“ไม่ๆๆ!” หลังจากที่หยางซงพูดจบ ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดผิดไปแล้ว เขารีบแก้ไขให้ถูกต้องว่า “ไม่ใช่สิ น่าจะพูดว่าเขามายุ่งกับแก! บอกพี่มา คนนั้นมันหาเรื่องแกใช่มั้ย?”
ฉินเข่อก้มหน้า ไม่กล้าสบตาโดยตรงกับหยางซง เธอกล่าวอย่างตอบรับ “ไม่ใช่นะ ฉันยินยอมเอง”
“ยินยอม?” หยางซงถอนหายใจเห้อออกมา ยกมือลูบท้ายทอยแล้วกล่าว “พี่ไม่รู้จริงๆว่าควรจะว่าแกยังไงดีล่ะ คนนี้มันรับมือยากจริงๆ แกไม่เห็นการสนทนาของเขากับโจวเจิ้ง”
ฉินเข่อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฟางเหยียนเป็นคนยังไง ตอนที่เธอเห็นฟางเหยียน เขากำลังฆ่าคนนะ ไม่ได้ฆ่าแค่คนสองคน แต่หลายพันคน แต่ฉินเข่อกลับเชื่อว่าเขาคือคนดี เพราะเขาช่วยตนไว้สองครั้ง
ถึงแม้การที่พาคนที่ฆ่าคนเป็นนิจกลับมาบ้านมันน่ากลัว แต่เธอกลับเชื่อฟางเหยียน
ฉินเข่อไอ้หยาออกมา แล้วกล่าว “พี่ชาย ครั้งนี้พี่เชื่อฉันนะ ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะพาคนมา อีกอย่าง พี่ดูสิ เขากับลุงใหญ่ไม่ใช่ว่าคุยกันถูกคออยู่เหรอ มีคุยมีหัวเราะ”
หยางซงกล่าวด้วยสีหน้าไม่มีความสุขว่า “พี่ไม่ได้ว่าแกที่พาคนกลับมา เพียงแต่คนนี้มันมีปัญหา! เรื่องเมื่อวานแกไม่เห็น ถ้าแกเห็นก็ต้องรู้สึกว่าคนนี้มีปัญหาแน่นอน”
ฉินเข่อส่งเสียงเหอะออกมา แล้วกล่าว “สรุปฉันไม่สน ฉันพาเค้ามาแล้ว ไม่สามารถไล่เค้าไปได้”
“วันนี้พี่ไม่มีทางไล่เขาไป แต่ผ่านวันนี้ไปพวกแกต้องเลิกกัน!”
คิ้วของฉินเข่อขมวดขึ้น จ้องหยางซงแล้วกล่าว “มีพี่ชายแบบพี่ที่ไหนกัน ที่โน้มน้าวให้คนเลิกกัน”
“ไม่ใช่…” หยางซงอยากอธิบาย แต่ฉินเข่อเดินไปด้วยสีหน้าไม่มีความสุขแล้ว
อีกด้าน มีเพียงฟางเหยียนและหยางจิ่งเซียนยืนเผชิญตรงข้ามกัน ฟางเหยียนยื่นมือไปแล้วกล่าว “หยางกงสวัสดีครับ ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามหยางกงมานาน วันนี้ได้เห็นที่แท้ก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร! ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานวันเกิดของหยางกง เป็นเกียรติของผมมากครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดที่สุภาพของฟางเหยียน หยางจิ่งเซียนที่เดิมที่ไม่มีความสุขหัวเราะเหอะๆออกมา แล้วกล่าว “ฉันดูแกเด็กคนนี้ก็โดดเด่นไม่เหมือนใคร ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอะไรแน่นอน! ครอบครัวของแกอยู่ที่ไหนเหรอ?”
ฟางเหยียนตอบ “เขตซีหนาน เมืองจินโจวครับ!”
ฟางเหยียนไม่มีทางบอกว่าตนคือคนของตระกูลฟางแห่งเจียงตู เพราะในกระดูกของเขาคิดว่าตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลฟาง ตั้งแต่หลังจากที่ฟางจินหยวนบีบพ่อของเขาตาย เขาก็เริ่มเกลียดแค้นทุกคนของตระกูลฟาง และเขายิ่งจะไม่บอกภายนอกเลยว่าเขาคือคนของตระกูลฟาง
หยางจิ่งเซียนส่งเสียงอ๋อออกมา จากนั้นถามอีกว่า “งั้น แกเรียนที่ดินแดนตะวันตกนี้เหรอ?”
ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ครับ!”
อายุของฟางเหยียนไม่มากจริงๆ ฉินเข่ออายุประมาณยี่สิบสองปี ฟางเหยียนก็เพิ่งจะยี่สิบห้าปี ดังนั้นอายุของทั้งสองคนใกล้เคียงกันมาก บวกกับรูปลักษณ์ของฟางเหยียนเมื่อไม่อยู่ในสถานการณ์ที่มีแรงอาฆาตจะดูอ่อนเยาว์มาก
หยางจิ่งเซียนถามอีกว่า “งั้นแกรู้จักกับเข่อเข่อของเราได้อย่างไรกัน?”
“ผม…” ฟางเหยียนลังเลไปสักพัก แล้วกล่าว “ผมคือศาสตราจารย์ในมหาลัยของพวกเขา!”
หยางจิ่งเซียนมองฟางเหยียนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างตกใจ แล้วกล่าว “มหาวิทยาลัยซีหนานของเรายังมีศาสตราจารย์ที่วัยรุ่นแบบนี้ด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่รู้เลยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ