ทุกคนในสำนักงานต่างมองศาสตราจารย์โจวอ้าปากตาค้าง ทุกคนไม่สงสัยในความสามารถของเขา เพราะถ้าหากเขาจะไขว่คว้าตำแหน่งอะไรให้ใครละก็ แค่พูดคำเดียว ถึงแม้เขาจะบ้าคลั่งไปหน่อย แต่ในสำนักการศึกษาความสัมพันธ์ของเขาโดดเด่นสำคัญมาก
ก่อนหน้านั้นโรงเรียนนี้มีลูกชายทายาทเศรษฐีอันดับสองมาสอนหนังสือ เพราะทัศนคติที่ไม่เหมาะสมของเขา ยังถูกเขาไล่ออก เดิมทีคิดว่าพ่อของทายาทเศรษฐีอันดับสองจะมาเอาเรื่องเขา ใครจะรู้สำนักการศึกษารายงานการกระทำของทายาทเศรษฐีอันดับสองด้วยตัวเอง วันถัดมาพ่อของทายาทเศรษฐีอันดับสองถึงกับมาขอโทษศาสตราจารย์โจวด้วยตัวเอง แต่ศาสตราจารย์โจวยังไม่สนใจเขาเลย
ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองหนานหลิงยังเชิญศาสตราจารย์โจวมาบรรยายตั้งหลายครั้ง เรื่องนี้ทุกคนในโรงเรียนก็ทราบ
เพียงแต่อยากให้คนที่จบมัธยมปลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในโรงเรียน ซึ่งไม่สมเหตุสมผลเกินไป แม้ว่าทุกคนจะคิดอยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด
ฟางเหยียนมองไปที่ศาสตราจารย์โจวด้วยท่าทีไร้คำพูด ศาสตราจารย์บ้า ดูท่าแล้วไม่ได้เรียกเฉยๆ ถ้าให้เขาเป็นอย่างนี้ต่อไป คาดว่าตัวเองอาจจะต้องกอบกู้โลกแล้ว
เขารีบพูดว่า “ขอโทษ ศาสตราจารย์โจว ผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมมาหาคุณเพราะมีเรื่องจริงๆ”
พูดจบ ฟางเหยียนก็หยิบหินสองก้อนที่มีสีต่างกันออกมาแล้วถามว่า “อันนี้ คุณรู้จักไหม?”
“หินเอลฟ์แดง หินเอลฟ์เขียว” สายตาศาสตราจารย์โจวพริบตาเดียวจ้องมองไปที่หินสองก้อนนั้นทันที ดูท่าทีของเขาก็ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น เห็นได้ว่าเขารู้จักหินก้อนนี้ และหินก้อนนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไรขนาดนั้น
แค่มองแวบเดียว เขาก็เงยหน้าขึ้นมา และถามฟางเหยียนด้วยความผิดหวังเล็กน้อย "คุณไม่ยอมเป็นผู้เชี่ยวชาญโรงเรียนของพวกเราจริงๆหรอ?”
ฟางเหยียนส่ายศีรษะทันทีและพูดว่า “ไม่เป็น!”
เขาปฏิเสธคำขอของศาสตราจารย์โจวตรงๆอย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้ผู้คนในสำนักงานประหลาดใจมากยิ่งขึ้น ให้นั่งตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนี้ก็ไม่ยอมนั่ง คนนี้บ้าหรือเปล่า?
รู้ไหมว่า ถ้าคุณนั่งตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนี้คุณจะได้รับทั้งชื่อเสียงและโชคลาภ ไม่เพียง แต่คุณจะมีชื่อเสียงเท่านั้น คุณยังจะมีเงินทุนมากมายอีกด้วย มีกี่คนที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถได้ตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยซีหนานได้ แต่คนนี้ กลับไม่ต้องการ!
บ้าแล้ว! ศาสตราจารย์โจวบ้าไปแล้ว และชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาก็บ้าด้วย!
ศาสตราจารย์โจวแสดงความผิดหวังเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา ถอนหายใจและพูดว่า "เอาล่ะ! ในเมื่อคุณไม่ยินยอม ผมจะไม่บังคับคุณ แต่ผมมีคำขอร้องเรื่องหนึ่ง"
“ท่านพูดมา!” ฟางเหยียนหันไปทางศาสตราจารย์โจว
“คืออย่างนี้ ผมอยากเชิญคุณมาเข้าสอนภาควิชาประวัติศาสตร์ให้แก่คุณครูและนักเรียกสักหนึ่งคาบ ผมจะจัดห้องโถงในโรงเรียนให้คุณ” ศาสตราจารย์โจวพูดเรื่องขอร้องของตัวเองออกมา
ฟางเหยียนมองไปที่หินสองก้อนที่อยู่ข้างหน้า ถ้าหากไม่ตกลง ดูท่าจะไม่ได้แน่
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “ได้ ผมจะลองดู!”
“ตกลง ขอบคุณ อาจารย์ฟาง” ศาสตราจารย์โจวยกมือขึ้นและเริ่มเป็นคนไปจับมือฟางเหยียนก่อน ตัวเขาตื่นเต้นไปหมด
ท่าทีของฟางเหยียนได้แต่คล้อยตาม แล้วปล่อยให้ศาสตราจารย์จับมือไป
ครูในห้องทำงานพูดตรงๆว่าศาสตราจารย์โจวบ้าไปแล้ว ทุกคนก็ส่ายศีรษะ
เมื่อเห็นฟางเหยียนตกลง ศาสตราจารย์โจวก็หยิบหินสองก้อนนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง ดูจากฉากนี้ ฟางเหยียนถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคิดในใจว่าในที่สุดก็เข้าสู่ประเด็นหลักสักที
เขาถือมันไว้ในมือแล้วมองดูครู่หนึ่ง จากนั้นดมแล้วดมอีก แล้วทันใดนั้นก็เลิกคิ้วและพูดด้วยความประหลาดใจ “หินทิพย์หมื่นปีที่แล้ว!”
“คุณฟาง คุณมากับผม!” ศาสตราจารย์โจวถือก้อนหินสองก้อนนั้น พูดด้วยความสนใจ
ฟางเหยียนพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขากับศาสตราจารย์โจว
มาถึงในห้องทำงาน ศาสตราจารย์โจวเริ่มสำรวจหินด้วยกระจกสำรวจสีเขียว วิจัยอยู่อย่างนี้เป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ศาสตราจารย์โจวไม่ได้พูดอะไรสักคำ และฟางเหยียนก็ไม่กล้าขัดจังหวะความคิดของศาสตราจารย์โจว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ