ตอน บทที่ 436 เกลียดสิ่งไหนมักเจอสิ่งนั้น สิ่งหนึ่งมักแพ้ทางอีกสิ่งหนึ่ง จาก สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 436 เกลียดสิ่งไหนมักเจอสิ่งนั้น สิ่งหนึ่งมักแพ้ทางอีกสิ่งหนึ่ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ที่เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่ 436 เกลียดสิ่งไหนมักเจอสิ่งนั้น สิ่งหนึ่งมักแพ้ทางอีกสิ่งหนึ่ง
"ไม่เหมือนกันตรงไหน"
เย้นเจิ้นจื๋อสงสัย เขาภูมิใจที่ลูกชายกำลังจะหาลูกสะใภ้ได้ เขาจึงดีใจเป็นอย่างมาก
กงจืออวีขมวดคิ้ว “รู้สึกว่าระหว่างเขากับเสี่ยวหว่าน ดูเหมือนจะสป๊าร์คกัน”
“สป๊าร์คกัน? อย่างนั้นก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ! ถ้าเสี่ยวหว่านสามารถเปิดใจให้กับคนอื่น ก็แสดงว่าเธอสามารถเดินออกมาจากความรักครั้งก่อนได้แล้ว”
เย้นเจิ้นจื๋อพลางยิ้มแล้วตบที่ไหล่เบาๆของกงจืออวี “คุณจะกังวลทำไม ถ้าหากเป็นข่าวดีทั้งคู่ก็ดีนะสิ พวกเราจะได้อุ้มหลานในเวลาคราวเดียวกันไง”
ถ้าเสี่ยวหว่านชอบคนอื่นเข้าจริงๆก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน เพียงแต่…..”
แววตากงจืออวีดูซับซ้อน และมีความกังวลเล็กน้อย
เสี่นวหว่านเจ็บปวดจากโห้หลีเฉินขนาดนั้น แล้วจะเปิดใจให้ชายอื่นได้อย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ
เรื่องบางเรื่องราบรื่นเกินไป ก็ดูคล้ายจะผิดปกติ
ณ ฟลอร์เต้นรำ เย้นหว่านเต้นตามสเต็ปการเยื้องย่างของกู้ซึง เขาจึงดึงเธอให้คล้อยตามเขาได้อย่างง่ายดาย
เดิมทีเธอไม่ชอบการเต้นรำ ยิ่งไม่ชอบเต้นคู่กับผู้ชายต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นเธอเต้นกับหยูซือห้านรู้สึกแข็งกระด้าง และรู้สึกทรมาน แต่เวลานี้เธอเต้นตามสเต็ปกู้ซึง กลับรู้สึกผ่อนคลาย และยังรู้สึกเพลิดเพลินสนุกไปกับการเต้นรำ
เต้นไปเต้นมา หัวใจของเธอล่องลอยตามเขาไป คนรอบข้างต่างจ้องมอง จนแทบจะอ่อนระทวยตาม
ในสายตาของเธอแทบจะมองเพียงแต่เขาเท่านั้น
กู้ซึงโอบเย้นหว่าน ก้มหน้าเล็กน้อย แล้วจ้องมองเธอ
เผยรอยยิ้มขี้เล่นที่มุมปาก "จ้องผมขนาดนี้ ตกหลุมรักผมเหรอ”
เย้นหว่านชะงัก แก้มแดงขึ้นเล็กน้อย
เธอพูดเสียงต่ำๆ : “แล้วไม่ได้เหรอคะ พี่ชาย”
เสียงเรียกพี่ชายนั้นนุ่มนวลราวกับน้ำ ได้ละลายเข้าไปในแก้วหูของชายหนุ่ม
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่า คำว่าพี่ชายสองคำนี้ช่างเสนาะเพราะพริ้งอะไรเช่นนี้
แขนของเขาที่โอบอยู่ที่เอวของเธอ ได้ดึงรวบเธอเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
ระยะห่างของทั้งคู่จึงใกล้ชิดกันในบัดดล จนร่างแทบจะแนบติดกันกับอีกฝ่าย ริมฝีปากที่บางเบา กั้นด้วยระยะห่างเพียงน้อยนิด ก็เกือบจะประกบติดเข้าด้วยกัน
เขาจ้องมองเธอ สายตาอันมืดมิดกำลังเปล่งประกายด้วยเปลวไฟ
พูดด้วยน้ำเสียงขรึมว่า : “แล้วคุณอยากให้ผมตอบกลับว่าอย่างไร”
ลมหายใจของชายหนุ่มได้เข้ามาใกล้ แม้ว่าจะเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย แต่ลมหายใจของเขานั้น เธอคุ้นเคยดี คุ้นเคยจนฝังลึกเข้าไปในกระดูก
เธอปล่อยให้เขาโอบกอดได้อย่างตามใจ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอเพียงเป็นคุณ อย่างไรก็ได้”
ดวงตาของชายหนุ่มหรี่ลงอย่างกะทันหัน แสงในดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้น
เขาโอบกอดรัดเธอแน่น
ลูกกระเดือกของเขากำลังเคลื่อนไหว สักพัก ดูเหมือนจะบดฟันขบกันพูดสองสามคำออกมาจากริมฝีปากของเขา
“เย้นหว่าน ผมอยากแอ้มคุณตอนนี้จริงๆ!”
น้ำเสียงนั้น เสียงของการบดฟันขบกันที่ไม่สมดั่งใจปรารถนาที่เย้นหว่านคุ้นเคย
เธอหน้าแดง อดไม่ได้จึงยิ้มหัวเราะขึ้น
ดวงตาหยักโค้งสดใสราวกับดวงดาวที่สว่างไสวบนท้องฟ้า
ความกำยำของชายหนุ่ม ใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาว ควบคู่กับลีลาท่าเต้นที่งามวิลาส ช่างเป็นภาพที่งดงาม จนทำให้ผู้คนรอบข้างเห็นแล้วแทบอยากจะหาคู่รักในทันที
ท่ามกลางฝูงคน หยูซือห้านได้ลุกขึ้นยืนตรง พร้อมกับแผ่กระจายบรรยากาศที่เยือกเย็น
สายตาของเขามองเย้นหว่านกับกู้ซึงอย่างเย็นยะเยือก มือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสูท ได้กำหมัดแน่น ส่งเสียงกระแอมขึ้น
วันนี้เดิมทีเป็นโอกาสดีที่เขาจะประกาศความสัมพันธ์กับเย้นหว่าน แต่กลับนึกไม่ถึงว่า ไม่เพียงแต่ไม่เป็นดังที่คิดไว้ ตอนนี้ยังกลับโผล่ชายหนุ่มมาหนึ่งคน มาเต้นรำคู่กับเย้นหว่านต่อหน้าผู้คน!
ความใกล้ชิดของพวกเขาสองคน และบรรยากาศที่อบอุ่น ช่างดูเหมือนคู่รักยิ่งกว่าเขาในตอนนั้นเสียอีก
ชายเสื้อดำตกตะลึง ลงมือในเขตบ้านของตระกูลเย้น เกรงว่าไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไหร่
เขาลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทีที่เย็นยะเยือกของหยูซือห้าน ทำให้เขาไม่กล้าที่จะลังเลแม้แต่นิดเดียวอีก จึงรีบรับคำสั่งทันที
การเต้นรำได้จบลง
เสียงปรบมือพร้อมเพรียงกันของผู้คนในงานได้ดังขึ้น
การเต้นรำที่ร้อนแรงเมื่อสักครู่ของเย้นโม่หลินกับกู้จื่อเฟยก็จบลง และได้รีบแยกตัวออกจากกันทันที
ใบหน้าที่เคร่งขรึมและหล่อเข้มของเย้นโม่หลินยืนอยู่ข้างๆกู้จื่อเฟย ที่เว้นช่วงห่างสองก้าว
กู้จื่อเฟยมองเขาด้วยความเซ็งและหมดคำพูด : “ พี่เย้น ฉันไม่ใช่โรคระบาดหรือสัตว์ประหลาดที่จะกินพี่ได้สักหน่อย ทำไมต้องเว้นระยะห่างขนาดนั้นด้วย อีกอย่างเมื่อสักครู่ที่เต้นรำกัน แม้แต่เอวพี่ก็จับแล้ว ตอนนี้จะมารักษาระยะห่างมันไม่ทันแล้วมั้ง”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเย้นโม่หลินเริ่มตึงขึ้น
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจในตัวหญิงสาว และไม่เคยใกล้ชิดกลับหญิงสาวเช่นนี้มาก่อน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าการเต้นรำคู่กับกู้จื่อเฟยจะวุ่นวายขนาดนี้ เขาก็คงจะปฏิเสธไปตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “เต้นเสร็จแล้ว ก็สมควรที่จะแยกย้ายกัน ผมขอตัวไปหาเสี่ยวหว่าน……”
เย้นโม่หลินพูดแล้วก็มองไปทิศทางของเย้นหว่าน แต่กลับเห็นกู้ซึงกำลังจับมือของเย้นหว่าน และทั้งคู่ได้ร่วมกันกล่าวขอบคุณท่านผู้ชมอย่างสนิทสนม จากนั้นก็จูงมือกันแล้วเดินจากไป
แผ่นหลังที่เดินลอยชายนั้น ไม่แม้แต่จะหันมามองทางเขาสักนิด
เย้นโม่หลิน:“……”
ในสายตาน้องสาวคนนี้ ยังมีพี่ชายคนนี้อยู่บ้างหรือเปล่า
กู้จื่อเฟยเห็นท่าทางของเย้นโม่หลิน จึงแอบยิ้มขึ้น
เธอเดินไปด้านหน้าของเย้นโม่หลิน กะพริบตาปริบๆแล้วพูดอย่างน่าสงสารว่า :
“ พี่เย้น พี่ดูสิเสี่ยวหว่านยังมีคนอยู่เป็นเพื่อน ฉันอุตส่าห์มาตั้งไกล มาถึงที่นี่ ไม่รู้จักใครสักคน ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ไม่รู้เลยว่าควรจะทำอย่างไรถึงจะดี พี่จะเดินเป็นเพื่อนสักหน่อยได้ไหม จะได้คุ้นเคยกับสถานที่บ้าง”
คำขอที่ดูสมเหตุสมผล เหมือนจะไม่มีข้อผิดปกติ
แต่เย้นโม่หลินเป็นชายหนุ่มที่มีกะจิตกะใจพาหญิงสาวไปเดินเล่นซะที่ไหนล่ะ เขายังต้องการจะไปดูเย้นหว่านด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...