จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 594

สรุปบท บทที่ 594 สำนักลึกลับทั้งห้า: จอมนักรบทรงเกียรติยศ

สรุปตอน บทที่ 594 สำนักลึกลับทั้งห้า – จากเรื่อง จอมนักรบทรงเกียรติยศ โดย โซ่วปี่หนานซาน

ตอน บทที่ 594 สำนักลึกลับทั้งห้า ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จอมนักรบทรงเกียรติยศ โดยนักเขียน โซ่วปี่หนานซาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ บนตัวเธอมีจิตวิญญาณแห่งเซียนยุคโบราณแฝงอยู่ ที่สำคัญก็คือผมของเธอถูกมัดอย่างดี ราวกับเป็นนางสนมข้างกายของจักรพรรดิในสมัยโบราณ

บุคลิกและรูปลักษณ์ล้วนยอดเยี่ยม แต่เวลาพูดจากลับช่างเย่อหยิ่งเกินไป ราวกับว่าไม่ว่าใครก็ไม่อยู่ในสายตาเธอ

อย่างไรก็ตามนี่สามารถเข้าใจ หน้าตาแบบนี้ จะให้เธอก้มหัวไปมองคนอื่นได้อย่างไร

ฟางเหยียนหยิบขลุ่ยไม้ไผ่ขึ้นมาข้างหน้าเขาแล้วพูดว่า “ฉันบอกไปแล้ว เธอไม่มีคุณสมบัติที่จะเอามันไป!”

"สารเลว! สุราคำนับไม่ดื่ม ชอบดื่มสุราลงทัณฑ์!" หญิงสาวโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว เธอยกมือขึ้นและปัดแขนเสื้อของเธอ

ทันใดนั้นมีดน้ำแข็งสามเล่มก็พุ่งเข้ามาใส่ฟางเหยียน ในไม่ช้าไม่เร็ว เมื่อมีดน้ำแข็งกำลังจะแทงเข้าที่คอของฟางเหยียน เขาก็เอียงตัวออก จากนั้นมีดน้ำแข็งก็บินออกไปข้างหลังเขา

หญิงสาวเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าฟางเหยียนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เมื่อมีดน้ำแข็งผ่านพ้นไป เธอก็รีบพุ่งเข้ามาฆ่าฟางเหยียน

ทั้งตัวของเธอดูไหลลื่น ราวกับงูตัวหนึ่งที่กำลังเข้าล้อมรอบฟางเหยียนเอาไว้

ฟางเหยียนไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ดวงตาของเขากำลังจับจ้องทิศทางการเคลื่อนไหวของหญิงสาวอยู่ตลอด หญิงสาวพยายามลอบฆ่าฟางเหยียนอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งล้วนถูกฟางเหยียนขัดขวางเอาไว้ ทั้งสองกำลังทดสอบกันและกัน วิเคราะห์อีกฝ่ายไปมาอยู่หลายนาที

หลังจากการลองเชิงกันรอบหนึ่ง ฟางเหยียนก็พบว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ยอดฝีมือธรรมดาทั่วไป เมื่อเทียบกับคนเหล่านั้นเมื่อก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเตรียมตัวและศึกษาฟางเหยียนมาก่อน และเหตุผลที่พูดแบบนั้น ทั้งหมดก็เพื่อยกระดับสถานะของตน

ในที่สุด เมื่อร่างของหญิงสาววนมาถึงตรงหน้าของฟางเหยียน เขาก็ยกมือขึ้นและคว้าเอวของหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ในฝ่ามือเดียว ขณะที่ฟางเหยียนจับเอวของเธอ เสียงอ่อนเย้าก็ดังออกมาจากปากของเธอ

“นาย..” หญิงสาวหยุดทุกการกระทำลง เธอมองไปที่ฟางเหยียนด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

“นายทำอะไรน่ะ? ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นผู้หญิง” หญิงสาวรีบตะโกนอย่างรวดเร็ว

ฟางเหยียนดึงร่างของหญิงสาวเข้ามาใกล้ร่างกายของเขาอย่างแรง ร่างกายของเธอแนบชิดลงบนตัวของฟางเหยียน แม้กระทั่งแก้มของเธอก็เกือบจะแตะเข้าที่หน้าของเขา การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เธออับอายมากขึ้น

เธอร้องอย่างเร่งรีบ “นายกำลังทำอะไร? ปล่อยฉันนะ”

“เธอจะไม่ฆ่าฉันไม่ใช่หรือไง?” ฟางเหยียนจ้องไปที่ดวงตาของหญิงสาวอย่างใกล้ชิดและเอ่ยถาม

หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอใกล้ชิดกับผู้ชายคนหนึ่งขนาดนี้ จะไม่ให้เธอรู้สึกอายได้อย่างไร

“ฉัน ฉันจะฆ่านาย!” พูดจบ หญิงสาวก็ยกมือขึ้นและพุ่งเข้าไปจะบีบคอของฟางเหยียน แต่ก่อนที่จะถึงคอของเขา ฟางเหยียนก็ยกมือขึ้นและปัดมันออกไป

ฟางเหยียนพูดอย่างไม่พอใจว่า "อย่าเพ้อฝันไปอีกเลย ฉันจับจุดอ่อนของเธอได้แล้ว"

อันที่จริง เอวของหญิงสาวก็คือจุดอ่อนของเธอ ขอแค่จับเอวเธอเอาไว้ได้ เธอก็จบเห่

“นาย นายรู้ได้ยังไง? ไม่มีใครในโลกที่จะค้นพบจุดอ่อนของฉันได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้” หญิงสาวถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

เธอกะพริบตาและพูดว่า “ตกลง ฉันบอกนายก็ได้ ขลุ่ยวิเศษนี่เป็นตัวแทนของสำนักฉิวหลง หากครอบครองขลุ่ยวิเศษ ก็จะสามารถเป็นเจ้าสำนักฉิวหลง ฉันก็แค่อยากได้ตำแหน่งเจ้าสำนักนี้ถึงได้มา ไม่มีเจตนาอื่น”

“สำนักฉิวหลง?” ฟางเหยียนพึมพำกับตัวเองถึงสำนักลึกลับนี้

หญิงสาวกล่าวว่า “ใช่ สำนักฉิวหลงก็คือตระกูลฉิวหลง เมื่อโลกถูกสร้างขึ้นและอารยธรรมเพิ่งจะเริ่มขึ้น มีคนถวายมังกรให้แก่พระเจ้าชุ่น ในเวลานั้นพระเจ้าชุ่น เพื่อที่จะกินเนื้อมังกรสดทุกวัน เขาก็ให้ขุนนางต่งฟู่ไปเลี้ยงมังกร และประทานนามสกุลให้ว่าฉิวหลง แปลว่า เคล็ดขังมังกรจากนั้นมาก็เกิดเป็นตระกูลฉิวหลง บางทีคนธรรมดาอย่างนายอาจไม่มีทางเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ตระกูลฉิวหลงนั้นมีอยู่จริงๆ อีกทั้งยังคุ้มครองตระกูลใหญ่ของประเทศหวามาโดยตลอด วันนี้สิ่งที่เรียกว่าเขตคนามังกรก็เป็นสิ่งที่ตระกูลฉิวหลงกำหนดขึ้นมา มังกรที่พวกเขาเลี้ยงไว้ทั้งหมดนั้นว่ากันว่าก็มีอยู่จริงเช่นกัน อีกทั้งขลุ่ยวิเศษในมือของนายก็คือสิ่งที่ใช้อัญเชิญมังกรศักดิ์สิทธิ์ "

การได้ฟังเรื่องเหล่านี้ออกจะคล้ายฟังเทพนิยายอยู่บ้าง เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นครั้งแรกที่ฟางเหยียนได้รู้ว่ามีคนเลี้ยงมังกรอยู่

เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของฟางเหยียน หญิงสาวก็พูดต่อ “ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ ฉันประเมินนายสูงเกินไป นายเป็นแค่คนธรรมดาจริงๆด้วย”

“ที่จริงแล้ว นอกจากสำนักฉิวหลง ยังมีสำนักกุ่ยกู๋ แก๊งเก้ามังกร สำนักไร้หน้า และสำนักเทียนซือ รวมเป็นสำนักลึกลับทั้งห้า สำนักลึกลับทั้งห้านี้เป็นองค์ประกอบทั้งห้าของประเทศหวา และเป็นสำนักลึกลับทั้งห้าที่คอยปกป้องประเทศหวามาโดยตลอด สำนักทั้งห้าอยู่ร่วมกันและเสริมกำลังซึ่งกันและกัน หลังจากหลายพันปีก็เหลือมาแค่สำนักทั้งห้านี้เท่านั้น วันนี้สำนักไร้หน้าถูกทำลายล้างไป สำนักที่เหลือทั้งสี่ก็เริ่มสั่นคลอนแตกแยก ผู้คนต่างฟุ้งซ่าน สำนักฉิวหลงเป็นเพราะเจ้าสำนักออกท่องไปทั่วหล้า ส่งผลให้ภายในสำนักเกิดความโกลาหลขึ้นมาเป็นเวลานาน และในช่วงที่สำหนักไร้หน้าถูกทำลายล้างไปนี้เอง ก็ก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น มีบางคนถึงกับฆ่าเจ้าสำนัก แย่งชิงขลุ่ยวิเศษ นี่เป็นสำนักลึกลับแรกที่เกิดความขัดแย้งภายในรุนแรงขนาดนี้"

คิ้วของฟางเหยียนเลิกขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ไม่ผิด ดูเหมือนเขาจะติดกับเข้าแล้ว!

การทำลายล้างสำนักไร้หน้านั้นเป็นสิ่งที่เพลิงเสวนจัดการขึ้นอย่างลับๆ จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้สำนักลึกลับทั้งห้าเกิดความขัดแย้งภายใน แน่นอนว่าความขัดแย้งนี้นั้นก็มีผลมาจากโจมตีของเพลิงเสวนด้วยเช่นกัน พวกเขาจะต้องเข้าไปยุแยงให้เกิดความบาดหมางกันและลงอุบายไปไม่น้อย

เพลิงเสวนกำลังเล่นหมากรุกเกมใหญ่จริงๆ และการลงหมากครั้งนี้ก็คือการพิชิตผู้คนให้มากขึ้น

การเก็บสิ่งที่เรียกว่าตระกูลใหญ่นั้นก็เพียงเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการเก็บตระกูลลึกลับทั้งห้าต่างหากที่เป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญสูงสุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ