ฟางเหยียนโบกมือและพูดว่า “ผมเคยพูด อยู่ที่สนามรบผมจะเข่นฆ่าอย่างไม่รู้จบ แต่ในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองนี้ การเข่นฆ่า ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว เว้นแต่คุณจะเจอคนชั่วที่ชั่วร้ายสุดๆ ไม่งั้นก็ไม่จำเป็นต้องสังหารหมู่ คนพวกนี้ไม่มากก็น้อยก็เคยทำความชั่วไว้ โดยธรรมชาติแล้วคุณยังไม่ถึงที่จะต้องสังหารหมู่”
“ใช่แล้ว เรื่องที่ให้นายไปทำ ทำเป็นยังไงบ้าง?” ฟางหยานถามอีกครั้ง
ใบหน้าของเทียนขุยค่อยๆเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดว่า "ผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ตั้งแต่เด็กเกิดในครอบครัวที่ถือว่ามั่งคั่งพอสมควร ถือได้ว่าเป็นคุณหนูคนหนึ่ง แต่งงานกับถังเจิ้งเหา ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นของครอบครัวเธอ”
ฟางเหยียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “คุณแน่ใจหรือว่าเธอไม่มีอะไรผิดปกติ?”
เทียนขุยส่ายศีรษะและพูดว่า “ก็ไม่มีนะ แค่ตอนเด็กร่างกายอ่อนแอ ขี้โรค ป่วยเป็นประจำ เริ่มแรกก็ไปโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน ต่อมาพบว่ามันไม่มีประโยชน์ ดังนั้น จึงหาพวกไสยศาสตร์มารักษาเธอ”
อันนี้ไม่น่าแปลก เรื่องนี้ฟางเหยียนรู้เอง ในร่างกายเธอมีวิญญาณสิงอยู่จริงๆ ในตอนแรกฝังเข็มประตูผีสิบสามท่าเพื่อรักษาอาการป่วยของเธอ ทั้งหมดเห็นได้ชัดถึงสาเหตุอาการป่วย
“จอมพลโผ้จวิน ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างผมมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยเข้าใจ!” เทียนขุยพูดอย่างตรงไปตรงมา
“พูดมา!” ฟางเหยียนก็ให้สัญญาณเทียนขุยเปิดปากพูด
เทียนขุยดูเหมือนจะลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "หรือว่าจอมพลโผ้จวินสนใจผู้หญิงที่ชื่อหลินถง?"
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็รีบพูดขึ้นว่า “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแค่ต้องการเตือนจอมพลโผ้จวินว่านั่นคือผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ถ้าเรื่องนี้คุณนายรู้เข้า เกรงว่ามันจะไม่ดี! จอมพลโผ้จวินสามารถเพิกเฉยกับสายตาพวกนี้ได้ แต่ถ้าท่านทำอย่างนี้ เกรงว่าจะผิดต่อคุณนาย”
ฟางเหยียนขมวดคิ้วมองเทียนขุยและถามว่า "เรื่องที่นายยุ่ง รู้สึกจะมากเกินไปแล้วมั้ง!"
ใบหน้าของเทียนขุยกังวลตกใจผวาสั่นเทาไปหมดรีบ คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นแล้วพูดว่า "จอมพลโผ้จวิน โทษที่ผมโง่เขลา! โปรดลงโทษผมด้วย"
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ทันใดนั้นฟางเหยียนก็หัวเราะ “นี่นายกำลังทำอะไรอยู่ ลุกขึ้น อย่าเอะอะก็คุกเข่า! ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสนามรบ เราสามารถเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกันได้ ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัด”
พูดไป เขาก็พยุงเทียนขุยขึ้นมาจากพื้น
เทียนขุยพูดอย่างตื้นตันว่า "สามารถได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจอมพลโผ้จวินถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของผม ไหนเลยผมจะกล้าอาจเอื้อมไปเป็นเพื่อนของท่าน เป็นพี่น้อง เป็นทหารของจอมพลโผ้จวินหนึ่งวัน ก็เท่ากับเป็นทหารของจอมพลโผ้จวินตลอดไป..”
พอเห็นเทียนขุยที่ซื่อสัตย์อย่างนี้ ฟางเหยียนก็ส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา และพูดว่า "เอาเถอะ ให้นายไปสืบเรื่องหลินถง ก็แค่ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคนนี้เล็กน้อย ถ้าแน่ใจว่าไม่มีอะไรก็พอแล้ว"
เทียนขุยก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นเพราะความสงสัย ถึงแม้ว่าปกติจอมพลโผ้จวินจะเป็นคนเย็นชา แต่ระยะนี้ก็มักจะมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเขาตลอด เริ่มแรกเป็นเวินหลาน แต่ตอนนี้ก็มีหลินถงคนนี้ ผู้หญิงพวกนี้อีกคนก็สวยกว่าอีกคน
เขาเตือนแบบนั้น เพราะกลัวว่าเขาจะควบคุมไม่เป็น ถึงแม้ว่าเขาอยู่ในสนามรบจะห้าวหาญไม่มีที่ติ แต่เรื่องที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิง คาดว่าอายุยังน้อยคงควบคุมไม่ได้
“ไปเถอะ!” ฟางเหยียนก้าวขาลงจากตึก!
เทียนขุยถาม "คุณจะไปไหน? จอมพลโผ้จวิน"
ฟางเหยียนพูดว่า "หวงหยวนฉาวนัดไว้ ให้ผมไปที่บ้านของเขาและหลานสาวของเขาจะมารับผม"
“อะไรนะ?” เทียนขุยตกตะลึงอีกครั้ง ทำไมหลานสาวของหวงหยวนฉาวปรากฏตัวขึ้นมาอีกคน ถ้าเขาจำไม่ผิดละก็ คราวที่แล้วที่อยู่ร้านจุ้ยเซียน หวงหยวนฉาวคนนั้นเคยเสนอตัวอยากเกี่ยวโยงเป็นญาติกับฟางเหยียน
หรือว่า มาอีกคนแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ