ในขณะนั้นเอง ถานเฉิงยี่จู่ ๆ หันกลับไปมองถานหย่งเซิ่ง ถามว่า “จิ้งจอกเฒ่า เจียงชื่อนี้ฉันเป็นคนจัดการขจัดทิ้ง หอดาวเดือนมีผลงานได้ขนาดนี้ ก็ฉันเป็นคนรังสรรค์ออกมา หอดาวเดือนจัดตั้งขึ้นมาก็เป็นชื่อของหลานในไส้ของท่าน โดยหลักการแล้วก็ต้องฉันเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน เป็นนายของตัวจริงของหอดาวเดือน!”
งานเข้าแล้ว การแย่งชิงผลประโยชน์กันมาแล้ว
หมากนี้ของเขาถูกถานหย่งเซิ่งคาดไว้แล้วตั้งแต่ต้น
ถานหย่งเซิ่งกับพ่อบ้านเฒ่ามองหน้าสบตากัน ต่างก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน ในใจพูดเหมือนกันอยู่ว่าถานเฉิงยี่จะมองเรื่องทั้งหมดง่ายเกินไปแล้วมั้ง?
“เฉิงยี่ แกเอาอะไรมาอ้างว่าแกรู้สึกจะเป็น ‘นายของ’ หอดาวเดือนนะ?”
ถานหย่งเซิ่งใช้สายตามองอย่างลึกซึ้งไปที่ถานเฉิงยี่ แววตาส่อเต็มไปอย่างหยอกล้อ เหมือนกำลังมองดูคนปัญญาอ่อน
ถานเฉิงยี่ก็รู้สึกถึงมีความผิดปกติ
เขาพูดขึ้นว่า “หอดาวเดือนก็ฉันเองเป็นคนสร้างขึ้นมากับมือ บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งเล่อก็ฉันเองเป็นคนจัดการยึดมา ฉัน.....”
ถานหย่งเซิ่งยกมือขึ้นปรามตัดบทการพูดของเขา “พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกนี้จะมีสาระอะไรกันหรือ?เฉิงยี่เอ๋ย ที่แกทำมานี้ก็เพื่อแก้แค้นให้กับกั๋วต้งลูกชายนายไม่ใช่หรือ?เรื่องชื่อเสียงลาภยศสำหรับนายนั้นแล้ว ล้วนเป็นเรื่องนอกกาย ไยต้องฝืนเอาทำไม?”
เรื่องทั้งหมดมาถึงตรงนี้แล้ว ใคร ๆ ก็เห็นได้ว่า ถานหย่งเซิ่งไม่มีเลยที่คิดจะยกตำแหน่งนี้ออกไป
ทำล้อเล่นไป จะยอมให้ได้ยังไง?
ต้องอย่าลืมว่า เวลานี้สินทรัพย์กว่าร้อยละแปดสิบของตระกูลถานทั้งหมดล้วนทุ่มอยู่ในหอดาวเดือน ใครกุมอำนาจหอดาวเดือน ใครคนนั้นก็คือผู้กุมอำนาจตระกูลถานตัวจริง
ถ้าปล่อยให้ถานเฉิงยี่เป็นผู้กุมอำนาจหอดาวเดือน ถานหย่งเซิ่งก็จะกลายเป็นแค่เจ้าบ้านตระกูลถานในนามเท่านั้น มีสิทธิ์จะถูกขจัดทิ้งได้ทุกขณะ
หอดาวเดือนอันเป็นผลรางวัลแห่งชัยชนะนี้ ช่างหอมหวนเย้ายวนจริง ๆ
ไม่มีใครสามารถปฏิเสธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...