ณ. ตระกูลติง ตึกสำนักงาน
ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องประธานกรรมการภายในสำนักงานเวลานี้ คือประธานกรรมการคนใหม่----ติงหงเหย้า
เขาพลิกดูแฟ้มรายชื่อคนชุดใหม่ล่าสุด ทำการขับไล่ทุกคนที่เคยเป็นมือเป็นขาให้ติงจ้ง ประธานกรรมการคนเก่าออกไปจนหมด แล้วแทนที่ด้วยคนในบอร์ดบริหารที่เป็นฝ่ายของเขา
อันดับแรกคือกำจัดผู้ไม่เห็นด้วย แล้วจากนั้นก็เปลี่ยนธุรกิจหลักของบริษัท เขาต้องการให้บริษัทติงหรงกลายเป็น 'เครื่องมือ' อย่างหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับตัวเขาเอง
เมื่อคิดไปถึงจุดที่ทำให้เขามีความสุข ติงหงเหย้าก็อดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้
ในขณะที่เขากำลังมีความสุขนั่นเอง จู่ๆ ประตูสำนักงานก็ถูกผลักเปิดออก แล้วติงจื่อยวี่ก็เดินผลุนผลันเข้ามาอย่างรีบร้อน
ติงหงเหย้ารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทำไมถึงได้ไม่รู้จักกฎเกณฑ์แบบนี้นะ?
แม้ว่าจะเป็นน้องสาวของตัวเอง แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละให้ทำตามอำเภอใจแบบนี้หรอกมั้ง?
แต่ไม่รอให้เขาทันได้เอ่ยปากกล่าวโทษ ติงจื่อยวี่ก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อนว่า: "พี่ชาย ไม่ดีแล้วล่ะ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!"
"เรื่องใหญ่? เรื่องใหญ่อะไร?"
ติงจื่อยวี่พูดด้วยอาการฉุนเฉียวว่า "ไม่ใช่ว่าพี่ให้ฉันไปแข่งประมูลรึไง ? มันล้มเหลวแล้วน่ะสิ!"
ติงหงเหย้าถึงกับขมวดคิ้วมุ่น
แผนที่พวกเขาเตรียมไว้กับซองแดงนั้นไม่มีปัญหาแน่ ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขา ก็นับได้ว่าเป็นชั้นหนึ่งไม่แพ้ใคร ว่ากันตามเหตุผลเหล่านี้ พวกเขาไม่ควรจะล้มเหลวได้สิ
แต่ในตลาดการค้าก็เหมือนสนามรบ ไม่มีใครจะชนะเสมอไป
ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ เป็นสิ่งที่นักสู้ล้วนต้องพบเจอ
เขากลับไม่ได้เอามาใส่ใจมากนัก พูดอย่างใจเย็นว่า "ล้มเหลวก็ล้มเหลวไปสิ คนที่มาแข่งประมูลรายอื่นๆ ก็ไม่ใช่พ่อพระที่ไหน มีแต่พวกเขี้ยวลากดินทั้งนั้น คงจะมีคนที่ใส่ซองแดงมากกว่าเรา ไม่ก็แผนการทำได้ดีกว่าเราใช่มั้ยล่ะ?"
ติงจื่อยวี่ส่ายหน้า
"ไม่ใช่ ผู้ชนะการประมูลไม่ได้ให้เงินแม้แต่บาทเดียว"
"ไม่รู้ว่าทำไม เจ้าหน้าที่ของเซสชั่นนี้จู่ๆ ก็เปลี่ยนนิสัยกันไปหมด กลายเป็นคนซื่อสัตย์ไม่รับใต้โต๊ะ ทึ้งทุกคนที่ให้ซองแดงจนหน้าแหกไม่มีเหลือเลย"
ติงหงเหย้าหัวเราะ "มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ? หายากมากเลยนะเนี่ย"
ติงจื่อยวี่พูดต่อ: "พี่ชาย พี่รู้ไหมว่าใครชนะการประมูล?"
"ใคร?"
"พี่ เตรียมจิตเตรียมใจไว้หน่อยก็ดีนะ ฉันกลัวว่าถ้าพูดออกมา จะทำพี่ตกใจจนช็อกน่ะสิ"
"โอ๋? บอกมาสิ ใครมันจะทำให้ฉันตกใจได้ขนาดนั้น"
"เป็น... ติงเฟิงเฉิง!"
จู่ๆ บรรยากาศก็เงียบลงกะทันหัน รอบด้านเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วนสุดขีด
ในตอนแรก ติงหงเหย้ายังไม่ได้จริงจังอะไรกับมันนัก แต่หลังจากได้ยินคำว่า "ติงเฟิงเฉิง" สามคำนี้ เขาก็นั่งไม่ติดขึ้นมาแล้ว สีหน้าสลับสับเปลี่ยนไปมาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว ไฟโทสะพวยพุ่งขึ้นมาจนหัวสมองแทบเดือดปุดๆ
"ติงเฟิงเฉิง? ทำไมไอ้ขยะนั่นถึงชนะการประมูลได้?"
ติงจื่อยวี่จึงบรรยายฉากเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างละเอียด การเปลี่ยนแปลงของติงเฟิงเฉิงนั้นทำให้เขาตกใจมาก
หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ติงเฟิงเฉิงก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วครุ่นคิดเงียบๆ
ติงจื่อยวี่พูดความกังวลของเธอออกมาจนหมด : "เจ้าติงเฟิงเฉิงคนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนที่เก่งกาจได้ขนาดนี้ เหมือนกับว่ามันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ไม่รู้ว่ามันถูกผีตัวไหนเข้าสิงไปแล้วหรือเปล่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...