“พ่อคุณ?”ชายผมทองเตรียมจะลุกขึ้นอย่างตะเกียกตะกาย แต่เขาลุกไม่ไหวจริงๆ เขากัดฟันกรอดแล้วตะโกน“คุณตาบอดหรือไง หรือมเห็นว่าผมจะลุกขึ้น?รีบพยุงผมสิ ผมจะไปฆ่ามัน!ต้องฆ่ามันให้ได้”
เขาคำรามด้วยความโกรธ เหมือนคนบ้าคลั่ง หญิงสาวถูกด่าตำหนิจนไม่เหลือชิ้นดี แต่ยังคงไม่กล้าตอบกลับแม้แต่คำเดียว หลังจากที่พยุงเขาลุกขึ้นยืนแล้ว หญิงสาวก็รีบโทรศัพท์หาพ่อของตัวเองทันที
อีกด้านฟางเหยียนกับเทียนขุยเดินเข้าไปในซอยหนึ่ง!
เทียนขุยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้เขาฟังไปหนึ่งรอบ ฟางเหยียนตอบรับอืม แล้วพูดว่า“นายทำได้ไม่เลว แต่น่าฆ่าเขาซะ พูดไร้สาระกับเขาเยอะแยะทำไม?”
พอได้ยินฟางเหยียนพูดดังนั้นแล้ว เทียนขุยก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาว่า“ท่านบอกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไม่ใช่เหรอครับ?ฆ่าคนต่อหน้าคนเยอะแยะมากมายขนาดนี้ จะเป็นการไม่ดีนะครับ!”
“ฆ่าคนแบบนี้ จะมีผลกระทบอะไร?”ฟางเหยียนพูดต่ออย่างเรียบเฉย
หยิ่งผยองจองหองในประเทศของตัวเอง คนในประเทศของตัวเองยังไม่กล้าทำอะไรเขาอีก คนแบบนี้ต้องทำให้รู้ซะบ้างว่าที่นี่คือผืนแผ่นดินของประเทศหวา เขาไม่อาจจะกำเริบเสิบสานได้ อยู่ในประเทศหวาก็ต้องเคารพกฎกติกาของประเทศหวา!ไม่อย่างนั้นตายสถานเดียว
เทียนขุยพยักหน้าแล้วพูดว่า“คราวหน้าผมรู้แล้วครับว่าต้องจัดการยังไง!”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร รถยังคงแล่นอยู่ในตรอก เดินได้ประมาณสิบนาที ในที่สุดก็มองเห็นร้านขายยาจีนร้านหนึ่ง ป้ายชื่อของร้ายใช้ผ้าขาวเขียนด้วยวิธีการดั้งเดิมมีตัวหนังสือหลายตัว:ร้านยาสมุนไพรจ้าวเอ้อ
เป็นอะไรที่ติดดินมาก ใกล้เคียงกับแบบโบราณมาก!แผ่นป้ายร้าน ที่เก่ามาก ดูไปแล้วให้ความรู้สึกเก่าแก่ จ้าวเอ้อคนนี้น่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างชอบประวัติศาสตร์ของประเทศหวา
พอลงจากรถมา เทียนขุยก็เดินมาเคาะที่ประตู แต่ภายในร้านไม่มีเสียงตอบกลับเลย
ฟางเหยียนเดินลงมา แล้วพูดว่า“ผลักประตูเข้าไปดูเถอะ คนแบบนี้ส่วนมากนิสัยค่อนข้างประหลาด”
“อืม!”เทียนขุยตอบรับหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นก็ผลักประตูเปิดออก ประตูพึ่งเปิดออกมาได้ ฟางเหยียนก็ได้กลิ่นลมหายใจแห่งความตาย ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวขึ้น รีบดึงเทียนขุยที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน เขาขมวดคิ้วพลางเรียก“ช้าก่อน!”
เทียนขุยที่หันกลับไปมองฟางเหยียนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ภาพต่อมา ทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที!
เปิดประตูออกมาก็เป็นเคาน์เตอร์สไตล์จีน ด้านหลังเคาน์เตอร์เต็มไปด้วยกล่องยาจีน ทุกอย่างถูกตกแต่งด้วยสไตล์จีนทั้งหมด ทั้งร้านตกแต่งด้วยสไตล์จีนหมดเลย
ทั้งสองมองเห็นจ้าวเอ้อ ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวหนึ่งของเคาน์เตอร์ ศีรษะของเขาแหงนไปทางเพดาน ไม่เห็นหน้า เห็นเพียงเคราเล็กๆที่คางเท่านั้น เทียนขุยเป็นนักรบที่ต่อสู้อยู่ในสนามรบมานาน มองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาพูดอย่างตกตะลึง“เขาตายแล้ว?!”
ฟางเหยียนใช้เพียงการสูดดมก็สามารถได้กลิ่นแห่งความตายแล้ว แต่เทียนขุยต้องมองเห็น นี่คือความแตกต่างของทั้งสองคน ถึงจะอยู่ในกองทัพกันมาก่อน มักได้ทักทายกับคนตายอยู่บ่อยๆ แต่จำนวนศพที่พบเจอมาไม่เหมือนกัน และความไวต่อความตายก็แตกต่างกัน
เทียนขุยมากสุดก็เคยแค่ฆ่าคนนับหมื่น แต่ฟางเหยียนกลับลงมือฆ่าเองนับแสนคน อาจจะถึงล้านด้วยซ้ำ!
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ