ญาติและผู้อาวุโสเหล่านี้ยกย่องเชิดชูเจียงชื่อตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่ความสามารถไปจนถึงลักษณะอุปนิสัย พวกเขาต่างยกย่องทุกอย่างเท่าที่จะยกย่องได้
ซึ่งก็ทำให้เจียงชื่อถึงกับทำตัวไม่ถูก เขาได้แต่ก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะและแทบไม่กล้ามองหน้าใครอีกเลย
เจียงชื่อผู้ซึ่งเคยประสบกับลมพายุของชีวิต แต่สิ่งเดียวที่เป็นจุดอ่อนของเขาก็คือการอ่อนไหวต่อคำชมของญาติพี่น้องเหล่านี้ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากกว่าการทำร้ายเขา
ติงเมิ่งเหยนใช้ข้อศอกดันเจียงชื่อเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ทำไม ยังรู้สึกอายด้วยเหรอ? มันดูไม่เหมือนคุณเลยนะ"
เจียงชื่อยักไหล่อย่างจนใจ และไม่รู้จะตอบอย่างไร
ติงเมิ่งเหยนยิ้มพูดต่อ "ปกติคุณไม่สนใจอะไรเลย ไม่ว่าใครจะทำร้ายคุณ จะด่าคุณ คุณไม่เคยใส่ใจพวกเขา แต่ทำไมวันนี้คุณถึงหน่วงไปเลยล่ะ? ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดถากถางของติงเมิ่งเหยน เจียงชื่อไม่อยากสนใจเธอ ได้แต่หลบสายตาอย่างเงียบๆ
และเมื่อติงเมิ่งเหยนเห็นพฤติกรรมเหมือนเด็กของเจียงชื่อ เธอก็หัวเราะคิกคักอย่างไม่หยุด ปกติแล้วเธอเป็นฝ่ายถูกเจียงชื่อ 'รังแก' มาตลอด วันนี้ถึงเวลาเธอเอาคืนสักที
แต่แน่นอนว่าคนที่มีความสุขที่สุดในค่ำคืนนี้ก็คือ ติงฉี่ซาน
เขาได้แต่นั่งอยู่บนที่นั่งขนาดใหญ่แล้วหันหน้าไปทางทิศใต้ของโต๊ะ บนตัวสวมเสื้อผ้าใหม่ และสีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
เมื่อดูจากภายนอกแล้ว เขาเคร่งขรึมมาก ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่จริงๆ แล้ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะดีใจ เขาแทบจะอดไม่ได้ที่จะลึกขึ้นมาเต้น
แต่เขายังเลือกเก็บอาการ แล้วนั่งนิ่งอยู่กับที่
หลังจากอาหารเย็นเริ่มต้น ติงฉี่ซานก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจและพูดพร้อมกับแก้วไวน์ในมือว่า "เพื่อนๆ และมิตรสหายทั้งหลาย ขอบคุณที่ท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานวันเกิดของข้าพเจ้าในวันนี้"
"ที่จริงแล้ว ติงฉี่ซานคนนี้เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นแค่ตัวประกอบในสังคม แล้วจะมีปัญญาจัดงานใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...