“อะไรนะ?” ดวงตาของเจ้าอ้วนเบิกกว้างมองเย่ชิงหยู่ พลางเอ่ยถาม “เธอว่าอะไรนะ? สามีของเธอ? เธอมีผัวแล้ว?”
เย่ชิงหยู่จ้องเจ้าอ้วน หอบหายใจหนัก เธอกัดฟัน พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ใช่แค่ฉันมีสามีนะ สามีของฉันเป็นทหาร ถ้าหากเขารู้ว่าพวกนายรังแกฉันละก็ พวกแกทั้งหมดจะไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว เมื่อก่อนเขาก็เคยฆ่าคนอื่นเพื่อฉัน คนที่รังแกฉันคนล่าสุดก็ตายไปแล้ว”
ตั้งแต่โบราณมา โจรพวกนี้ล้วนแต่หวาดกลัวคนที่เป็นทหารและตำรวจ เย่ชิงหยู่พูดไปแบบนั้นก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
อีกอย่างนะ ที่จริงแล้วฟางเหยียนก็เคยฆ่าคนมาก่อน!
เดิมคิดว่าทำแบบนี้ก็จะสามารถข่มขู่คนหลายคนได้ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าอ้วนจะยิ่งเบิกบานเข้าไปใหญ่ หัวเราะฮ่า ๆ ๆ ออกมาพลางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ทำเสียราวกับว่าจะมีใครที่ไม่เคยฆ่าคนอย่างไรอย่างนั้นแหละ พวกเราเนี่ย มีใครที่มือไม่เปื้อนเลือดบ้าง!”
“ถ้าหากผัวเธอกล้ามา อย่างมากพวกเราก็แค่ฆ่าเขาเสีย!”
คำพูดของเจ้าอ้วนยิ่งทำให้ใจของเย่ชิงหยู่จมดิ่งลงไป ไม่ผิด คนพวกนี้มีใครที่มือไม่เปื้อนเลือดบ้าง มีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าใหญ่ แน่นอนว่าต้องหลีกเลี่ยงการฆ่าคนไม่ได้!
ถ้าเทียบเรื่องความเลวร้ายแล้ว คนพวกนี้เลวร้ายยิ่งกว่าฟางเหยียนมากจริง ๆ!
เห็นเย่ชิงหยู่ไม่พูดอะไร เจ้าอ้วนก็พูดต่อว่า “ในเมื่อผัวของเธอเป็นทหาร งั้นเธอก็ต้องเป็นแม่หม้ายอย่างแน่นอน วันนี้ฉันจะช่วยเธอกำจัดความต้องการแทนผัวของเธอเอง!”
ว่าแล้วเจ้าอ้วนก็จะลงมือทำเรื่องที่ไม่อาจบรรยายได้ เย่ชิงหยู่เห็นการกระทำที่บ้าบิ่นนี้ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา ถ้าหากว่าเธอไม่ได้โดนมัดอยู่ก็ยังสามารถต่อต้านได้บ้าง แต่เธอในตอนนี้ แม้แต่โอกาสที่จะฆ่าตัวตายก็ยังไม่มีเลย
สิ้นหวัง! เย่ชิงหยู่ในตอนนี้เพียงใช้สายตาที่สิ้นหวังมองเจ้าอ้วน
แต่ว่า ในนาทีวิกฤตนี้ ชายในชุดจงซานที่มีใบหน้าไร้ความรู้สึกก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “พี่อ้วน พอได้แล้ว!”
“พี่ใหญ่!” เจ้าอ้วนขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “ผมไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? นี่เป็นถึงคนที่คุณหนูใหญ่สั่งให้พวกเราจัดการเชียวนะ หรือว่ายังไม่ให้ทำ? พี่จะไม่ทำก็ได้นะ แต่พี่จะมาขัดขวางผมไม่ได้!”
สีหน้าของชายหน้าบากเปลี่ยนไป เอ่ยถามว่า “แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง? แกอยากตาย?”
คำพูดของชายหน้าบากแสดงออกถึงความมืดมนน่าหวาดกลัว พี่อ้วนถูกคำพูดนี้ข่มขู่จนสะอึกขึ้นมาพักหนึ่ง จากนั้นก็มองชายหน้าบากอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วเอ่ยว่า “พี่จะไม่ไว้หน้าผมสักนิดเลยเหรอ?”
ชายหน้าบากไม่สนใจเขาอีก แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรอีก เขาเพียงแค่ผละจากเรือนร่างของเย่ชิงหยู่อย่างอาลัยอาวรณ์
ในตอนนี้เอง ชายหน้าบากเพียงแค่เงยหน้ามองไปรอบ ๆ เขาขมวดคิ้วแน่นจนเป็นเส้นสามเส้นอยู่ตรงหว่างคิ้ว ชัดเจนแล้วว่ามองอะไรบางอย่างออก เขาเงียบอยู่สักพัก จากนั้นก็เอ่ยกับท้องฟ้าอันว่างเปล่าว่า “ออกมาเถอะ ในเมื่อมาแล้ว ทำไมจะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่อีก?!”
พี่อ้วนและเจ้าผอมล้วนเงยหน้าขึ้นมองตรวจไปรอบ ๆ
ชั่วแวบเดียว คนในห้องสามคนก็กระวนกระวายขึ้นมาเพราะคำพูดประโยคเดียวของชายหน้าบาก
เย่ชิงหยู่ราวกับคว้าเอาเชือกช่วยชีวิตไว้ได้ ในใจแอบคิดว่าใช่ฟางเหยียนไหม? ฟางเหยียนมาช่วยชีวิตตนแล้วใช่ไหม?
มองหาไปรอบ ๆ ไปรอบหนึ่ง เจ้าอ้วนก็เอ่ยถามขึ้นว่า “ลูกพี่ มีคนที่ไหนกัน? ประสาทพี่อ่อนไหวไปหรือเปล่า!”
เพิ่งจะสิ้นเสียง เงาดำร่างหนึ่งก็กระโดดลงมาจากชั้นสอง ถีบเข้าไปบนร่างของพี่อ้วนตรง ๆ รูปร่างของพี่อ้วนกำยำมาก แต่โดนชายคนนั้นถีบเข้าหนึ่งทีก็กลิ้งไปสองตลบราวกับลูกบอล
พี่อ้วนลุกขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลน ในสายตาของเขาประทับภาพผู้ชายสวมชุดเครื่องแบบทหารเก่า ๆ ขาด ๆ คนหนึ่ง ชายคนนั้นตัดผมสั้นทั้งศีรษะ ในมือกุมด้ามดาบโค้งเอาไว้ ใบหน้าไร้ความรู้สึก ในดวงตากลับเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ