จอมนักรบท้าโลก นิยาย บท 93

สรุปบท บทที่93 ไสหัวไปได้แล้ว: จอมนักรบท้าโลก

ตอน บทที่93 ไสหัวไปได้แล้ว จาก จอมนักรบท้าโลก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่93 ไสหัวไปได้แล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จอมนักรบท้าโลก ที่เขียนโดย ต้วนจื้อเวยหนีซือ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่93 ไสหัวไปได้แล้ว

ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ผู้ปกครองทุกคนเดินทางมาถึง

กานเต๋อหยางพากู่หลังกับพวกไปที่ห้องเรียน อธิบายความต้องการให้กับทุกคนฟัง ผู้ปกครองทุกคนแสดงสายตาดูถูกเหยียดหยาม

มีบางคนมองด้วยสายตาสะใจสมน้ำหน้า รออย่างใจจดใจจ่ออยากเห็นลูกของกู่หลังไม่มีที่เรียน

กู่หลังกัดฟันระงับโทสะ ปั้นรอยยิ้มพูดกับทุกคนว่า “ผมรู้ว่าหลายปีมานี้ผมทำเรื่องเลวไว้มากมาย แต่ว่าความผิดทั้งหมด ผมรับไว้เพียงคนเดียว อย่าให้ความผิดนั้นไปตกกับเด็กเลย”

“อีกทั้งตอนนี้ผมสำนึกผิดแล้ว ท่านนี้คือคุณเจียงชื่อ แนะนำงานที่น่าเชื่อถือเป็นหลักแหล่งให้กับผมงานหนึ่ง ดังนั้นผมอยากขอร้องทุกท่านโปรดให้โอกาสผมสักครั้ง ให้ผมเป็นคนใหม่ ให้ลูกของผมได้เข้าเรียนโรงเรียนแห่งนี้”

ทุกคำพูดทุกประโยคของกู่หลังเต็มไปด้วยความจริงใจ

แต่ว่าไม่มีคนไหนเลยที่เห็นใจเขา

ผู้ปกครองหญิงคนหนึ่งอดกลั้นไม่อยู่พูดสวนขึ้นว่า “พูดจบแล้วหรือยัง? ออกไปให้พ้นได้แล้ว? วันนี้พวกเรามาประชุมผู้ปกครอง จัดเตรียมระบบแผนการเรียน ไม่ใช่มาเพื่อนั่งฟังคุณบ่นพึมพำอย่างนี้”

ผู้ปกครองท่านอื่นต่างก็พูดขึ้นสำทับ

“ใช่ คุณยืนพูดเบาๆคนเดียว เสร็จหรือยัง ทำให้พวกเราเสียเวลา?”

“อีกทั้งคุณพูดว่าสำนึกผิดแล้วก็พอได้แล้ว? อันธพาลอย่างพวกคุณ พูดออกมาสามคำอีกเดี๋ยวลืมหมด ใครกล้ายืนยันคำพูดของคุณว่าเป็นความจริง?”

“มีคนบอกว่าผู้อาวุโสประพฤติตัวไม่เหมาะสมยังไงคนรุ่นใหม่ก็ประพฤติตัวไม่เหมาะสมเช่นกัน คุณเป็นพวกอันธพาล ลูกคุณจะเป็นคนดีไปได้อย่างไร? ฉันคิดว่า เป็นพวกขยะด้วยกันทั้งนั้น อย่าเข้ามาทำร้ายคนอื่นเลย”

“พูดได้ถูกต้อง เด็กคนนั้นโหงวเฮ้งดุดัน พลอยจะทำให้ลูกของเขาไม่ดีไปด้วย”

ทุกคนสลับกันพูด คนนี้ประโยค คนโน้นประโยค มีความหมายเดียวก็คือไม่ต้องการให้กู้หย่งเลี่ยงเข้าเรียนหนังสือ

กู่หลังทั้งร้อนใจทั้งเดือดดาล แต่ไม่กล้าระเบิดโทสะออกมา

สุดท้ายเขาคุกเข่ากับพื้นต่อหน้าผู้ปกครองทุกคน โขกศีรษะกับพื้นวิงวอน “ขอร้องพวกคุณอย่าเป็นปฏิปักษ์กับลูกผมเลย เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกคุณให้เขาได้เรียนหนังสือเถอะ”

“ผมมีลูกเพียงคนเดียว ผมไม่อยากให้เขาโตขึ้นมาเป็นเหมือนผม”

“ขอร้องพวกคุณ ขอร้องพวกคุณ!”

“ครูใหญ่.....”

น้ำตาแห่งความผิดหวังของกู่หลังไม่สามารถกลั้นไว้ได้อีกแล้ว จึงไหลออกมาดั่งสายน้ำ เขาโอบกอดกู้หย่งเลี่ยงไว้แน่นพูดว่า “ลูกรัก เป็นพ่อที่ไร้ประโยชน์ เป็นพ่อที่ไร้ประโยชน์”

เวลานั่นเอง......

เจียงชื่อเดินออกมาสองก้าว ยืนอยู่ข้างหน้ากู่หลัง มองดูผู้ปกครองที่นั่งทุกคน สอบถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรว่า “คนเราใครบ้างที่ไม่เคยกระทำความผิด ขอสอบถามทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้ใครที่ไม่เคยทำผิดเลย?”

“กู่หลังสำนึกผิดแล้ว ตั้งใจจะปรับปรุงตนเอง พวกคุณไม่ให้อภัยเขาเลยเหรอ?”

“ไม่ให้อภัยเขาก็ไม่เป็นไร ทำไมเอาความผิดทั้งหมดไปลงที่เด็กอีกล่ะ? มโนธรรมของพวกคุณยังมีอยู่อีกไหม?”

มีคนหนึ่งยิ้มอย่างเย็นชาพูดขึ้นว่า “คุณเป็นใคร? พวกเราทำอย่างนี้ ต้องให้คุณมาสั่งสอนอีกเหรอ?”

“ใช่ แสร้งทำเป็นคนดีแต่ซ่อนหางจิ้งจอกไว้ รีบไปให้พ้น”

เจียงชื่อส่ายศีรษะ ถามเป็นครั้งสุดท้ายว่า “พวกคุณตัดสินใจแน่วแน่จะไม่ให้กู้หย่งเลี่ยงได้เข้าเรียนหนังสือใช่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก