ดวงตาทั้งคู่ของฟางเหยียนจ้องไปที่เซียวห้านด้วยความโกรธแค้น ใบหน้าไร้ความรู้สึก บนใบหน้าของเขาไม่มีเหงื่อหยดออกมาแม้แต่หยดเดียว ราวกับว่าคนหนึ่งพันคนนี้ยังไม่เพียงพอจะทำให้เขาเหงื่อไหลได้
ชายหน้าบากมองตรงไปยังฟางเหยียน อดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อเย็นให้ตัวเอง นี่ไม่ใช่นินจาระดับสูงแน่ ๆ
“ปืนกลมือ เตรียมพร้อม!”
ในที่สุดชายหน้าบากก็ข่มอารมณ์ไว้ไม่ไหว ตวาดขึ้นมาเสียงสูง
มือปืนกลที่ซ่อนตัวอยู่ชั้นสองถือปืนออกมา พวกเขาเล็งไปที่ฟางเหยียนตั้งแต่แรก
สามคุณชายแห่งจินโจวที่เดิมอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างได้เปรียบ ก็ทวงบัลลังก์ของตัวเองคืน
เห็นฉากนี้เข้าไป พี่อ้วนก็เช็ดเหงื่อเย็น ๆ ของตัวเอง ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เก่งมาก! แกนี่เก่งจริง ๆ แต่ว่าวันสิ้นโลกของแกมาถึงแล้ว! การเคลื่อนไหวของแกเร็วกว่าปืนไหมล่ะ? รู้ไหมว่าที่นี่มีปืนเยอะแค่ไหน? ปืนกลมือห้าร้อยกระบอก แต่พวกเราออกคำสั่งคำเดียวก็สามารถยิงแกให้พรุนได้”
ฟางเหยียนยังคงไม่ใส่ใจเจ้าอ้วนเช่นเดิม เพียงแค่มองเซียวห้านอย่างเยือกเย็น!
เซียวห้านมองเห็นศพที่อยู่บนพื้น ก็อดไม่ไหวที่จะอาเจียนออกมา เธอไม่เคยเจอศพมากมายขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยได้กลิ่นคาวเลือดที่น่าขยะแขยงเช่นนี้มาก่อน หลังจากที่เธออาเจียนเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมามองไปที่ฟางเหยียน
“แก... ตอนนี้แกยังกล้าอยู่ไหม? ถ้าหากแกคิดว่าตัวเองเก่งมากนักละก็ แกก็ลองเทียบกับลูกกระสุนดูแล้วกัน! ดูสิว่าแกจะเร็วกว่า หรือลูกกระสุนเร็วกว่า!” เซียวห้านร้องโวยวายอย่างระงับอารมณ์ไม่อยู่
มุมปากของฟางเหยียนแยกออกเบา ๆ ดวงตาที่แดงก่ำไปด้วยเลือดมองกวาดไปที่มือปืนที่อยู่ชั้นสองรอบหนึ่งพลางเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ถึงแม้ลูกกระสุนจะเร็วกว่า แต่ก็ต้องมีโอกาสได้ยิงออกมาก่อนนะ!”
ในสนามรบปราบปราม เผชิญหน้าอยู่กับปืนระดับสูงมากมายนับไม่ถ้วน ปืนพวกนั้นมีกระบอกไหนบ้างที่ไม่สามารถต่อต้านปืนกลมือหลายสิบกระบอก คนยิงปืนคนไหนบ้างที่ไม่เก่งเหมือนกับคนที่ไม่เป็นโล้เป็นพายพวกนี้ แค่พวกกระจอกที่มีปืนกลมือ แค่พวกกระจอกที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย มาอยู่ต่อหน้าเขาล้วนแต่ไม่มีโอกาสจะได้ลงมือ!
ได้ยินคำนี้แล้วก็มองไปที่ฟางเหยียนที่มีท่าทางสงบเยือกเย็น สีหน้าของเซียวห้านก็มืดครึ้มลงในชั่วพริบตา ใจของเธอสั่นไหว สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่มีรูปร่าง ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมักจะรู้สึกว่าฟางเหยียนคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นฝันร้ายที่อยู่ในใจเธอ
เธอถอยหลังสองก้าวติด ๆ กัน มองไปยังชายหน้าบากแล้วตะโกนว่า “ฆ่าเขาซะ รีบฆ่าเขาซะ!”
“ลงมือ!” มือใหญ่ ๆ ของชายหน้าบากโบกไหว มือปืนห้าร้อยนายล้วนแต่เหนี่ยวไกปืน เล็งไปที่ฟางเหยียน ในตอนที่พวกเขากำลังจะเหนี่ยวโดนไกปืนนั้นเอง สายตาของฟางเหยียนก็เปลี่ยนขึ้นมาอย่างกะทันหัน เป็นเพียงเขานั้นตัวเบาบินขึ้นมาเหมือนนก
จากนั้นก็หายไปจากรัศมีการยิงของทุกคน
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขากระโดดขึ้นมาอยู่บนชั้นสอง ราวกับเงา ๆ หนึ่ง
เร็วเกินไป นี่มันเป็นการเหาะชัด ๆ เดิมนึกว่าการเหาะมีตัวตนอยู่แค่ในนิยาย แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในตอนนี้จะปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขาอย่างชัดเจน คนคนนี้เหาะได้ เปิดโลกทัศน์ให้กับบรรดาลูกสมุนจริง ๆ
ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจ แต่ชายหน้าบากนั้นกลับมองเห็น ฟางเหยียนนั้นเหยียบบรรดาเหล็กที่ถูกทิ้งเอาไว้และกำแพงเพื่อขึ้นไป ยืมพลังจากสิ่งอื่นมาเพิ่มพลังของตนเอง นี่เป็นคนคนหนึ่งที่สามารถเลือกใช้พลังได้อย่างถูกต้อง
ฟางเหยียนยืนอยู่บนทางเดินชั้นสองนั่น หันหน้าไปทางกลุ่มคนที่ถือปืนกลมืออยู่ในมือนั่นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ยังไม่ทันลั่นไก มือและปืนในมือของพวกเขาก็ร่วงลงไปอยู่บนพื้น เห็นแค่เงาของคนเงาหนึ่งแวบผ่านไปท่ามกลางกลุ่มคน จากนั้นผู้คนก็ล้มลงไปอีกเป็นแถบ ๆ
ทันใดนั้นทั่วทั้งชั้นสองของโรงงานเหล็กร้างก็เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน
ช่วงเวลาประมาณหนึ่งนาที คนที่ถือปืนอยู่ที่ชั้นสองทั้งหมดร่วงลงมา
ตายแล้ว! ตายหมดแล้ว! ปืนทุกกระบอกร่วงลงมาอยู่บนพื้นมั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ