บทที่ 13 ท่าทีของการขอร้องคนอื่น
ประโยคนั้นทำให้จางไห่เฟิงตัวแข็งทื่อ เขาเบิกตากว้างพร้อมกล่าว “อะไรนะ? ให้ฉันไสหัวไป? นี่เป็นคำพูดของประธานหยางงั้นเหรอ แกรู้ไหมว่าฉัน…..”
ไม่ทันได้จบประโยคดี เขากลืนคำพูดที่เหลือลงสู่ลำคอทันที เมื่อเห็นการ์ดที่ดุดันอีกคน ที่ถลึงตาใส่เขา
“เอาเถอะ พวกแกให้ฉันเข้าไป ฉันจะไปพูดกับประธานหยางเอง”
เขาเอ่ย พลางพุ่งเข้าไปข้างใน
“แกคิดจะทำอะไร? บอกให้แกไสหัวไปก็ไปหัวไปซะ อยากมีเรื่องหรือไง?” การ์ดทั้งสองหยิบกระบองไฟฟ้าออกมา
“แกหูหนวกหรือไง?” การ์ดคำรามเสียงดัง
“ไม่ ไม่ใช่ พวกแกของคนเป็นเพียงแค่คนเฝ้าประตูเท่านั้น ฉันรอประธานหยางมาทั้งวัน ยังไม่ได้เจอหน้าเลยจะ…..” ไม่ทันได้จบประโยค การ์ดทั้งสองก็ล็อกตัวจางไห่เฟิงเอาไว้
“แกหูหนวกหรือไง?” เมื่อเกิดเสียงคำรามดังขึ้น ทั้งคู่ก็โยนจางไห่เฟิงออกไป
“ไสหัวไปเดี๋ยวนี้”
จางไห่เฟิงลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธจัด พลันเอ่ยด้วยความโมโห “ถือว่าพวกแกแน่”
หลังจากที่กลับมาบ้าน จางซื่อตงและจางฉี่เหาต่างก็อยู่ทั้งคู่ จางฉี่เหาเอ่ยถาม “ไห่เฟิง เป็นอะไรไป? ได้เซ็นสัญญาหรือยัง?”
จางไห่เฟิงทั้งโกรธและอยากจะร้องไห้ เขาจะพูดเรื่องที่ได้ประสบในวันนี้ไม่ได้เป็นอันขาด จึงกัดฟันสู้กล่าวออกไป “ประธานหยางบอกแล้ว ว่าให้ผมไปเซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้”
“ได้ ได้ ขอเพียงแค่ได้เซ็นสัญญา ต่อจากนี้แกก็จะเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลจางของเรา”
จางไห่เฟิงพยักหน้ารับ
เขากัดฟันสู้ไปขอร้องอยู่สามวัน จุดจบหลังจากนี้มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือให้เขาคุกเข่า
ที่สุดเขาก็ไม่สามารถเก็บงำเอาไว้ได้ จึงกลับไปสารภาพที่บ้าน
“อะไรนะ? บอกให้แกไสหัวไป?” จางฉี่เหาจ้องมองจางไห่เฟิงด้วยความตะลึง
เขาโกรธจนแทบจะหาดจางไห่เฟิงสักทีสองที “ไอ้คนไร้ประโยชน์ ทำอะไรไม่เคยได้เรื่องสักอย่าง”
“ไม่ใช่นะ คุณปู่ ผมคิดว่าเย่ชิงหยู่ต้องให้ผลประโยคอะไรกับเขาแน่ ไม่เช่นนั้นทำไมเขาถึงได้ไม่ยอมเซ็นสัญญากับผม เพราะงั้นถึงได้…..”
“แกหุบปากไปเลย!” ฉางฉี่เหาคำรามเสียงดัง
“ไป ไปเรียกเย่ชิงหยู่มาซะ” จางฉี่เหานั่งอยู่บนเก้าอี้ กัดฟันแน่นด้วยความโมโห
หลังจากที่จางไห่เฟิงจากไป จางฉี่เหาหายใจแรงถี่ด้วยความโกรธ “หากรู้ว่าแกใช้ไม่ได้การแต่แรก ฉันก็ไม่ให้แกไปแต่แรกแล้ว ไอ้คนไม่เอาไหน”
จางซื่อตงอ้อนวอนแทนลูกชายอย่างน่าสงสาร “พ่อ อันที่จริงไห่เฟิงก็แค่อยากทำอะไรเพื่อตระกูลจางบ้าง เขามีเจตนาที่ดี”
จางฉี่เหาโมโหที่เขาไม่ได้เรื่อง พลันเอ็ดอย่างดุดัน “ก็เป็นลูกชายตัวดีที่แกสั่งสอนมานั่นแหละ”
“ท่านพ่อ วางใจเถอะ ต่อจากนี้ไห่เฟิงจะไม่ก่อเรื่องให้ท่านอีกแล้ว”
บนโต๊ะอาหาร คนสามคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่บนโต๊ะ เป็นครอบครัวของเย่ชิงหยู่
จางเจียวเจียวเอ่ยกับเย่ชิงหยู่ “ชิงหยู่ แกเองก็อย่าถือโทษตาของแกเลย ตอนนี้เราอาศัยอยู่ใต้ชายคาของคนอื่น เขาให้ที่พักพิงแก่เรา ก็ถือว่าไม่ง่ายแล้ว อย่างน้อยเราก็ไม่ได้เร่ร่อนไร้ที่ไป”
“แม่คะ หนูเข้าใจ” เย่ชิงหยู่กล่าวตอบ
เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ฟางเหยียนมีสีหน้าเปลี่ยนไป “พวกคุณวางใจเถอะ เราจะได้กลับบ้านเร็วๆ นี้แล้ว”
จางเจียวเจียวและเย่ชิงหยู่หันไปทางฟางเหยียนอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่พูดอะไร
“ชิงหยู่ ผมมีเรื่องที่จะพูดกับคุณ” ฟางเหยียนวางชามในมือลง พร้อมเอ่ยอย่างจริงจัง
เย่ชิงหยู่พิจารณาสายตาคู่นั้นของเขาไม่เหมือนกับคนที่ล้อเล่น จึงพยักหน้ารับ “เรื่องอะไร? ว่ามาสิ”
“อีกประเดี๋ยวจางไห่เฟิงคงจะมาหาคุณให้ไปที่ห้องประชุม หากเขามีทีท่าไม่ดี คุณห้ามไปกับเขาเด็ดขาด คนอย่างจางไห่เฟิงจะตามใจเขาแบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเขาจะกลายเป็นคนไร้จิตสำนึก”
เย่ชิงหยู่ฉงน “เขาจะมาหาฉันเรื่องอะไร?”
“เพื่อให้คุณไปเซ็นสัญญา” ฟางเหยียนกล่าว พลันหยิบเสื้อของตัวเองขึ้น
เย่ชิงหยู่ยังคงจับจ้องฟางเหยียนด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณตาให้เขาไปแทนแล้วไม่ใช่หรือไง?”
“เขาไม่สามารถเซ็นได้หรอก สัญญาฉบับนี้มีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเซ็นได้”
“ใช่สิ ผมมีธุระ ต้องไปก่อน คุณอย่าลืมนะ อย่าตอบรับคำร้องขอของคุณตา ผมบอกให้คุณตอบรับเมื่อไหร่คุณค่อยตอบรับ” ฟางเหยียนเอ่ยพลางมุ่งออกไปด้านนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ