เหตุผลที่เขาชื่นชมมีเพียงอย่างเดียวคือ ฟางจินหยวนมีดีกว่าพวกนินจาข้างหลังเขามากนัก อย่างน้อยเขาสามารถนิ่งเฉย เผชิญหน้าอย่างใจเย็น ไม่เหมือนพวกเขา ยังไม่ทันเริ่มลงมือ ก็เริ่มสงสัยชีวิตแล้ว ไม่สู้กลับหนี นินจาที่รักตัวกลัวตายแบบนี้ เรียกได้ว่าทำให้นินจาขายหน้า เสื่อมเสียชื่อเสียงจริงๆ แค่จุดนี้ ฟางจินหยวนก็เพียงพอให้เขาเอ่ยปากชมแล้ว
ตัวเขาน้อยมากที่จะชื่นชมใครสักคน แต่วันนี้เขาได้เจอแล้ว
แค่ตาแก่ท่าทางขี้โรคคนหนึ่ง กลับกล้าเสนอขอสู้กับเขา ถ้าไม่ใช่ตัวลอยเบาก็คงสมองพิการไปแล้ว
เขาไม่รู้สึกถึงร่องรอยพลังลมปราณจากตัวฟางจินหยวนเลย ก็แค่ตาแก่ธรรมดาคนหนึ่ง แต่ความมั่นใจสูงที่ล้นออกจากร่างตาแก่ธรรมดาคนนี้กลับมีมากกว่าคนที่พวกเขาฆ่าฟันมานักต่อนัก มันน่าสงสัยมาก
มีแค่สองแบบ หนึ่งคือตาแก่ขี้โรคนี้เป็นยอดฝีมือ และเขาแกล้งไอค่อกแค่กเพราะต้องการให้ศัตรูไม่ทันระวัง จะได้ลอบทำร้ายได้โดยง่าย
แบบที่สองเป็นการคาดเดาของเขาที่ใกล้เคียงที่สุดคือ ตาแก่นี่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ยอดฝีมืออะไรทั้งนั้น
ทั้งสองความเป็นไปได้ ชายหนวดเคราดกค่อนข้างให้คะแนนไปในแบบที่สองมากกว่า เขาค่อนข้างมั่นใจในความรู้สึกของตนเอง การฟันธงลงไปมาจากความมั่นใจในตัวเอง
แต่ใกล้เคียงแบบที่สอง ก็มีเหตุปัจจัยที่แตกออกไปอีก อย่างเช่น ไม่มีพลังลมปราณเลยสักนิด กลับมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ต้องมีไพ่ตายที่เหนือธรรมดาหรือยึดมั่นอะไรแน่ มันมาจากประสบการณ์ที่สั่งสมจากการต่อสู้มาหลายสิบปี
“เปิดไพ่ตายที่ทำให้แกไม่กลัวตายออกมาเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวแกไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ!”
ฟางจินหยวนกลับแค่ยิ้มบางๆ รอยยิ้มเผยแววมั่นใจมาก เขาถามชายหนวดเคราดกว่า “คุณกลัวหรือไง?”
ชายหนวดเคราดกได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วนออกมา “เจ้าตระกูลฟางนี่ต่างจากคนอื่นจริงนะ ความมั่นใจนี่พวกเราสู้ไม่ได้จริงๆ ในเมื่อแกหาเรื่องเอง งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้”
ชายหนวดเคราดกก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว พลังลมปราณอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมา ถือดาบคมในมือ พุ่งเข้าฟางจินหยวนราวลมพายุอย่างทำลายล้าง
ลมประหนึ่งดาบ พัดหมุนทุกสิ่ง ทรายและหินหมุนวนปะทะกัน
ในตอนที่เขาลงมือ ด้านหลังก็มีเสียงแทรกขึ้นมาว่า “หม่างเทียน อย่ามาเสียเวลา รีบจัดการซะ จะได้ให้มันเสร็จๆไป”
พอได้ยินเสียงนี้ หม่างเทียนเก็บความขี้เล่น รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั่ว
รังสีอำมหิตแรงนัก แต่ฟางจินหยวนยังคงสองมือไขว้หลัง และไม่มีทีท่าอะไรเพิ่มเติม
ท่าทีมั่นคงนั่นทำให้หม่างเทียนตะลึง ถึงจะไม่รู้ว่าไพ่ตายของฟางจินหยวนคืออะไร แต่หม่างเทียนก็ไม่คิดจะออมมือให้ ตรงกันข้ามรังสีอำมหิตกลับแรงขึ้นเรื่อยๆ ต้นไม้ใบหญ้ารอบข้างยังทนรับรังสีอำมหิตของหม่างเทียนไม่ไหว พอปะทะเข้าก็โดนตัดง่ายดาย พายุนั่นพุ่งแรงราวไต้ฝุ่นพัดเข้ามา
พอเห็นฉากน่าสะพรึงกลัวนี่ ฟางจินหยวนสีหน้านิ่งสงบ แต่ในใจหวาดหวั่นไม่หยุด เพียงแค่เขาทำยืนนิ่งไม่ไหวติงเท่านั้น เขารู้ว่าขวังซือจะออกมา และต้องให้อยู่ในสถานการณ์คับขันสุดๆ ขวังซือถึงจะเริ่มต้นฆ่า ระหว่างรอนั้น ฟางจินหยวนหวาดหวั่นในจิตใจไม่หยุด
เขาไม่ใช่นินจา แต่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้อะไรเลย ความน่ากลัวที่หม่างเทียนแสดงออกมาดูท่ายากจะหาใครเปรียบได้ ต่อให้เป็นกู่ซู๋ที่มาบุกรุกครั้งที่แล้วก็ตาม
ถ้าขวังซือไม่ปรากฏตัว ครั้งนี้ตระกูลฟางไม่รอดแล้ว
ลมแรงอันแข็งแกร่งประหนึ่งคมดาบเข้าฟาดฟันใบหน้าของฟางจินหยวน บนร่างเริ่มมีรอยแผลเกิดขึ้น ทุกรอยแผลมีเลือดสดไหลออกมา
หม่างเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟางจินหยวนกำลังทำอะไรกันแน่? ไม่ตอบโต้และไม่ลงมือ? เป็นสากกะเบือไปแล้ว?
เล่ห์ลวง!
แน่นอน!
โดนคนธรรมดาลบหลู่เข้าให้แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ