บทที่ 39 หินที่เปล่งแสงได้
การที่ฟางเหยียนยอมช่วยต่งยู่ เป็นเพราะเมื่อกี้ต่งยู่ออกหน้าช่วยเย่ชิงหยู่ที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ ถือซะว่าตอบแทนเธอละกัน!
ไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงงเซ่าเซียนทางทิศเหนือของเมือง
นี่เป็นร้านค้าที่ขายอัญมณีหินล้ำค่าโดยเฉพาะ สามารถพูดได้ว่า เป็นที่ให้คนมาพนันหิน
พอเข้ามาก็มีคนกำลังพนันหินอยู่ ที่จริงการเล่นพนันหินนี่ขึ้นอยู่กับดวงเท่านั้น ดวงดีก็จะรวยภายในคืนเดียว คนดวงไม่ดีก็อาจจะล้มละลายหมดตัวในคืนเดียวเหมือนกัน
ดังนั้นในการพนันหินมีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า มีดหนึ่งจนมีดหนึ่งรวย มีดหนึ่งรู้ผล
ฟางเหยียนไม่สนใจเรื่องพนัน เลยไม่คิดจะดูว่าคนพวกนั้นเล่นอะไร
แต่ต่งยู่กลับพูดอย่างสนใจว่า “หินนี่ดูแล้วน่าจะเป็นดอกเกล็ดหิมะสีฟ้าผลิบาน”
ดอกเกล็ดหิมะสีฟ้าผลิบาน เป็นการบรรยายรูปร่างและน้ำในหยก ผลิบานจะหมายถึงมีสีอื่น ไม่ถือว่าเป็นหยกชั้นดี เรียกได้ว่าหยกธรรมดา สามารถนำมาทำเครื่องประดับประเภทกำไลได้
พอต่งยู่พูดจบ หินก็โดนตัดเสร็จแล้ว พนักงานตัดหินตะโกนว่า “ดอกเกล็ดหิมะสีฟ้าผลิบาน!”
ฟางเหยียนอดยิ้มน้อยๆไม่ได้ พลางว่า “คุณเชี่ยวชาญมาก”
ต่งยู่หัวเราะว่า “เห็นพ่อฉันเล่นด้านนี้ตั้งแต่เด็ก บางทีอาจจะเป็นพรสวรรค์ เรื่องการพนันหินฉันยังไม่เคยทายผิดเลย”
ฟางเหยียนพยักหน้า ต่งยู่พาฟางเหยียนมายืนต่อหน้าเถ้าแก่ “เถ้าแก่คะ หินที่ฉันถูกใจนั่นล่ะ?”
เถ้าแก่หน้าตอบผอมขี้ก้าง มีเครายาว มองดูก็รู้ว่าเจ้าเล่ห์ ทำงานด้านนี้ถ้าไม่เจ้าเล่ห์ไม่ได้หรอก ดังนั้นเถ้าแก่หน้าตาท่าทางแบบนี้ถือว่าเหมาะกับอาชีพแล้ว
“แหะๆ สาวน้อยกลับมาแล้ว! ผมว่าคุณต้องเป็นคนในวงการ เสียดายหินชั้นดีผมใช่ไหม” เถ้าแก่หัวเราะฮี่ ก่อนเดินออกมา พาต่งยู่ไปที่หน้าหินชิ้นนั้น
นั่นเป็นหินที่มีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ ขนาดประมาณลูกบาส ด้านนอกราบรื่น
ต่งยู่ถือกระบอกไฟส่องไปที่หิน แสงสามารถส่องผ่านได้
เธอบอกกับฟางเหยียนว่า “คุณฟาง ตั้งแต่พนันหินมาฉันไม่เคยแพ้เลย แต่หินก้อนนี้ฉันดูไม่ออกจริงๆ จะบอกว่าเป็นหยกชั้นดี ก็มีลายเส้นบางส่วนที่ฉันดูไม่ค่อยเข้าใจ จะบอกว่าไม่ใช่หยกดี มันก็มีลักษณะเด่นของหยกดีไว้หมดเลย”
ฟางเหยียนยื่นมือออกมาลูบหินเล็กน้อย ใบหน้าที่เดิมไม่มีอารมณ์เปลี่ยนเป็นตกใจฉับพลัน
เขาขมวดคิ้ว พลังลมปราณอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมาจากในร่างกาย พอพลังในร่างผสานกับหิน หินก้อนนั้นก็เปล่งแสงออกมาซะงั้น
คนในแหล่งพนันหินพอเห็นหินเปล่งแสง ก็ปราดเข้ามาห้อมลอ้ม
“แม่เจ้า หินเปล่งแสงแล้ว นี่มันหินดีขนาดไหนเนี่ย”
“ในนี้ต้องเป็นหยกแน่ แถมบริสุทธิ์ด้วย!”
ฟางเหยียนปล่อยมือออก พลางถอนหายใจยาวออกมา แสงนั้นค่อยๆมืดลง และกลับเป็นอย่างเดิม
“เป็นไงคะ? คุณฟาง” ต่งยู่มองฟางเหยียนอย่างตะลึง
ภาพแบบนี้เธอเคยเห็นครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก มีคนหนึ่งใช้มือลูบไปที่หิน หินที่เดิมดำสนิทกลับสว่างขึ้นมา ภาพในตอนนั้นเหมือนเมื่อกี้ที่ฟางเหยียนทำเป๊ะเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ