ผู้คนส่วนใหญ่ในที่เกิดเหตุได้เห็นใบหน้าของจวินเซียนแล้ว นักข่าวทั้งหลายก็ได้ถ่ายวิดีโอและรูปภาพด้วย ตอนนี้คิดจะเอามือปิดหน้าก็สายเกินไปแล้ว
โดยเฉพาะผู้ที่มาในวันนี้ หลายคนมาที่นี่เพราะชื่อเสียงของเธอ และตอนนี้เมื่อเห็น 'รูปลักษณ์ที่น่าเกลียด' นี้ รู้สึกเหมือนว่าถูกหลอก
“ให้ตายเถอะ หน้าตาขี้เหร่ขนาดนี้ยังจะมาเป็นศิลปินอีกเหรอ?”
“เซ็งจริงๆ กูให้เงินไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แค่คิดก็เจ็บปวด”
“น่าขยะแขยงจริงๆ!ผมยังเพ้อฝันว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวย สุดท้ายกลับอัปลักษณ์แบบนี้ พัง พังทลายหมดแล้ว คนรักในฝันของผม พังยับเยิน”
“ไอ้คนโกหก ไอ้คนหลอกลวง!”
ลูกค้าเหล่านั้นต่างก็ยืนขึ้นจนหมด และด่าว่าจวินเซียน
คำว่า 'คนโกหก' พุ่งออกมาจากปากของผู้ชมอย่างต่อเนื่อง และนักข่าวก็กดปุ่มชัตเตอร์เพื่อบันทึกฉากที่ยุ่งเหยิงและวุ่นวายนี้
เป็นข่าวใหญ่แน่นอน
การด่านั้นถือว่าสุภาพแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนหยิบจานหยิบตะเกียบบนโต๊ะทุบใส่จวินเซียน!
ชั่วขณะหนึ่ง จวินเซียนเป็นเหมือนหนูที่วิ่งเพ่นพ่านบนถนน ทุกคนต่างส่งเสียงร้องว่าตีให้ตาย กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดีอดฉันท์
"อ๊าก~!!!"
จวินเซียนนั่งยองๆอยู่บนพื้น อดทนต่อความอัปยศที่เธอไม่ควรทน
ในเวลานี้ เมษรีบวิ่งออกไป จับไข่เป็ดเค็มที่ถูกโยนมา เขาหันหลัง เดินไปสองสามก้าว และยัดไข่เป็ดเค็มเข้าไปในปากของคนที่ขว้างมันออกมา
"คุณทำอะไรของคุณ?"
“ทำไมมา...”
ก่อนที่ลูกค้าจะพูดจบ เมษก็ชกหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง ภายในไม่กี่วินาที ก็ชกลูกค้าที่ขว้างสิ่งของเจ็ดแปดคนหมดสติในที่เกิดเหตุทันที
เขาโกรธจริงๆ
ความชื่นชอบของเมษที่มีต่อจวินเซียนนั้น มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
แม้แต่ตอนที่เขาเห็นใบหน้าอีกซีกที่น่าเกลียดของจวินเซียน เขาก็ไม่ลืมความตั้งใจเดิมของเขา สิ่งที่เขาชื่นชอบคือเสียงไพเราะของจวินเซียน รวมถึงความกระตือรือร้นของเธอที่มีต่อวัฒนธรรมในโบราณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...