ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ หลิวจิ่งหมิงรู้ทางเลือกเป็นอย่างดี และรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าการเสียสละผลประโยชน์เล็กน้อย เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนมากไว้
เขากล่าวกับผู้จัดการของบริษัทเทคโนโลยีหรงหยาว่า "อย่างที่คุณเห็น บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อไม่รู้ในเรื่องนี้เลย สวีหวยจงขโมยเทคนิคของบริษัทคุณเพื่อประโยชน์และชื่อเสียงของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง"
"แต่คุณโปรดวางใจเถอะ ผลงานของสวีหวยจงจะถูกลบออกจากชั้นวางทันที และพวกเราจะร่วมมือกับบริษัทของคุณดำเนินการฟ้องร้องสวีหวยจง"
หลิวจิ่งหมิงสั่งให้ฉางเซี่ยงตง "โทรแจ้งตำรวจทันที และจับกุมสวีหวยจงเอาไว้"
"ครับ!!!"
ฉางเซี่ยงตงโทรแจ้งตำรวจอย่างไม่ลังเล และผลักความรับผิดชอบไปให้สวีหวยจงทั้งหมด
แม้ว่าทุกคนจะรู้สึกว่าสวีหวยจงเป็นเพียงแพะรับบาป และคนร้ายตัวจริงจะเป็นคนอื่น แต่อย่างน้อยตอนนี้ สวีหวยจงเป็นผู้ร้ายเพียงคนเดียว
ไม่นาน ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและจับกุมสวีหวยจงออกไป
ขณะที่สวีหวยจงถูกพาตัวไป เขาตะโกนเสียงดัง คุมสติตนเองไม่อยู่ ก่อนหน้านั้นเขายังรู้สึกภูมิใจตนเอง ทำไมตอนนี้ถึงได้มีสภาพเช่นนี้?
เขายังคงสาปแช่ง
และยังคงเสียใจ
เมื่อเห็นสภาพของสวีหวยจงตอนที่ถูกพาตัวออกไป เหมียวถงตบหน้าอกตนเอง และรู้สึกหวาดกลัวอยู่ครู่หนึ่ง
มันน่าหวาดเสียวจริง ๆ
ถ้าเช้าวันนี้เจียงชื่อไม่เตือนเธอ เธอคงจะไม่สามารถหลบเลี่ยงการล่อลวงของสวินหยางได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ตอนนี้สวีหวยจงไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ถูกตำรวจพาตัวไป
เหมียวถงรู้สึกขอบคุณที่เขารอดพ้นจากภัยพิบัติ
เธอหันไปมองเจียงชื่อ และกระซิบว่า "ขอบคุณ"
สีหน้าเจียงชื่อว่างเปล่า ราวกับว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย และแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำขอบคุณของเหมียวถง
เหมียวถงรู้ว่าเจียงชื่อกำลังแสดงละครอยู่
ชายคนนี้มีความลับมากมาย เขารู้แผนของสวินหยางได้อย่างไร? และจุดประสงค์ที่เจียงชื่อเข้ามาทำงานในบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อ ความลับเหล่านี้ทำให้ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...