เทียนขุยก็หัวเราะแหยๆ “จอมพลครับ คุณก็ได้ปล่อยวางสบายใจแล้วสิครับ ฟางจินหยวนได้ตายไปแล้ว คุณก็ไม่มีใครให้โกรธแค้นแล้วสิครับ?”
“ถึงแม้ผมจะรู้เรื่องราวความลับเรื่องการตายของพ่อแม่ตัวเองแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ใจกว้างพอที่จะให้อภัยฟางจินหยวนได้ ตอนนี้ตระกูลฟางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมแล้ว และผมก็ไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฟางอีกแล้วด้วย”
“จอมพลครับ เดิมทีผมก็ไม่ควรถามไถ่เรื่องของคุณ แต่ผมอยากรู้มากจริงๆ ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของคุณ? คงจะไม่ใช่ฟางจินหยวนหรอกใช่ไหม?”
“เพลิงเสวน!”
เทียนขุยตกใจหน้าเสีย สีหน้าความตกใจที่ได้ยิน ไม่ได้น้อยกว่าครั้งที่ฟางเหยียนได้ยินครั้งแรกเลย แถมยังตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเลย
ดูเหมือนว่า เพลิงเสวนกับฟางเหยียนจะมีความแค้นต่อกันตลอดชาตินี้เลย!
เทียนขุยก็พูดอย่างอึ้งๆ ว่า “จอมพลครับ ดูเหมือนว่าไอ้เสวียนเย่จะบอกไว้ไม่มีผิด เบื้องหลังของเสวียนเจิ้นจะต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง และคนในเบื่องหลังคนนั้นก็ได้เคลื่อนไหวนานแล้ว ไม่เพียงบีบจนพ่อแม่ของคุณตาย แถมยังยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน อย่างกับเป็นพวกก่อการร้าย!”
“เพลิงเสวนในตอนนี้ มีรากฐานหยั่งลึกไปทั่ว สิ่งที่พวกเราจะทำได้ตอนนี้ก็คืออาศัยกำลังของตัวเอง ตามที่ฟางจินหยวนบอกไว้ ว่าเพลิงเสวนได้วางแผนไว้นานแล้ว เกี่ยวข้องกับนินจามากมาย ส่วนด้านในจะมีสำนักไหนบ้าง ก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน หวังว่าทางฝั่งของเสวียนเย่จะรีบสืบให้ได้โดยเร็ว พวกเราจะได้วางแผนถูก”
กำลังคุยกันไป ฟางเหยียนก็พบใบหน้าที่คุ้นเคยและแปลกหน้า คนคนนี้เดินด้วยความเร็ว หัวเราะเดินตรงเข้าไปในห้องโถงงานศพ
“จอมพลครับ ไอ้อ้วนคนนี้คือใคร? คุณจ้องมันไปอย่างนั้น มันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
“เขาคือคนรับผิดชอบคนใหม่ของแก๊งซินหง”
“แก๊งซินหงงั้นหรือ?” เขียนขุยส่งเสียงไม่อยากจะเชื่อ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นถึงองค์กรมืด ไม่สมควรมองไปด้วยซ้ำ แต่เขาก็ได้หยุดความสนใจนั้นไป ติดตามฟางเหยียนมานาน ก็ต้องรู้เป็นธรรมดาว่า คนที่สามารถถูกฟางเหยียนเอ่ยถึงได้ ไม่เป็นคนชั่วก็คนเลว ก็คนไม่ดี!
“จอมพล จะให้ผมไปจับตาดูไหมครับ?”
“ไม่ต้อง เรื่องทุกอย่างของตระกูลฟางไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว การเดินทางของพวกเราก็ยืดไปอีกวัน รอให้ฝังฟางจินหยวนเรียบร้อย แล้วพาป้าผมกลับไปที่จินโจว จากนั้นก็จะได้ตั้งใจรับมือกับเพลิงเสวนได้อย่างเต็มที่!”
เทียนขุยพยักหน้า กลับกันเขาก็อยากจะลองสักตั้ง เพราะเขาอยากจะจัดการเพลิงเสวนมานานแล้ว!
ตอนกำลังคิดอยู่นั้น ในห้องโถงก็เสียงดังขึ้นมา แล้วก็มีเสียงเอะอะทะเลาะกันด้วย เห็นได้ชัดว่าที่ห้องโถงกำลังวุ่นวาย!
“จอมพล จะเข้าไปยุ่งไหมครับ?”
“ถ้าว่างมาก ก็ไปวิ่งสัก10กิโลเมตร!”
10กิโลเมตร จะสักแค่ไหนกันเชียว?
ฟางเหยียนตั้งใจแกล้งเขา!
เพื่อที่จะฝึกร่างกาย อย่างต่ำก็จะต้องแบกของหนักวิ่ง50กิโลเมตรเป็นการทดสอบ มีเพียงคนที่มีสภาพร่างกายยอดเยี่ยมเท่านั้น ตอนอยู่ในสงคราม ถึงจะสู้ได้อย่างไม่แพ้ใคร และเป็นเกณฑ์ระดับต่ำสุดที่จะได้เข้าร่วมสำนักเจ็ดพิฆาต
เทียนขุยก็หัวเราะ “จอมพล ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมกังวลว่าพวกเขาจะไปรบกวนป้า ถ้าทำให้ป้าตกใจขึ้นมา มันก็ได้ไม่คุ้มเสียนะ”
จะว่าไปแล้ว ที่เทียนขุยพูดมา ก็ได้พูดถูกจุดในใจของฟางเหยียนเข้าให้ จะไม่สนใจตระกูลฟางก็ได้ แต่จะไม่สนใจฟางไห่อิงไม่ได้
“ฟางเหมี่ยว ดูเหมือนว่าผมจะมาเอาคำตอบเวลานี้ มันถูกเวลามาก!” หูจิงเหว่ยพูดน้ำเสียงเย็นชา “ผมยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง มักจะคิดว่ามีอะไรแปลกๆ คิดไม่ถึงเลยว่า คุณชายน้อยของตระกูลฟาง จะเป็นคนที่ไม่รักษาคำพูดแบบนี้!”
ฟางเหมี่ยวก็หน้านิ่ง มาก่อความวุ่ยวายในห้องโถงงานศพ ถือว่าไม่ให้เกียรติตระกูลฟางอย่างมาก และยิ่งไม่ให้เกียรติต่อผู้ตายอย่างฟางจินหยวนด้วย!
เขาไม่คิดเลยว่า หูจิงเหว่ยจะอดทนไม่ได้แบบนี้ ไม่นานก็บุกมาถึงที่เลย!
มาก่อความวุ่นวายในห้องโถงแบบนี้ จะให้ตระกูลฟางเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!
เขาพยายามอดกลั้นไฟโกรธในตัวเองไว้ ถ้าฟางเหมี่ยวหักหน้าเอาชนะหูจิงเหว่ยไปตอนนี้ ทั้งตระกูลฟางก็อาจจะกลายเป็นขี้เถ้าไปจนหมด จะหาเรื่องด้วยไม่ได้ หาเรื่องด้วยไม่ได้จริงๆ !
ฟางเหมี่ยวพูดเสียงต่ำว่า “หูจิงเหว่ย มีเรื่องอะไรก็รอให้ผู้ตายได้ทำพิธีฝังให้เรียบร้อยก่อนไม่ได้หรือไง?”
“คุณคิดว่าผมโง่หรือไง? ถึงจะได้เชื่อคุณ? คุณชายฟาง ในเมื่อคุณคิดจะเอาหนามยอก ผมก็จะเอาหนามบ่งกลับแล้วกัน อย่างมากพวกเราก็ดูกันต่อไป ผมก็ยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าตระกูลฟางจะแบกรับไว้ไหวหรือเปล่า!”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์ขมวดคิ้วอ่อนช้อยของเธอ เธอโมโหเข้าจริงๆ ตระกูลฟางก็เหมือนเป็นสิ่งของในถุงของตระกูลตงฟาง ตอนนี้กลับมีคนมาแทรก กล้ามากไปหรือเปล่า!
“คุณเป็นใคร คุณไม่รู้ผลลัพธ์ที่ทำแบบนี้หรือไง ตระกูลฟางไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่!”
“ปล่อยผมไปงั้นหรือ? ผมกลัวจังเลย ถ้ากลัวผมก็ไม่มาหรอก!” หูจิงเหว่ยยิ้มเย็นตบมือขึ้น ด้านนอกก็มีชายสวมชุดดำกรูกันเข้ามามากมาย ในมือทุกคนล้วนถืออาวุธ มาไม่ดีแน่!
แขกที่มาไว้อาลัยเห็นดังนั้น ก็อึ้งไปหมด พวกเขาล้วนเป็นเศรษฐีที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองทั้งนั้น มีฐานะไม่ธรรมดา ใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถรู้ได้ ว่าคนที่เข้ามา ต้องมาร้ายแน่นอน เอาชีวิตรอดเป็นยอดดี แต่ละคนก็ล้วนหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะเรียกให้บอดี้การ์ดตนเองเข้ามา!
“ทุกท่าน ไม่ต้องลำบากไปหรอก ผมขอแนะนำตัวหน่อย ผมชื่อหูจิงเหว่ย ผู้รับผิดชอบแก๊งซินหงในเขตซีหนาน!”
ทุกคนที่กำลังจะโทรศัพท์นั้นก็สั่น แล้วก็ลืมความคิดที่จะโทรศัพท์ทิ้งไปจนสิ้น!
หูจิงเหว่ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ