“หลิ่วจื้อเชา! คุณเกินไปแล้วหรือเปล่า? คุณคิดว่าตัวเองมีเงินแล้วจะไม่สนใจอะไรเลยเหรอ? ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันทั้งนั้น อย่าบีบให้ฉันต้องแตกคอกันในงานนะ” เฉินหย่าไม่ใช่คนที่ชอบหาเรื่อง ระบายอารมณ์อย่างขาดสติทันใด
หลิ่วจื้อเชาบึนปากแล้วกล่าว “ก็แค่ล้อเล่นป่ะ จะโมโหขนาดนั้นทำไม”
“แน่นอน ถ้าคุณเย่ไม่รังเกียจล่ะก็ ผมสามารถเอาอันนี้ให้คุณเย่ได้นะครับ เย่ชิงหยู่น่าจะไม่มีแฟนนะ?” หลิ่วจื้อเชาได้ส่งสายตาไปที่เย่ชิงหยู่ หลายคนก็ได้โห่ขึ้นมาอีก
เย่ชิงหยู่รีบจับมือของฟางเหยียนไว้ ตอนนี้เธอกังวลสุดๆว่าฟางเหยียนจะทำอะไรขึ้นมา
แต่ฟางเหยียนสงบมาก ไม่ได้ทำอะไร ถึงขั้นไม่มองหลิ่วจื้อเชาแม้แต่น้อย
เย่ชิงหยู่จัดผม แล้วกล่าว “ขอโทษค่ะ ฉันไม่สนใจเครื่องประดับพวกนี้ ฉันไม่มีแฟนจริง แต่ฉันมีสามีค่ะ นี่คือสามีของฉัน หลิ่วจื้อเชา กรุณาระวังการกระทำของคุณด้วยนะคะ”
หลิ่วจื้อเชาชะงักไป คิดในใจยังมีผู้หญิงที่ไม่รักสิ่งที่ราคาแพงแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ?สายตาของเขามองไปที่ฟางเหยียน หลังจากจ้องไปได้ไม่กี่วินาที จู่ๆเขาก็เข้าใจตะโกนออกมาว่า “นี่คือเขยที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กคนนั้นของครอบครัวคุณเหรอ?”
เขยที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ความจริงคนจำนวนไม่น้อยเรียกฟางเหยียนแบบนี้ การเรียกแบบนี้หยาบคายกว่าเขยแต่งเข้าบ้านหญิงเสียอีก มีสะใภ้เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กคำพูดนี้ แต่กลับไม่เคยมีเขยที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก นี่แทบจะเป็นการเหยียดหยามอย่างที่สุดของผู้ชายคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
“ดูไม่ออกจริงๆนะเนี่ย ว่าไอ้นี่จะโชคดีได้เมียสวย สามารถคว้าหงส์มาครองได้” หลิ่วจื้อเชามองฟางเหยียนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ในใจที่มีต่อฟางเหยียนคืออิจฉาริษยาเกลียดชัง
“พอแล้ว!หลิ่วจื้อเชา” เย่ชิงหยู่กล่าวอย่างค่อนข้างโมโห “อย่ามัวแต่พูดเรื่องพวกนี้ได้มั้ย?วันนี้เป็นวันมงคลของหวงเจียว พวกเราไม่อยากทะเลาะกับคุณนะ แต่คุณกรุณาหุบปากไปด้วยค่ะ! อย่าอาศัยว่าครอบครัวมีเงินเน่าๆไม่เท่าไหร่นั้นแล้วใช้คำพูดโจมตีคนอื่น ถ้าคุณมีปัญญาก็ลองพึ่งตัวเองดูสิ”
ที่เย่ชิงหยู่ร้อนรนขนาดนั้น เพราะเธอกังวลว่าฟางเหยียนจะทำเรื่องที่ช็อกคนขึ้นมา
ฟางเหยียนเป็นคนที่เอะอะนิดหน่อยก็ฆ่าคน เขาขี้เกียจจะไร้สาระกับหลิ่วจื้อเชามากมายขนาดนั้น
แก้มของหลิ่วจื้อเชากระตุกเป็นพักๆ ดูแคลนเหอะๆแล้วกล่าว “ทำไม? ครอบครัวผมมีเงินมากขนาดนั้นแล้ว ผมจำเป็นต้องไปทำงานเองด้วยเหรอ? คนอย่างพวกเรา เกิดมาก็ได้อยู่ในจุดสิ้นสุดที่คนอื่นดิ้นรนแล้ว แต่ก็อย่าว่าไปนะ ชีวิตเขยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กคนนี้ของครอบครัวคุณไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เดิมคิดว่าพึ่งตระกูลใหญ่ คิดจะรู้ว่าตระกูลของพวกคุณก็พังพินาศแล้ว”
“ปัง!!” จู่ๆ ฟางเหยียนนั่งไม่ติด ยกมือขึ้นมาตบโต๊ะอย่างรุนแรง
คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทั้งหมดล้วนตกใจขึ้นมา จ้องฟางเหยียนอย่างตาลุกโต
เสิ่นตานขมวดคิ้ว ส่งเสียงฮึมออกมาแล้วกล่าว “นี่ บ้าหรือเปล่าเนี่ย! ถ้าบ้าก็ไสหัวไปเลยนะ พวกเราคุยกันดีๆ คุณตบโต๊ะทำไมกัน? คุณคิดว่ามีแค่คุณที่ตบโต๊ะได้เหรอ? กูก็ทำได้”
“ปัง!” เสิ่นตานก็ยกมือตบโต๊ะ
ฟางเหยียนขี้เกียจจะสนใจผู้หญิงคนนั้น เพียงแต่จ้องไปที่หลิ่วจื้อเชาแล้วกล่าว “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป หุบปากของแกไปอย่างเงียบๆจะดีที่สุด ไม่งั้นปู่ของแกอ้อนวอนฉันแกก็ยังต้องตาย!”
คำพูดของฟางเหยียนพูดได้อย่างมั่นใจ และทุกๆคนเต็มไปด้วยแรงกดขี่ที่ไร้รูปอย่างนั้น แต่ในงานนอกจากเย่ชิงหยู่และเฉินหย่าที่เชื่อ ทุกคนล้วนเมินใส่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ