อนจะมองไปยันมุมที่เวินหนิงยืนอยู่ด้วยสายตาเครียดแค้น

หลังจากที่ลู่จิ้นยวนติดต่อคนข้างนอกได้แล้ว พนักงานซ่อมบำรุงก็รีบมาทันที คนที่ติดอยู่ในลิฟต์คือลู่จิ้นยวน จะให้ติดอยู่นานได้ยังไงกัน ชักช้าอาจถูกลงโทษได้

ดังนั้น ลิฟต์จึงซ่อมเสร็จภายในเวลาไม่นาน

ไฟค่อยๆสว่างขึ้น ลู่จิ้นยวนปรายตามองไปทางเวินหนิงแวบหนึ่ง อาจเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สีหน้าเธอดูซีดขาว ริมฝีปากทีปกติจะเป็นสีอมชมพูก็ดูซีดเซียวลง มือเธอกุมอยู่บนท้องน้อยแน่น สีหน้าดูตึงเครียด

เธอแคร์เด็กคนนี้มากขนาดนี้เลยเหรอ?

ลู่จิ้นยวนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที มองไปที่สองสาวแวบหนึ่งก่อนจะวางตัวสุขุมเหมือนเดิม "พวกเธอออกไปก่อน"

เวินหนิงพยักหน้ารับ กำลังจะเดินออกไป แต่เกิดเข่าอ่อนยวบขึ้น เกือบล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ถ้าไม่ใช่เพราะลู่จิ้นยวนสายตาไวพอจึงเข้ามารับเธอไว้ทัน

"ขอบคุณค่ะ ฉันไม่ทันได้ดูทาง"

เวินหนิงรีบกล่าวขอบคุณ อาจเป็นเพราะมีลูก เดี๋ยวนี้เธอจึงไม่เข้มแข็งเหมือนเมื่อก่อน แค่ติดอยู่ในลิฟต์แค่นี้ ก็ทำให้เธอตื่นตกใจแทบแย่

แต่เวินหนิงก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่ลู่จิ้นยวนเข้ามาประคองเธอ เขาเกลียดเด็กในท้องเธอมากไม่ใช่เหรอ?

"ระวังตัวด้วย" ลู่จิ้นยวนหงุดหงิด มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติโดยที่เขาไม่รู้ตัว พอตั้งสติได้เขาจึงดูประหลาดนัก

ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ก็แท้งไปสิ ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาซะหน่อย?

หลิวเมิ่งเซวี่ยมองดูความสัมพันธ์ของทั้งสองแล้ว ในใจก็เข้าใจอะไรขึ้นมา

หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่อยากเห็นภาพที่ลู่จิ้นยวนประคองเวินหนิงไว้แบบนั้น จึงทำเป็นมีน้ำใจแทรกตัวเข้าไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "เวินหนิงไม่สบายแบบนี้ ให้ฉันประคองเธอออกไปดีกว่าค่ะ ท่านประธานลู่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ"

พูดเสร็จก็ประคองเวินหนิงเดินออกไปทันที

เวินหนิงรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เป็นมิตรขึ้นมาอย่างทันด่วนของหลิวเมิ่งเซวี่ย แต่เพราะเมื่อครู่เธอตกใจจนมีอาการปวดท้องน้อย และรู้สึกไม่สบายตัว เลยไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจากหลิวเมิ่งเซวี่ย

"ประธานลู่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเธอมากนะ"

หลิวเมิ่งเซวี่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่พยายามเก็บความเจ็บใจไว้ในใจ

"ก็ไม่นะ ก็แค่......เขาคงเห็นว่าสีหน้าฉันดูไม่ดีเท่าไหร่ กลัวว่าฉันจะเป็นอะไรขึ้นมา เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่บริษัทฯ เป็นข่าวออกไปคงไม่เป็นผลดีเท่าไหร่"

เวินหนิงรีบปฏิเสธ เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด

หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอประคองเวินหนิงมาส่งถึงที่ ก่อนจะพูดขึ้น "ฉันอาจยังไม่เข้าใจอะไรหลายอย่าง ต่อไปต้องรบกวนเธอช่วยแนะนำด้วยนะ"

เวินหนิงเห็นเธอพูดอย่างนอบน้อม จึงพยักหน้าตอบรับ

...............

หลังจากนั้น หลิวเมิ่งเซวี่ยมีอะไรก็จะไปหาเฉินหนิง

และเพราะเวินหนิงเข้าใจความรู้สึกของการถูกคนอื่นดูถูกในที่ทำงานมันเป็นยังไง เธอจึงไม่เคยปิดบังอะไรหลิวเมิ่งเซวี่ย พยายามช่วยเหลือเธอทุกอย่างเพื่อให้เธอปรับตัวกับการทำงานที่นี่ให้ได้

ยังไงแล้วหลิวเมิ่งเซวี่ยก็เป็นเด็กนักศึกษาที่ต้องทำงานส่งตัวเองเรียนคนหนึ่ง สำหรับคนที่เจอสถานการณ์ลำบากเหมือนกันแล้ว เธอก็ค่อนข้างจะเข้าใจและเห็นอกเห็นใจเป็นพิเศษ

ไม่นานทั้งสองก็สนิทสนมกันมากขึ้น

ในเย็นวันศุกร์ หลังเลิกงาน ขณะที่เวินหนิงกำลังจะออกจากบริษัทฯ หลิวเมิ่งเซวี่ยก็เดินมาคล้องแขนเธอไว้ "เวินหนิง ช่วงนี้เธอช่วยสอนงานฉันมากมาย จนฉันไม่รู้จะตอบแทนเธอยังไงแล้ว พ่อกับแม่บอกว่าให้ชวนเธอไปกินข้าวที่บ้านสักมื้อ วันนี้เธอพอมีเวลามั้ย?"

เวินหนิงลังเลเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก