คนที่พูดคือน้องสาวของเขา ติงจื่อยวี่ ในขณะเดียวกัน ติงหงเหย้าก็นั่งถัดจากติงจื่อยวี่
แน่นอนติงเฟิงเฉิงไม่ได้เชิญพวกเขาสองคนมา
แต่ด้วยวิธีการของติงหงเหย้า การได้บัตรเข้าร่วมงานสองใบไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นไปไม่ได้ที่ติงเฟิงเฉิงจะตรวจสอบทีละใบ
ติงเฟิงเฉิงกระแอมไอด้วยความกระอักกระอ่วนใจ พลางกล่าวว่า "อันที่จริงโครงการไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติ ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่พูดไร้สาระมากเกินไป จะขอให้ผู้ตรวจรับมาประกาศผลก่อน เพื่อให้ทุกคนสบายใจ แล้วค่อยคุยเรื่องอื่นต่อ"
ก่อนจะพูดจบ ติงจื่อยวี่ก็พูดต่อว่า "น้องสอง นายทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเลยนะ?"
มีอะไรเหมาะไม่เหมาะอีก?
ติงเฟิงเฉิงยิ้มเจื่อนๆ และถามว่า "พี่สาว พี่คิดว่าผมทำอะไรผิดไปงั้นหรือ?"
ติงจื่อยวี่ยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรผิด นายแค่ประกาศผลต่อหน้าทุกคน แล้วถ้ามันไม่ผ่านการตรวจสอบล่ะ? ไม่เท่ากับพาตัวเองไปสู่ทางตันหรอกเหรอ?"
"ดังนั้นพี่จึงคิดว่า นายควรสื่อสารกับผู้ตรวจรับเป็นการส่วนตัวดีกว่า หากไม่ผ่านเกณฑ์ก็อย่ารีบประกาศ เราจะประกาศให้ทราบหลังจากปรับปรุงแก้ไขไปแล้วสองวัน"
หมายความว่ายังไง?
ที่มาที่นี่ล้วนเป็นแขกผู้มีเกียรติ คนในแวดวงสังคมที่มีชื่อเสียง จะปล่อยให้นายมาตบตากันง่ายๆ ได้อย่างไร?
การกระทำของติงจื่อยวี่คือการล่าถอยเพื่อเดินหน้า ซึ่งขัดขวางวิธีการล่าถอยของติงเฟิงเฉิงโดยสิ้นเชิง
ติงเฟิงเฉิงพูดอย่างเย็นชาว่า "ไม่ต้องห่วง ผมไม่ใช่คนประเภทที่กุเรื่องสร้างภาพ ถ้ามีคุณสมบัติครบก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ ถ้าไม่ผ่านจะประกาศผลต่อหน้าสาธารณะ จะไม่มีทางปิดบังอะไรเด็ดขาด!"
อันที่จริง ติงเฟิงเฉิงก็มั่นใจในผลงานของตัวเอง
ก่อนที่ผู้ตรวจรับจะทำการตรวจสอบ เขาได้หาบริษัทอื่นมาทำการตรวจสอบแล้ว และพบว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน
เมื่อมีการทำงานในระดับนี้ เขาย่อมมีเหตุผลที่จะเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น โครงการในระยะที่หนึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของเขา และทุกขั้นตอนได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ไม่เคยเจอกรณีแอบตัดลดวัสดุมาก่อน แล้วจะตรวจสอบไม่ผ่านได้อย่างไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...