ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมาว่า "ลูกของฉันจะตายอยู่แล้ว พวกท่านอย่าชักช้ากันอยู่เลย รักษาได้ก็รีบมาเถอะ!"
สือควนขมวดคิ้วพร้อมกับถามทุกค "ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?"
ท่ามกลางฝูงชน เจียงชื่อเกือบจะหลุดขำออกมาเข้าให้ สือควนคนนี้ควรใช้คำว่า'หน้าซื่อใจคด'คงจะเหมาะที่สุด
ในเมื่อเขาพูดมาถึงขั้นนี้และเด็กเองก็รีบร้อนที่จะได้รับการรักษาด้วย
ถ้าลองได้ก็ต้องยอม มีเหตุผลอะไรที่จะไปหยุดยั้งกันล่ะ?
ที่เขาทำขนาดนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้พฤติกรรมของสือเหวินปิ่งนั้นน่าเชื่อถือกว่าเดิม ไม่เพียงแต่ยกยอปอปั้นสือเหวินปิ่ง แต่ยังช่วยรักษาหน้าตาของเหล่าแพทย์ๆ นี้ด้วย
ถึงจะเป็นคนปลิ้นปล้อนขนาดนี้ สือควนนี่เป็นคนมีพรสวรรค์จริงๆ
ฝูงชนจะพูดอะไรได้ล่ะ?ต่างพากันพยักหน้า
"รักษาเขาเถอะ จะสำเร็จหรือไม่ก็ลองดูก่อน"
"ใช่แล้ว พวกเราสนับสนุนคุณชายสือ"
สือควนถอนหายใจพร้อมกับขยับร่างกาย "ไหนๆ แล้ว ฉันก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่อดทนต่อความเย่อหยิ่งของเขา ขอบคุณครับ"
"เฮ้ คุณสือเกรงใจเกินไปแล้ว!"
"หมอที่ดีมีฝีมือและมีคุณธรรมอย่างคุณหมอสือนั้นมีไม่มากเลยครับ"
ละครนี้สมบูรณ์แบบ
ด้วยการสนับสนุนจากทุกคน สือเหวินปิ่งเดินไปที่เตียงคนป่วยราวกับคนมีเกียรติ แสร้งทำเป็นเหยียดมือจับชีพจร ศีรษะของเขายกขึ้น45องศา ทำเหมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
สักพัก เขาก็ดึงมือออกและยิ้ม
"โรคนี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลย"
ไม่ยาก?
ทุกๆ คนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง สือควนกับซินยุ่นยังท้อแท้ต่ออาการป่วยนี้ แต่คำว่าไม่ยากนั้นหลุดออกมาจากปากเขา?
สือควนขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "เหวินปิ่ง ผู้เชี่ยวชาญมากมายอยู่ที่นี่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระเพื่อทำให้คนอื่นหัวเราะ"
สือเหวินปิ่งพูดเบาๆ "พ่อ ท่านวางใจเถอะ ผมรู้อยู่แก่ใจ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...