ฟางเหยียนไม่ได้ตอบคำถามของซ่งฉาวอู่ เพียงเอ่ยสั่งการว่า “พาเทียนขุยไปส่งโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ หาสมุนไพรตามที่อยู่บนกระดาษแผ่นนี้มา เอาสมุนไพรใส่ลงในน้ำแล้วให้เขาแช่ตัว อย่าถามว่าทำไม หมอในภูมิภาคก็ห้ามถาม ทำตามที่ฉันบอกก็พอ จำเอาไว้ อย่าเจาะเปิดอะไรบนกะโหลกหรือร่างกายของเขาเด็ดขาด”
แน่นอนว่าซ่งฉาวอู่ไม่กล้าถามแล้ว เพียงมองดูเทียนขุยอย่างแปลกใจ รู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
เทียนขุยมาจากกองทัพ ไม่กี่วันก่อนยังทุบตีชายฉกรรจ์ที่มาจากยุโรปคนนั้นที่หนานหลิงอยู่เลย ใช้แค่สามหมัดก็สังหารคนผู้นั้นได้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้จะถูกคนทำร้ายจนมีสภาพแบบนี้ นี่เป็นฝีมือของใครกันแน่?
ซ่งฉาวอู่คิดมาถึงตรงนี้ ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม คนผู้นี้น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว
เขามองฟางเหยียน คิดเยินยอแสนยานุภาพของกองทัพ เอ่ยอย่างองอาจมีคุณธรรมว่า “โผ้จวิน กองทหารทั้งหมดในตะวันตกเฉียงใต้ล้วนสามารถเคลื่อนย้ายได้ตามดุลพินิจของท่าน ขอเพียงท่านมีคำสั่ง ผู้น้อยก็ยินดีจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน”
ฟางเหยียนโบกมือกล่าวว่า “พอแล้ว ไปจัดการตามที่ฉันสั่งก็พอ”
หลังจากจัดการเรื่องของเทียนขุยดีแล้ว ฟางเหยียนถึงวางแผนว่าจะกลับบ้าน อ๋าวไท่กล้าลงมือกับคนของกองทัพ สมควรตาย! เพียงแต่ฟางเหยียนจะให้เวลาเขาสักหน่อย ตอนนี้เขาไม่อาจแบ่งสมาธิไปทำเรื่องอื่นได้ เขายังต้องคุ้มกันความปลอดภัยของเย่ชิงหยู่อยู่
รอให้เทียนขุยฟื้นฟูขึ้นแล้ว ฟางเหยียนจะให้เทียนขุยลงมือสังหารอ๋าวไท่ด้วยตัวเอง!
ไอ้คนพรรค์นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าลงมือกับเจ็ดเทียนในสังกัดเขา แถมยังพยายามฆ่าเทียนขุยอีก
ฟางเหยียนยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งอยากฉีกไอ้คนผู้นั้นด้วยมือตนเป็นชิ้นๆ!
ช่วงที่ฟางเหยียนกำลังเดินทางกลับบ้าน จู่ๆ มือถือก็มีจ้อความเข้ามา เดิมทีฟางเหยียนไม่มีแก่ใจจะอ่านตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขายังคงกดเปิด เนื้อความบอกว่า ร้านจุ้ยเซียน ฉันรอนายอยู่
เมื่อเห็นข้อความนี้ ฟางเหยียนชะงักเท้าอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ร้านจุ้ยเซียน? ใครกันที่ส่งข้อความแบบนี้มาให้ตน!
หรือจะเป็นอ๋าวไท่? ด้วยสไตล์ที่เปิดเผยของอ๋าวไท่ ต้องสืบทราบมาแล้วว่าตนคือผู้บังคับบัญชาของเทียนขุย แถมยังตรวจสอบพบแล้วด้วยว่าคือตนที่สังหารลูกศิษย์ของเขา เขาต้องทำเรื่องแบบนี้ออกมาแน่นอน หากว่าเป็นเขาจริงๆ ฟางเหยียนก็ไม่รังเกียจที่จะกำจัดเขาตอนนี้
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป สตาร์ทรถขับออกไป มุ่งหน้าสู่ร้านจุ้ยเซียน
ณ ร้านจุ้ยเซียน
ในห้องรับรองส่วนตัวห้องหนึ่ง ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ฝ่ายหญิงสะสวยอ่อนหวาน สุภาพผ่าเผย เดรสผ้าซาตินสีดำขับเน้นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอ ดูมีเสน่ห์เย้ายวนนัก ฝ่ายชายหล่อเหลาสง่า สีหน้าเรียบเฉย สวมชุดสูทตามมาตรฐานชุดหนึ่ง แผ่รัศมีความเป็นคุณชายมหาเศรษฐีออกมา เพียงแต่ดวงตาทั้งคู่ของเขาเลื่อนลอย คล้ายมีเรื่องในใจ
เย่ชิงหยู่แยกริมฝีปากคลี่ยิ้มนิดๆ มองเฉิงฉู่ที่แววตาค่อนข้างเลื่อนลอย เอ่ยขึ้น “เฉิงฉู่ ขอบคุณนะคะที่คุณตกลงยอมออกมาพบฉัน และขอบคุณที่คุณคอยช่วยดูแลฉันสมัยอยู่มหาลัย เพื่อเป็นการขอบคุณ ฉันขอคารวะคุณหนึ่งแก้วนะคะ”
พอกล่าวจบ เย่ชิงหยู่ก็ชูแก้วไวน์แดงในมือขึ้น จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวหมด
“อา!” ตอนที่ปฏิกิริยาตอบสนองของเฉิงฉู่กลับคืนมา เย่ชิงหยู่ก็ดื่มไวน์แดงในมือแก้วนั้นจนหมดแล้ว
เมื่อเห็นว่าเฉิงฉู่ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนั้น เย่ชิงหยู่จึงเอ่ยถาม “คุณเป็นอะไรไหมคะ? เฉิงฉู่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เฉิงฉู่ส่ายหน้า ตอบกลับไป “ไม่ครับ ไม่มีหรอก” ปากบอกว่าไม่มีอะไร ทว่าอันที่จริงในใจกำลังนึกถึงคำเตือนของอาสองอยู่ตลอด ไม่ให้เขาไปยั่วโมโหคนผู้นั้น ตอนนี้เขากลับดีเหลือเกิน นัดพบกับภรรยาของคนอื่นเสียแล้ว
เขารู้สึกขนลุกซู่อยู่ในใจ สัมผัสได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองตนอยู่ ต้องโทษอาสองที่พูดจาหนักหนาเกินไป ไม่งั้นเขาคงไม่หวาดหวั่นและกลัวเกรงขนาดนี้หรอก! เขายิ้มขื่นๆ แล้วเอ่ยว่า “นึกๆ ดูแล้วช่วงมหาลัยก็ดีนะ อยากจะเล่นสนุกอะไรก็เล่นอย่างนั้น แล้วดูพวกเราในตอนนี้สิ ฮ่าฮ่า!” เฉิงฉู่ค่อนข้างเอ่ยต่อไปไม่ถูกอยู่บ้าง
ดวงหน้าของเย่ชิงหยู่ก็แฝงรอยยิ้มสุขุมสายหนึ่งไว้ เอ่ยไป “ใช่ค่ะ ถ้าสามารถหยุดช่วงเวลานั้นเอาไว้ตลอดไปได้ ก็คงดีมากเลย อย่างน้อยในตอนนั้น คุณพ่อฉันก็ยังอยู่ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนตอนนี้ ทั้งวันมีเรื่องให้คอยเป็นกังวลมากมาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ