บทที่42 รับปากผมอีกข้อ
ไม่เพียงแต่หลานเม่ยที่ตะลึง ฮัวจิ่นถิงเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงรีบพูดขึ้นมาว่า
“ประธานเสี้ยง คุณไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดไร้สาระของสามีของฉันหอกนะคะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆค่ะ!”
หลานเม่ยรู้สึกร้อนใจขึ้นมา พูดอ้อนวอนขอร้อง
“ประธานเสี้ยงคะ ดิ……ดิฉันไม่รู้ว่าทำผิดอะไร”
แต่แล้ว เสี้ยงเหอกลับโบกมือ
“จะต้องให้ฉันพูดย้ำอีกรอบไหม?ประธานฮัว คุณไม่ต้องสนใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี้หรอกครับ ผมก็ไม่อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าลูกค้าคนไหน ไม่มีใครพูดร้องเรียนได้อย่างไม่มีเหตุผลหรอกนะครับ”
มองดูเสี้ยงเหอก้าวเท้ายาวเดินจากไป ฮัวจิ่นถิงรีบเดินตามทันที ยังอยากจะพูดอะไรอีกสักนิด แต่กลับถูกฉู่เทียนเจียงดึงไว้
“เมียจ๋า จำเป้าหมายในการมาวันนี้ไว้นะครับ”
มีเพียงแค่หลานเม่ยที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ใช่ นี่มันเป็นความผิดของเธอจริงๆ แต่เขามีสิทธิ์อะไร ประธานฮัวยังไม่ถือสาเลย เหตุใดสามีที่มาด้วยถึงได้เป็นปรปักษ์ขนาดนี้
เธอทำงานมากับเสี้ยงเหอห้าปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นประธานของบริษัทสาขาย่อย เธอเป็นถึงเลขา ลำพังหยาดเหงื่อที่เธอกลั่นออกมามันสามารถกินได้อย่างเนิ่นนาน แต่แล้ว ปากยังไม่ทันได้อ้า มื้ออาหารก็จบลงแบบนี้แล้วเนี่ยนะ?
เธอรู้ดีว่าไม่มีทางเปลี่ยนการตัดสินใจของเสี้ยงเหอได้ เพราะฉะนั้นสายตาของเธอจึงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของฉู่เทียนเจียง ด้านในแววตา เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“เมียจ๋า ผมรอคุณที่ห้องรับแขกนะ”
เดินไปได้ไม่ไกล ฉู่เทียนเจียงก็พูดออกมาหนึ่งประโยคแล้วเลี้ยวเข้าไปในห้องที่อยู่ข้างๆ ฮัวจิ่นถิงไม่ได้พูดอะไร ดูท่าแล้ว คงจะปูทางให้เธอไว้แล้ว ตนเองจะต้องตื่นเต้นอะไรอีก
หลังจากผ่านไปสิบนาที ในห้องรับแขกนั้น เสี้ยงเหอก็ได้เดินเข้ามา
“คุณฉู่ครับ ความผิดที่หลานเม่ยเลขาของผมทำไว้ ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ”
ฉู่เทียนเจียงหัวเราะขึ้นมา
“อ๋อ?คุณควรที่จะขอโทษภรรยาของผมมากกว่านะ เนื่องจากเธอพึ่งได้เป็นรองประธานของอสังหาริมทรัพย์ฮัวเฟิง ผมก็เป็นแค่สามีที่เฝ้าบ้านเท่านั้นแหละ”
มองดูฉู่เทียนเจียงพูดจาอย่างเรียบเฉย เสี้ยงเหอจึงส่ายหัวไปมา
“คุณฉู่พูดอะไรน่ะครับ ประธานฮัวผมได้ขอโทษเธอไปแล้ว ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือสัญญาอยู่ เพราะฉะนั้นการขอโทษคุณเป็นครั้งที่สองเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วครับ”
ฉู่เทียนเจียงขาไขว่ห้าง ทำสัญลักษณ์บอกให้เสี้ยงเหอนั่ง
“ไม่เลว ดูท่าประสบการณ์คุณคงจะโชกโชนไม่เบา สายตาแหลมคม อีกทั้งมั่นใจในตัวเองมาก เรื่องที่ตัดสินใจแล้วก็จะเชื่อมัน ทำงานของตัวเองให้ดีเถอะครับ ผมรับประกัน ภายในสามปี คุณจะได้กลับไปยังบริษัทหลักของจู้ซื่อกรุ๊ปแน่ ตำแหน่งเลื่อนขึ้นอีกขั้น”
ไม่ว่าเสี้ยงเหอจะเจอคลื่นลมสาดใส่มามากขนาดไหน เขายังคงห้ามความรู้สึกปลื้มปีติในใจไว้ไม่อยู่ เป็นไปตามคาดเขาเดิมพันถูกข้างแล้ว
“ขอบคุณสำหรับรางวัลของคุณฉู่ครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”
บริษัทสาขาย่อยของจู้ซื่อกรุ๊ปแห่งเมืองหนิง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่ากะทันหัน เขาสามารถถูกเลือกห้าเป็นผู้จัดการที่นี่ได้ ต้องเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของประธานกรรมการอยู่แล้ว
อีกทั้งประธานกรรมการยังแอบพูดกับเขาว่า ในเมืองหนิงมีบุคคลท่านหนึ่งที่แม้แต่ตระกูลจู้ยังต้องรีบจับ เพราะฉะนั้นเขาต้องทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง
ถ้าอย่างงั้นบุคคลสำคัญที่ว่ามานั้น เป็นคนที่คู่ควรแก่การผลักดัน ท่าทางของฮัวจิ่นถิงดู ไม่เหมือน แต่ในเมื่อจู้ซื่อกรุ๊ปตัดสินใจจะช่วยฮัวจิ่นถิงแล้ว นั้นแสดงให้เห็นว่า มีคนอยู่เบื้องหลังคอยผลักดันอยู่
สายตาของคนผู้นั้นเขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยไม่ว่าจะผิดหรือถูก เสี้ยงเหอตัดสินใจที่จะเดิมพันอยู่ข้างฉู่เทียนเจียง คิดไม่ถึงว่า เขาจะเดิมพันถูกแล้ว
ต้องรู้ว่า ความสัมพันธ์ในจู้ซื่อกรุ๊ปซับซ้อนมาก คนของตระกูลซื่อถูกแทรกแซงอยู่ในทุกแผนก ยิ่งไปกว่านั้นยังเต็มไปด้วยคนมีความสามารถ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะรับคำชื่นชมจากประธานกรรมการอย่างไร เขาเสี้ยงเหออยากจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น ไปยังตำแหน่งที่มีอำนาจ มันก็เท่ากับทหารนับหมื่นนับพันคนข้ามสะพานไม้กระดานแผ่นเดียวก็ไม่ปาน
เพราะฉะนั้นคำพูดของฉู่เทียนเจียง ถึงทำให้เขาจิตใจเบิกมีความสุขได้ขนาดนี้
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ฮัวจิ่นถิงก็ผลักประตูห้องรับแขกออก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดมาก
“เทียนเจียง หนังสือสัญญาเซ็นเสร็จแล้วนะ เราไปกันเถอะ”
เดินออกมาจากบริษัทสาขาย่อย ทั้งสองก็พากันขึ้นรถแท็กซี่ไป ฮัวจิ่นถิงบอกสถานที่แห่งหนึ่ง ฉู่เทียนเจียงรู้งงเล็กน้อย นั่นเป็นสวนสาธารณะที่ไม่ไกลจากบ้านมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก