จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 422

หม่าจงหัว หม่ากวงชาว หม่ากวงหรง หม่าเหา สี่คนมองเหตุการณ์ที่เกินจริงตรงหน้าอย่างตะลึง เดิมคิดว่าสาวไร้หน้าคนนี้จะต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วงกับฟางเหยียน จะต้องต่อสู้จนฟ้าดินเปลี่ยนสี ปฐพีสั่นสะเทือน ดุเดือดเลือดพล่าน แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเธออยู่ต่อหน้าฟางเหยียนไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะต่อกรกลับไป เหมือนเด็กที่ต่อสู้ไม่เป็นจริงๆ

กดดัน กดดันทุกๆทาง ต่อหน้าฟางเหยียน เธอไม่มีแม้กระทั่งโอกาสได้ต่อกร! อะไรระดับต้าชี่ ผู้อาวุโสของสำนักไร้หน้า เพลิงเสวน ในสายตาของฟางเหยียนไม่สำคัญอะไรทั้งนั้น!

นี่คือเสน่ห์ที่ออกมาจากตัวของฟางเหยียน ตอนพวกเขาอยู่ต่อหน้าสาวไร้หน้าไร้ซึ่งพลังที่จะต่อกรได้ แต่เมื่อสาวไร้หน้าอยู่ต่อหน้าฟางเหยียนก็ไร้ซึ่งพลังที่จะต่อกรได้เช่นกัน

เดิมคิดว่าสาวไร้หน้าก็แข็งแกร่งมากพอแล้ว ไม่คาดคิดว่าฟางเหยียนจะแข็งแกร่งกว่าสาวไร้หน้าไม่รู้ตั้งกี่เท่า!

ในใจของหม่าจงหัวเกิดเป็นคำถาม วัยรุ่นคนนี้ แข็งแกร่งระดับไหนกันแน่นะ?

หรือเขาสามารถทำลายล้างพิภพได้?

มองใบหน้าอันแสนธรรมดาของฟางเหยียน ทำให้ทุกคนของตระกูลหม่าโล่งอกขึ้น

เขาเป็นคนมั้ย? ถ้าใช่ ทำไมคนในวัยนี้ถึงได้แข็งแกร่งถึงระดับนี้ได้นะ?

เขาไม่ใช่คนเหรอ? เขามีทุกอย่างที่คนมี แล้วจะไม่ใช่คนได้อย่างไรกัน?

ทุกคนของตระกูลหม่าเหม่อลอย แข็งทื่อ ชะงักไป หนึ่งในนั้นที่ใจเต้นเร็วที่สุดก็คือหม่ากวงชาวที่ล้มอยู่กับพื้นหน้าตาประหลาดใจ เขากลืนน้ำลายลงไป ใจเต้นเร็วตึกๆๆไม่หยุด! ตนยังโง่เรียกคนพวกนั้นไปล้อมเขาไว้อีก ดีที่เขาไม่จัดการ แต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่ออกโรง ถ้าเขาลงมือเอง งั้นตนจะยังมีโอกาสมีชีวิตอยู่ได้ถึงตอนนี้มั้ย?

ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าตัวเองโชคดีมากขนาดไหน ตอนนี้ เขาก็ได้รู้แล้วว่าทำไมหม่าซวี่ซงถึงได้ตาย!

“จอมพลโผ้จวิน!” เทียนขุยก้าวมาข้างหน้า มองศพที่ส่วนคอยังเลือดไหลไม่หยุด แล้วถาม “ท่านฆ่าเธอทำไมครับ? เราต้องถามที่อยู่ของเพลิงเสวนจากเธอนะครับ!”

ฟางเหยียนเช็ดมือ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าเธอจะพูดมั้ย?”

พูดจบ ฟางเหยียนได้เดินมาถึงข้างๆของเทียนขุยแล้ว เขายกมือขึ้นตบบ่าของเทียนขุย จากนั้นก็มองเทียนขุย แล้วเดินไปที่หม่าจงหัว

เทียนขุยเพิ่งจะเข้าใจ จอมพลโผ้จวินพูดถูก ต่อให้ถามเธอ เธอก็ไม่พูดอยู่ดี เหมือนกับอ๋าวไท่นั่นแหละ ถึงวินาทีสุดท้ายก่อนตายแล้ว พวกเขาก็ยังไม่บอกองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเลย แทนที่จะถามแล้วต้องโมโห สู้ฆ่าเลยจะได้สบายใจ สไตล์การจัดการเรื่องราวของจอมพลโผ้จวินราวกับจะดูมีความกล้ายิ่งขึ้นไปอีกแล้ว เหมือนตอนอยู่ในสนามรบ

หม่าจงหัวเห็นฟางเหยียนเดินมาทางเขา อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เพราะเนื่องจากตื่นเต้นเกินไป จึงได้กระอักเลือดออกมา นี่เป็นการกระอักเลือดเท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วของหม่าจงหัว อวัยวะภายในของเขาแทบจะพังหมดแล้ว

ฟางเหยียนยกมือส่งสัญญาณว่าไม่ต้องพูดอะไร จากนั้นก็จับมือของเขาอย่างเบาๆ หาเส้นเลือดใหญ่ ใช้สองนิ้วกดเส้นเลือดแดงไว้ แล้วเริ่มจับชีพจรทั้งตัวของหม่าจงหัวอย่างตั้งใจ

การจับชีพจรอะไรนั่นความจริงแล้วก็คือดูผ่านการไหลเวียนของเลือดแล้วมาตัดสินว่าส่วนไหนในร่างกายเกิดปัญหา นี่คือมรดกยอดเยี่ยมทางวัฒนธรรมของประเทศหวา ได้ผลลัพธ์ดีกว่าเครื่องวัดร่างกายที่โรงพยาบาลใช้ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่

หม่าจงหัวพิงอยู่ในอกของหม่าเหา ลมหายใจของเขาค่อยๆผ่อนลง เขากล่าวอย่างอ่อนแรงว่า “จอมพล ขอบคุณจอมพลที่ช่วยตระกูลหม่าของผม แต่ไร้ประโยชน์แล้ว แต่ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวงของผมได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว ไม่สามารถฟื้นกลับมาได้อีกต่อไป แต่เสียดาย เพลงดาบมังกรเขียวไม่ได้เอาชีวิตของไอ้ชั้นต่ำนี่ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บใจมากที่สุด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ