ฟางเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างสงบเยือกเย็น “ได้ เห็นแก่ที่แกสองคนมีความจริงใจขนาดนั้น ฉันก็จะปล่อยพวกแก!แต่มีเรื่องหนึ่งฉันต้องเตือนพวกแกสองคนสักหน่อย”
ได้ยินฟางเหยียนพูดว่าจะปล่อยทั้งสองคนแล้ว บนใบหน้าของทั้งสองคนก็ปรากฏรอยยิ้มของการรอดชีวิตจากภัยพิบัติออกมาในทันที
“คุณว่ามาเลยครับ คุณว่ามาเลย!” ทั้งสองคนรีบพยักหน้า
ฟางเหยียนเอ่ย “ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่เมืองจินโจว มีคนหนึ่งที่ชอบกระทำการลับหลังเพื่อก่อกวนแบบนี้ก็เคยสาบานอย่างพวกแกเช่นเดียวกัน บอกว่าตัวเองไม่อาจจะทำเรื่องนั้นได้ หากเรื่องนั้นเป็นเขาที่ทำ ก็จะออกจากบ้านโดนรถชน ต่อมา เขาถูกรถชนขาขาดทั้งสองข้างจริงๆ เพราะว่าเรื่องนั้นก็คือเขาที่ทำ ฉันหวังว่าพวกแกจะสามารถจำคำสาบานนี้ บอกว่าจะไม่ทำเรื่องที่รังแกคนอ่อนแอแบบนี้อีก ก็อย่าทำอีกเลย หากให้ฉันรู้ว่าพวกแกทำ คำสาบานที่ว่าออกจากบ้านจะถูกรถชน จะกลายเป็นจริง!ถึงเวลาจะชนเพียงแค่ขาทั้งสองข้างขาดหรือไม่ ฉันก็ไม่กล้ารับประกันแล้ว!”
ที่ฟางเหยียนพูดก็คือเรื่องนั้นของจางไห่เฟิง ใช่แล้ว ขาทั้งสองข้างของเขาถูกชนขาดก็คือการจัดการของฟางเหยียน
“ครับๆๆ!” ทั้งสองคนพยักหน้าติดต่อกันพร้อมกับเอ่ย “พวกเราพูดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำ ต่อไปจะต้องทำตัวเป็นคนดีอย่างแน่นอน”
ฟางเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย เดินขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยว่า “ฉันเชื่อพวกแก แต่พวกแกต้องทำให้ฉันเชื่อใจ”
“แมวป่า เอามีดสองเล่มให้ฉัน!” ฟางเหยียนสั่งออกไปหนึ่งประโยค
แมวป่าพยักหน้าอย่างหนักหน่วงพร้อมกับเอ่ย “ครับ!”
จากนั้นหยิบมีดสองเล่มออกมาจากตัวลูกน้องลุกขึ้นเดินมาทางฟางเหยียน ยังไม่ทันเดินมาถึงด้านหน้าของฟางเหยียน ฟางเหยียนก็เอ่ยขึ้นว่า “วางไว้ตรงหน้าพวกมันสองคนเถอะ!ฉันจะให้พวกมันทำคำสาบานของตัวเองให้เป็นจริง”
แมวป่านำมีดสองเล่มแยกวางไว้ที่ด้านหน้าของจ้าวก่วงและหยางซิง จากนั้นถอยลงไปอย่างเงียบๆ คุกเข่าลงบนพื้นต่อ
ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ไม่รู้เลยว่าเตานี้มีเจตนาอะไร
หรือว่าจะให้ทั้งสองคนผ่าท้องฆ่าตัวตายงั้นหรอ? หรือว่าให้ทั้งสองคนหยิบมาปาดคอตัวเอง?
ไม่ว่าเป็นอย่างไหน นั่นก็ตายหมดนี่นา!
นี่ให้โอกาสที่ไหนกัน?
คิดมาถึงตรงนี้ ทั้งสองคนร้องขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ไม่เอาครับ คุณฟาง พวกเรามีความเสียใจและคิดจะแก้ตัวใหม่จริงๆ ขอร้องคุณอย่าฆ่าพวกเราเลยนะครับ!พวกเราอายุยังน้อยอยู่เลย ยังไม่อยากตาย!”
ฟางเหยียนหัวเราะเหอะๆอย่างประชดประชันพร้อมกับเอ่ย “ฉันไม่เคยบอกให้พวกแกตายสักหน่อย!ฉันก็แค่กลัวว่าความจำของพวกแกจะไม่ดี ผ่านไปสองวันก็จะลืมคำสาบานในวันนี้แล้ว ดังนั้นก็เลยตั้งใจเพิ่มความทรงจำที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นให้กับพวกแกโดยเฉพาะ ตัดนิ้วของตัวเองสิ ต่อไป พวกแกมองเห็นนิ้วที่ไม่มีอยู่นั่นก็สามารถนึกถึงคำสาบานที่ให้ไว้ในวันนี้ได้แล้ว แบบนี้ ฉันคิดว่าพวกแกคงจะไม่มีทางลืม”
สองคนนี้ก็ทำเรื่องที่รังแกคนแบบนั้นมาไม่น้อย คนธรรมดาที่ไม่มีกำลังไม่มีอำนาจ ก็มักจะถูกพวกเขารังแกอยู่บ่อยๆ การกระทำของลูกคนรวยเหล่านี้ ยืนยันความเป็นจริงของประโยคนั้นได้เป็นอย่างมาก มีเงินสามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้จริงๆหรอ?
ใช่แล้ว มีเงินสามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้จริงๆ!
“หา!” บนใบหน้าของทั้งสองคนต่างก็เหงื่อตกออกมา พวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง สายตาทั้งจนปัญญาทั้งหวาดกลัว
“คุณ คุณฟาง ความจำของผมดีมาก!ตอนเรียนประถม ท่องกลอนหนึ่งบท ผมห้านาทีก็สามารถท่องจำได้แล้ว วันนี้เรื่องที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจขนาดนั้น ผมคิดว่า ชีวิตนี้ผมไม่มีทางลืมหรอกครับ” หยางซิงเอ่ยขึ้นอย่างกลับกลอก
“งั้นหรอ?” สีหน้าของฟางเหยียนอึมครึมลงมา เขายกมือขึ้นชูนิ้วหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยว่า “ฉันไม่มีเวลามากมายขนาดนั้นที่จะเสียไปกับพวกแกแล้ว ฉันนับเพียงแค่สาม หากพวกแกยังไม่ลงมือล่ะก็ งั้นฉันก็จะมาช่วยพวกแกเอง ถึงเวลาก็ไม่ใช่นิ้วมือง่ายๆแบบนั้นแล้ว ฉันจะเอาทั้งมือของพวกแก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ