เจียงชื่อทราบดีว่าฉีเจิ้นจะต้องตอบตกลงแน่นอน ทว่าเขาก็ไม่อยากที่จะเอาเปรียบฉีเจิ้นเช่นกัน
เขาเอ่ยถามด้วยตนเองว่า: "ประธานฉี ขอบคุณที่รับคำแนะนำจากผม เพื่อเป็นการตอบแทนคุณ ผมตัดสินใจมอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้คุณ ของขวัญชิ้นนี้สามารถทำให้เครื่องประดับดาวฤกษ์ทั้งบริษัทได้รับการยกระดับในสาขาเจียงหนานได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว"
"หืม? พูดเว่อร์อะไรขนาดนี้ ของขวัญอะไรเหรอ?"
เจียงชื่อกระแอม "ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ ผมอยากตอบอีกหนึ่งคำถามก่อน"
"อีกหนึ่งคำถามงั้นเหรอ?"
"ถูกต้อง ประธานฉี คุณยังจำคำถามที่หยวนหยาเหว่ยหยิบยกประเด็นขึ้นมาพูดเมื่อกี้ในห้องประชุมได้ไหม?"
"จำได้ เขาถามว่า ถ้าการปฏิบัติการครั้งนี้เหวยซือไม่ได้เข้าร่วมด้วย ถ้างั้นควรจะทำยังไง?"
ก็เป็นเพราะคำถามนี้
ดูผิวเผินแล้ว แผนการของเจียงชื่อในครั้งนี้ก็แยบยลเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เหวยซือเข้ามาด้วยพร้อมเชือดอย่างรุนแรง
แต่ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาจะทำอย่างไร?
ถ้าหากแผนการนี้เหวยซือรับรู้แล้ว หรือว่าเหวยซือต้องการแย่งไปแต่กลับไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะแย่งไป ควรจะทำอย่างไร?
หรือว่าจะให้เครื่องประดับดาวฤกษ์กลืนกินหินขยะล็อตใหญ่แบบนั้นจริงๆ ?
เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้
ฉีเจิ้นเอ่ยอย่างจริงจัง: "คำถามนี้ก็ทำให้ฉันสงสัยเหมือนกัน น้องเจียง ถ้าเหวยซือไม่ได้ยื่นขาเข้ามาแทรกด้วยจริงๆ แล้วนายควรทำยังไง?"
เจียงชื่อเอ่ยขึ้นมาหนึ่งคำด้วยความเด็ดเดี่ยว: "ซื้อ"
"ซื้องั้นเหรอ?"
"ใช่ ทำเหมือนอย่างเคย ซื้อ! เพียงแต่ว่าไม่ได้ซื้อสินค้าล็อตที่ผมคัดเลือกออกมานะ แต่ซื้อล็อตที่เหลืออยู่เหล่านั้นซะ"
พูดกับคนฉลาด ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะเกินไป
เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้ฉีเจิ้นเข้าใจทั้งหมด
เจียงชื่อใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าในการคัดแยก ทำการคัดแยกหินขยะทั้งหมดออกมา แล้วที่ไม่ได้ถูกคัดแยกที่เหลือ ก็เป็นหินที่คุณภาพดีเลิศไม่ใช่หรือ?
แม้ว่าจะไม่ใช่สินค้าชั้นเลิศ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นหินเหมาเคิงคุณภาพขยะแน่นอน
สินค้าที่ซื้อมาล็อตนั้น ไม่มีทางที่จะขาดทุนแน่นอน
หรือจะบอกว่า ถ้าหากเหวยซือไม่ได้เลือกที่จะแย่งไปละก็ เช่นนั้นเจียงชื่อก็มีแผนสำรองเช่นกัน เพียงแต่ว่าแผนสำรองนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกระเทือนจิตใจของเหวยซือสาหัสขนาดนั้นเท่านั้นเอง
ฉีเจิ้นยิ้ม "น้องเจียง นายทำอะไรเนี่ยมองการณ์ไกลจริงๆ เลยนะ อะไรก็พิจารณาเอาไว้แล้ว"
เจียงชื่อหัวเราะ พร้อมจงใจเอ่ยถาม: "แล้วตอนนี้ประธานฉีรู้หรือยังว่าของขวัญที่ผมจะให้คืออะไร?"
ฉีเจิ้นชะงักไป
จากนั้น เขาจึงเรียกสติคืนมา เอ่ยถามว่า: "หรือว่านายจะเอาสินค้าที่คัดแยกออกมาที่เหลืออยู่ให้กับฉัน?"
"ใช่เลยครับ!"
ฉีเจิ้นทั้งปลื้มปีติและทั้งเป็นกังวล สินค้าที่ถูกคัดแยกออกมาล็อตนั้น แม้จะไม่ใช่หินเหมาเคิงคุณภาพขยะ แต่ก็ไม่ได้แสดงว่ามันเป็นหินคุณภาพดีเลิศทั้งหมด คุ้มค่าที่จะจ่ายเงินจำนวนสองพันล้านซื้อมาหรือไม่?
ไม่ถึงขั้นขาดทุน แต่ก็คงทำเงินให้ได้ไม่เท่าไรใช่หรือไม่?
เจียงชื่อมองแวบเดียวก็ทราบถึงความคิดของฉีเจิ้น จึงยิ้มแห้งแล้วเอ่ยว่า: "ไม่ต้องห่วงหรอก ในเมื่อเป็นของขวัญ ก็แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะให้คุณควักเงินซื้อเองน่า"
เหวยซือทั้งคิดที่จะระบายออกมาอย่างรุนแรงสักหน่อย ทว่าครับไม่มีกำลังและกะจิตกะใจ
กริ๊งกริ๊งกริ๊ง กริ๊งกริ๊งกริ๊ง เสียงดังของโทรศัพท์ดังขึ้นมาต่อเนื่อง
เป็นท่านอู๋ หัวหน้าข้างบนของเหวยซือ สิ่งที่เขาประสบที่เขตเจียงหนาน เดาว่าคงถูกคนรายงานให้ท่านอู๋ฟังตั้งนานแล้ว
เหวยซือยื่นมือไปรับสายโทรศัพท์
"ฮัลโหล ท่านอู๋ ผมล้มเหลวแล้ว"
เขาพูดจาไร้เรี่ยวแรง และไม่อยากร้องขอความเห็นใจอะไรทั้งสิ้น เตรียมที่จะถูกท่านอู๋ด่าทอยกใหญ่
ใครจะไปรู้ ปลายสายนั้นกลับเป็นเสียงที่อบอุ่นดังเข้ามาแทน
"เหวยซือ ตอนนี้นายรู้แล้วใช่ไหมว่าเทพแห่งสงครามชูร่าเก่งแค่ไหน? ไอ้หนุ่มเจียงชื่อนั่นไม่ได้มีแค่วิทยายุทธ ปัญญาของมันก็ไร้ใครเทียบเช่นกัน"
ใช่แล้ว เจียงชื่อแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แกร่งเช่นนี้ ต่อให้จะเป็นคนฉลาดอย่างเหวยซือ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะล้มเหลวไม่เป็นท่า
น้ำตาที่อยู่หางตา ไหลรินออกมาไม่หยุดอีกครั้ง ท่านอู๋ไม่ได้ตำหนิเขา ทำให้เขารับรู้ถึงความน้อยเนื้อต่ำใจและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง
หลังจากที่เจอเจียงชื่อที่มิลานครั้งแล้ว และแพ้ให้กับเจียงชื่อนั้น เหวยซือก็สาบานว่าจะกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาให้ได้
ผลสุดท้ายกลับยิ่งแพ้น่าเวทนาขึ้นเรื่อยๆ
คนบางคน ถูกกำหนดไว้ให้คุณเอาชนะไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...