ในค่ำคืนนี้ ทั้งสองได้เปิดใจคุยกันอีกครั้ง
และนี่เป็นใครแรกที่เจียงชื่อได้แสดงมุมที่อ่อนโยนของเขา เพราะถึงแม้เขาจะเป็นเทพแห่งสงครามชูร่า แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีเนื้อหนังคนหนึ่ง
แม้จะเป็นผู้ชาย แต่ก็มีวันหนึ่งที่จะรู้สึกเหนื่อยได้ถ้าต้องทนรับกับเรื่องบางเรื่องตลอดเวลา
ดังนั้นหลังจากที่เขาได้พูดความในใจออกไป เขาจึงรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แต่แล้ว......
คนที่ทำลายบรรยากาศในค่ำคืนนี้ก็ปรากฏ
ทันใดนั้น ชายกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวหรูหราได้ขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาในสวนนั้น
เมื่อคู่รักต่างๆ ที่เห็นคนกลุ่มนั้น พวกเขาก็รีบลุกขึ้นแล้วหยิบข้าวของและเตรียมตัวออกไปจากที่นี่ทันที
จากนั้นมีคนใจดีที่เดินผ่านเจียงชื่อได้เตือนเขาว่า “พวกคุณยังอยู่กันทำไม? พวกหมอกแดงมาแล้ว ยังไม่มีออกไปอีก เดี๋ยวก็เจอดีหรอก!”
เจียงชื่อขมวดคิ้วอย่างสงสัย
หมอกแดง?
เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยจริงๆ อีกอย่างวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส และเวลาก็ยังไม่ถึงเที่ยงคืน นอกจากนี้เขายังเตรียมของที่จะให้ติงเมิ่งเหยนอีกด้วย
จะให้กลับไปเวลานี้ มันจะไม่เสียบรรยากาศเกินไปหน่อยหรือ?
เจียงชื่อยิ้มแล้วส่ายหัวตอบ “เรายังไม่ไปไหนครับ”
และคนใจดีคนนั้นก็ถอนหายใจตอบ “อย่าหาว่าไม่เตือนนะ ไปก่อนละ”
ในไม่ช้า ทุกคนในสวนสาธารณะก็ออกจากพื้นที่กันหมด แม้แต่คนเฒ่าคนแก่ก็ไม่มีใครกล้าอยู่ต่อสักคน
คนของหมอกแดงขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปก่อความวุ่นวายในสวนสาธารณะ พวกเขาชนทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่เว้นแต่ผู้คนที่เดินอยู่บนถนน
คนอื่นไม่มีใครกล้าต่อว่าพวกเขาเลยสักคน ทำได้เพียงคิดว่าตัวเองโชคร้ายที่ต้องมาเจอกับคนกลุ่มนี้ ทุกคนรีบหนีออกไปโดยที่ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจต่อพวกเขาเลย
จากนั้นคนกลุ่มนี้ก็ขี่รถซิ่งแล้วหยิบเครื่องพ่นสีออกมาและเริ่มพ่นสีไปทั่วสวนสาธารณะแห่งนี้ พวกเขาได้เปลี่ยนสภาพของสวนสาธารณะฮัวไห่ตามใจชอบ
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ เจียงชื่อก็รู้สึกโกรธมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...