ฟางไห่อิงเดิมอยากเปิดปากพูด แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลย คำพูดของพี่สะใภ้สามเมื่อกี้เหมือนกับสาดเกลือลงบนบาดแผลของเธอ การแต่งงานของเธอกับกาวหรงเท่ากับทำลายความสุขเธอไปเสียสิ้น แถมตอนนั้นตระกูลฟางคิดจะเข้าสู่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ เธอเลยต้องแต่งงานกับกาวหรง เรียกได้ว่าฟางไห่อิงเป็นเหยื่อของตระกูลฟาง เหยื่อที่ว่าคือการแต่งงานที่ไม่มีสิทธิ์เลือกเอง การแต่งงานที่ไม่มีสิทธิ์เลือกเองจะมีความสุขได้ยังไงกัน? แถมพี่สะใภ้ใหญ่พี่สะใภ้สามที่มองการณ์ไม่ไกล เห็นแค่เรื่องฟางไห่อิงแต่งงานไม่มีความสุข กลับลืมไปว่าฟางไห่อิงเองก็เป็นผู้รับเคราะห์เหมือนกัน พวกเธอควรจะขอบคุณฟางไห่อิงมากกว่า กลับพูดจาทำร้ายจิตใจเธอแทน วินาทีนี้เธอรู้สึกความสิ้นหวังของฟางเหยียน และเริ่มเข้าใจในทุกการกระทำของฟางเหยียนที่มีต่อตระกูลฟาง!
สำหรับคำพูดวิพากษ์วิจารณ์ของพี่สะใภ้ใหญ่พี่สะใภ้สาม ฟางไห่อิงไม่มีอะไรจะพูด แต่เธอไม่พูดไม่ได้แปลว่าไม่มีคนอื่นพูด
ฟางจินหยวนตบโต๊ะดังปั้ง ตะคอกดัง “บังอาจ!”
ฟางจินหยวนแทบจะตะคอกออกมา เขาโกรธจนเส้นเลือดปูดโปน พอเขาตะคอกเสร็จ ทั่วทั้งห้องประชุมเงียบกริบทันที
ต่อให้ฟางจินหยวนโกรธจัดขนาดนี้ แต่เธอสองคนก็ยังคงไม่มีการเพลาๆลงเหมือนเดิม วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ก็ยังคงตามจิกไม่เลิก แต่การข่มขู่กลับไม่ถดถอยลงเลย สีหน้าของผู้หญิงทั้งสองยังคงเย่อหยิ่งจองหอง แค่นยิ้มเย็นชาเชิดหน้าใส่ฟางไห่อิง ส่วนฝ่ายหลังกลับส่ายหน้าน้อยๆด้วยความเจ็บปวดถึงที่สุด
“ฟางไห่เซิง ฉันจำได้ว่าเคยบอกแกหลายครั้งแล้วว่า ทำไมแกถึงไม่สามารถเป็นเจ้าตระกูลฟางได้ ใช่ไหม?”
ฟางไห่เซิงได้ยินอย่างนั้นชะงักกึก ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม ไม่กล้าสบตาด้วย
“ด้านหลังผู้ชายประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ต้องมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าอยู่แน่นอน ส่วนแกทำให้ฉันผิดหวังมากเกินไปแล้ว แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ควบคุมไม่ได้ ฉันจะวางใจมอบตระกูลฟางอันยิ่งใหญ่นี่ให้แกควบคุมได้ยังไงกัน!หา!”
ฟางจินหยวนตะคอกจบคำสุดท้ายด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านเสร็จ ก็ตัวสั่นอย่างแรงหลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าโกรธไม่น้อยเลย
“แกพึงสังวรเองละกัน!”
พอพูดจบ ฟางจินหยวนไม่พูดอะไรอีก ความสามารถของฟางไห่เซิงเขาเห็นอยู่กับตา
ฟางจินหยวนสามารถปล่อยมือไม่ควบคุมธุรกิจของตระกูลฟาง ฟางไห่เซิงก็จัดการได้ดี เพียงแต่เขาโดนเมียควบคุมมากเกินไป มากจนถึงขั้นพึ่งพามากเกินไป ภายใต้การรักใครอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้เขาไม่สามารถหือกับเมียตัวเองได้เลย
ส่วนฟางไห่เซิงเองก็รู้ดีว่า ครั้งนี้ฟางจินหยวนหมดหวังกับเขาแล้วจริงๆ
ในตอนที่ตระกูลฟางยังไม่ถึงเวลาเป็นตายเท่ากัน ฟางจินหยวนสามารถทำเป็นปิดตาข้างหนึ่งได้ เพราะตระกูลฟางยังมีเขาคอยควบคุมอยู่ แต่ว่าตอนนี้ตระกูลฟางมาถึงจุดเปลี่ยนแบบนี้เข้า ฟางไห่เซิงไม่เพียงไม่ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้กับศัตรูภายนอก กลับนำทีมต่อต้านขึ้นมา ใครๆต่างรู้ดีว่า ต่อให้พยุงไว้ดีแค่ไหนก็ต้องโดนขัดเกลาจนไม่เหลือ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังปล่อยให้เมียตัวเองเหิมเกิรมโพล่งกลางห้องประชุม ทำลายความสามัคคีที่ควรมี มันทำให้ฟางจินหยวนแค้นเข้ากระดูกดำเลย
“ซี้ซั้ว ซี้ซั้วจริงๆ!” ฟางจินหยวนตบโต๊ะดังพลางตะคอกว่า “ตระกูลฟางล่มสลายได้ ศักดิ์ศรีไม่อาจทำลายได้ คนเราเกิดมาก็ต้องตาย จะตายอย่างมีศักดิ์ศรีหรือตายธรรมดา พวกแกจะเลือกอะไร? ส่วนเสี่ยวเหยียน ฐานะของเขาเป็นอะไรที่อีกกี่ชาติพวกแกก็ไม่มีทางได้มาหรอก มีเขาอยู่ ตระกูลฟางจะสืบทอดต่อไปตลอดกาลแน่ ถ้าไม่มีเขา ตระกูลฟางต้องล่มสลายหายไปแน่!”
ไม่รอทุกคนมีปฏิกิริยาอะไร ฟางจินหยวนพูดต่อ “ฉันจะพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าใครกล้าหักหลังเสี่ยวเหยียน ไล่ออกจากตระกูลฟางออกไปเร่ร่อนทันที ถ้าตระกูลฟางรอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ฉันจะให้มันตายไม่สู้อยู่เลย!”
พอฟางจินหยวนพูดจบ ห้องประชุมเงียบกริบสนิท
หลังจากเขาเดินออกจากห้องประชุม ทุกคนถึงกล้าถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก คนที่กลัวที่สุดมีสองคนคือหลี่เยว่เมียฟางไห่เซิงกับเมียฟางไห่ถางน่ะเอง
ฟางไห่อิงมองหน้าบรรดาเครือญาติ แค่นเสียงหึก่อนเดินออกจากห้องประชุม
ฟางไห่ถางหันไปมองพี่ใหญ่ฟางไห่เซิง ถามว่า “พี่ใหญ่ พวกเราทำเกินไปหรือเปล่า?”
ฟางไห่เซิงยังไม่ทันตอบ หลี่เยว่เมียเขาก็หาเรื่องต่อ เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ฟางไห่อิง แต่เป็นฟางเหมี่ยวลูกชายของพวกเขาเอง
“เสี่ยวเหมี่ยว สมองกลับแล้วหรือไง! ไม่เห็นหรอว่าทุกคนร่วมมือกันต่อต้าน ขับไล่ไอ้ตัวซวยฟางเหยียนออกจากตระกูลฟางน่ะ นี่เป็นโอกาสเดียวที่แกจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลฟางนะ แกโง่หรือเปล่า เหตุผลง่ายๆแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ เวลาสำคัญยังพลาดอีก! เหมือนพ่อแกเลย เป็นพวกขยะทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไว้รอคุณท่านยกตระกูลฟางให้ฟางเหยียน แกรอกินลมหรือไงหา!”
“แม่ ไม่พูดแล้วได้ไหม ตระกูลฟางเราน่ะทำผิดต่อน้องเหยียน 16ปีเต็มนะ 16ปีก่อนเขาก็ต้องโดดเดี่ยวอยู่ด้านนอก ไร้ที่พึ่งพิง และความสำเร็จในวันนี้ของเขา มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแลกมา? ตอนนี้เขากลับมาแล้ว ไม่ควรชดเชยอะไรให้เขาหน่อยหรือไง? โศกนาฎกรรมเมื่อ16ปีก่อนยังจะมันเกิดขึ้นอีกครั้งใน16ปีให้หลังหรือไง?”
หลี่เยว่ไม่คิดเลยว่าฟางเหมี่ยวจะย้อนเธอ ทำให้เธอที่เดิมทีโกรธไฟลุกอยู่แล้วโกรธหนักขึ้นไปอีก ชี้หน้าฟางเหมี่ยว พูดด้วยอารมณ์รุนแรงว่า “แก นี่แกกล้าขัดคำสั่งฉัน ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม อยากจะบินเองหรอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ