พูดจบเขาก็แนะนำระดับของนินจาให้กับฟางเหยียนและเทียนขุยอีก หยินเจ่อแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง ระดับต้าชี่ ระดับปรมาจารย์ ระดับโดดเด่นสูงสุด
นินจาระดับต้น ส่วนมากหมายถึงคนที่สามารถสู้กับคนหลักร้อยได้ ส่วนระดับกลางคือสามารถต่อกรกับคนหลักพัน ส่วนระดับสูงก็น่าจะเป็นฝีมืออย่างเทียนขุย ด้านหนึ่งผู้นำ อีกด้านกลายเป็นรองผู้นำ
ส่วนระดับต้าชี่ นั่นก็คือผู้ที่สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือได้ นั่นคือโลกอย่างหนึ่งในสมัยโบราณของประเทศหวา ถึงแม้ว่าในสมัยนี้จะน้อยมากอย่างมากที่สุด แต่ก็ยังมียอดฝีมืออย่างนี้อยู่ไม่น้อย
ส่วนระดับปรมาจารย์ นี่ก็เข้าใจได้ง่ายหน่อย อย่างเช่นจางซานเฟิง ปรมาจารย์ในยุคหนึ่ง ผู้บุกเบิกวิชาต่อสู้ ส่วนระดับโดดเด่นสูงสุดนั้นเป็นตำนาน ทุกคนต่างก็รู้ว่านี่มันก็แค่การแบ่งแยกระดับเท่านั้น ไม่มีใครที่ทำได้จริง
ส่วนศัพท์คำว่านินจานี้ ฟางเหยียนนั้นเคยได้ยินมาก่อน รวมทั้งเขายังรู้จักองค์กรนินจาหลายแห่ง! หลายปีมานี้นินจาไม่ได้หลบซ่อนเหมือนกับที่เถาไห่หลงพูด แต่กลับสร้างองค์กรเป็นแห่งๆ
ธิดาศักดิ์สิทธิ์และผู้คุ้มกันของแก๊งเก้ามังกรที่เจอครั้งก่อนที่บ้านตระกูลตู้ก็ล้วนเป็นนินจาทั้งนั้น ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ปรากฏตัวในโลกของคนธรรมดา เพราะว่าตัวตนของพวกเขาจะทำให้คนธรรมดานั้นเข้าใจได้ยาก
ส่วนเทพอสูรขวังซือของตระกูลฟาง นั่นก็คือยอดฝีมือระดับต้าชี่ เป็นตัวตนที่เก่งกาจอย่างมาก
เมื่อฟังการแนะนำของเถาไห่หลงจบ หวงหยวนฉาวก็พูดว่า “ประธานเถารู้ดีในด้านนี้จริงๆเลยนะครับ”
เถาไห่หลงส่ายหน้าพูดว่า “ที่ไหนกันๆ เสียดายที่ผมประสบการณ์น้อย เพียงแค่ศึกษาวิเคราะห์เท่านั้นแหละครับ ผมยังไม่มีโอกาสได้รู้จักกับนินจาจริงๆสักคน ถ้าไม่ใช่เทียนขุยออกตัวช่วยจัดการไอ้คนนั้น ผมคงยังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักหรอกครับ”
หวงหยวนฉาวหัวเราะแล้วพูดว่า “นั่นก็จริง แต่ว่า ประเทศของเรามียอดฝีมือคนหนึ่งที่เทียบได้กับระดับปรมาจารย์นะครับ”
“ฮืม? ใครครับ?” เถาไห่หลงถามอย่างสงสัย สำหรับเขา สามารถได้รู้จักกับนินจาก็ถือว่าเป็นเกียรติแล้ว ถ้ายังได้รู้จักกับยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ นั่นถือเป็นเกียรติสูงสุดของตัวเองเลย
หวงหยวนฉาวพูดอย่างจริงจังว่า “ความรุ่งโรจน์ประเทศหวาของฉัน เทพสงครามในกองทัพ จอมพลโผ้จวินของสำนักเจ็ดพิฆาตที่ชายแดนภาคเหนือ!”
ในขณะที่พูดเขายังหันไปมองฟางเหยียน เถาไห่หลงเองก็พยักหน้า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว สามารถปราบอีกฝ่ายได้ บุคคลที่ใช้ความสามารถบุกเข้าไปอย่างสง่า แน่นอนว่าต้องเป็นนินจาระดับปรมาจารย์ของประเทศหวาของเราอยู่แล้ว”
“เพียงแต่ว่า คนๆนี้เป็นเพียงแค่ตำนานนี่ มีเขาอยู่จริงมั้ยยังไม่รู้เลย ครั้งก่อนผมได้ยินคนอื่นพูดว่า มันเป็นเพียงแค่พลังที่ยึดมั่นกองทัพเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงคน เป้าหมายก็เพื่อใช้ข่มพวกทหารนอกที่คิดไม่ดีต่อประเทศหวาของเรา หรือว่าท่านหวงรู้จักจอมพลโผ้จวินของสำนักเจ็ดพิฆาตครับ?”
หวงหยวนฉาวหันไปมองฟางเหยียน พูดว่า “ก็ไม่ได้รู้จักหรอก ฉันมีโอกาสไปทำความรู้จักกับบุคคลระดับนั้นเมื่อไหร่กันละ”
เถาไห่หลงพยักหน้า “ยังไงซะไม่ว่านี่จะเป็นเพียงพลังอย่างหนึ่ง หรือเป็นคน นั่นก็ถือเป็นเกียรติของประเทศหวาของเรา ประเทศหวาสามารถมีเทพสงครามระดับนี้ได้ นั่นต้องเป็นบุญของประชาชนประเทศหวาของเราแน่”
พวกเขาทั้งหลายก็พูดถึงเขาต่อหน้าฟางเหยียน เห็นว่าฟางเหยียนไม่พูดอะไรเลยตลอดเวลา เถาไห่หลงเลยถามอีกครั้งว่า “คุณฟางยังไม่ได้บอกผมเลยว่าฐานะของคุณคืออะไร? สามารถมีนักรบอย่างเทียนขุยได้ จะต้องเป็นฐานะที่ใหญ่โตสินะครับ!”
ฟางเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานเถาชมเกินไปแล้วครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ