บทที่44 ความเจ็บปวดที่เคยได้รับ
“แกพูดอะไรน่ะ พูดภาษาคนได้ไหมห้ะ!”
ฮัวเหวินฮุยรู้สึกโกรธมาก เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉู่เทียนเจียงหมายความว่ายังไง พูดอะไรคลุมเครือไม่ชัดเจน จัดการกับใครกันแน่
“พ่อคะ!เชื่อเทียนเจียงเถอะค่ะ เขาน่าจะมีแผนการของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาไม่รู้จักเหลียนเฉิง เรื่องทุกอย่างคงไม่เกิดขึ้นหรอกนะคะ”
ฮัวจิ่นถิงช่วยเขาพูดหนึ่งประโยค ทันใดนั้นฉู่เทียนเจียงก็พูดขึ้นมาว่า
“เมียจ๋า คุณพ่อครับ ผมแค่อยากถามพวกคุณหนึ่งประโยค ส่งที่ครอบครัวของพวกคุณเคยเจอขอให้วางไว้ก่อน สิ่งที่อีอีเจอมาทั้งหมด พวกคุณลืมมันได้ไหม?”
ทันใดนั้น ทั้งสองก็เริ่มเงียบ ฮัวจิ่นถิงกำหมัดแน่น แล้วพูดน้ำเสียงเคียดแค้น
“ฉันจะไปลืมมันได้ยังไง!ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกลับมา อีอีคงจะต้องหายไปจากชีวิตฉันแน่ๆ ความแค้นนี้ ชาตินี้ฉันก็ไม่มีวันลืมแน่”
ฮัวเหวินฮุยกลับถอนหายใจออกมา
“เห้อ ลืมหรือไม่ลืมจะทำอะไรได้ ไม่ว่าเราจะตัดขาดจากครอบครัว เราจะสามารถผ่านคุณปู่ไปได้เหรอ?ไม่พูดถึงเขาก็ได้ ลำพังลุงกับอารองของแก เป็นภูเขาลูกใหญ่ที่เราไม่สามารถข้ามไปได้”
คำตอบแบบนี้ แน่นอนว่าฉู่เทียนเจียงพอใจมาก
“งั้นพวกคุณก็ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นแล้ว ความอัปยศอดสูของลูกสาวของผม พ่ออย่างผมไม่มีวันปล่อยไปแน่”
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ฮัวจื้อหย่วนก็กลับมาถึงบ้าน อู๋ฮัวฮัวก็รีบเอ่ยถามทันที
“เป็นยังไงบ้าง?พ่อคว้าโรงอิฐเฟิงทงมาได้รึยัง เรื่องที่เกิดขึ้นกับโรงอิฐซิงฮุย น่าจะไม่มาหาเรื่องพวกเราหรอกใช่ไหมครับ”
การประชุมในครอบครัวครั้งนี้ พวกผู้หญิงต่างไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นอู๋ฮัวฮัวจึงรีบถามหาข้อสรุปอย่างร้อนใจ
ในตอนที่ฮัวจื้อหย่วนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังแล้วนั้น อู๋ฮัวฮัวยืนนิ่งกับที่
“พระเจ้าช่วย!โลกนี้ยังมีเรื่องบังเอิญแบบนี้อยู่อีกเหอเนี่ย?คำพูดที่พูดออกไปอย่างมั่วๆ เหลียนเฉิงเป็นเพื่อนกับเสี้ยงเหอจริงๆหรอเนี่ย?ครอบครัวของเหล่าซานช่างโชคดีๆจริงๆ”
พูดมาถึงตรงนี้ อู๋ฮัวฮัวก็พูดขึ้นอย่างแปลกใจ
“คุณจะซื้อจริงๆเหรอคะ?ฉู่เทียนเจียงหวังขนาดนี้แล้วคุณก็ตอบตกลงง่ายๆหลังจากร่วมงานกับจู้ซื่อกรุ๊ป?มูลค่าในตลาดของอสังหาริมทรัพย์ฮัวเฟิงก็จะเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าฉู่เทียนเจียงจะเป็นคนโง่ยังไง เหล่าซานก็คงไม่โง่ขนาดนั้นหรอกมั้ง”
ฮัวเสี่ยวเจี๋ยวที่นั่งแทะเมล็ดทานตะวันอยู่ตรงโซฟาพูดขึ้นอย่างไม่แคร์
“แม่ครับ แม่คิดมากเกินไปแล้ว พ่ออยู่ในบ้านมีอำนาจขนาดไหน ฉู่เทียนเจียงจะกล้าปฏิเสธเหรอครับ?”
ฮัวจื้อหย่วนพยักหน้าเห็นด้วย
“หนังสือสัญญาผมดูแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร หรือเหล่าซานเองก็รู้ดี ว่าถ้ากุมหุ้นส่วนนี้ไว้ คุณพ่อจะต้องหาวิธีเอามันกลับมาแน่ เพราะฉะนั้นนี่มันเป็นเหมือนเผือกร้อน สู้เอาออกจากมือให้เร็วดีกว่า หาเงินเข้ากระเป๋ายังดีเสียกว่า”
พอได้ยินคำพูดแบบนี้ อู๋ฮัวฮัวก็หัวเราะขึ้นมา
“เหอะๆ ช่วยครอบครัวเราไว้ได้เยอะเลยล่ะ ซื้อมาสิบล้าน หลังจากที่มูลค่าเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเก็บไว้หรือขายต่อ ได้กำไรเพิ่มขึ้นตั้งหลายเท่าก็ไม่มีปัญหาแน่นอน น่าจะต้องขอบคุณไอ้โง่สมองกลวงอย่างฉู่เทียนเจียงนะ”
ในตอนค่ำเวลาสี่ทุ่ม ชุมชนตงเฉิง หลังจากที่ฮัวจื้อหย่วนเอาหนังสือสัญญาออกไป ฮัวเหวินฮุยกับครอบครัวก็จับโทรศัพท์มือถือไว้ ไม่กล้าเชื่อว่าตนเองจะเห็น คนที่น่าขันที่สุดคือหลิวหลาน ยังใช้นิ้วนับจำนวนตัวเลข
“หน่วยสิบร้อยพันหมื่น……พระเจ้าช่วย สิบล้านจริงๆด้วย เรามีเงินเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ฮัวเหวินฮุยดีใจราวกับคนบ้า ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจกับวิธีของฉู่เทียนเจียง แต่เห็นเงินเข้าบัญชีเยอะขนาดนี้ เขาก็ไม่คิดอะไรอีกแล้ว
“ถิงถิง คุณโอนเงินให้คุณพ่อกับคุณแม่สองล้านนะ ให้พวกท่านทั้งสองได้ใช้หน่อย”
พอได้ยินคำพูดของฉู่เทียนเจียง ทั้งสองก็รู้สึกดีใจมาก
“ยังมีอีกก็คือ เรื่องนี้อย่าให้ฮัวเมิ่งหยวนรู้ ไม่อย่างนั้น เธอจะสูบเลือดสูบเนื้อพวกคุณจนหมด ถึงเวลานั้นพวกคุณยังจะมีความสุขอยู่เลย”
ทั้งสองเงียบไป ไม่ได้ตอบกลับอะไร
“ผมออกไปครู่หนึ่งนะครับ จริงด้วยเมียจ๋า คุณรีบไปดูบ้านหลังใหม่เถอะ ที่นี่ไกลเกินไป ไม่ดีต่อการเข้าเรียนอนุบาลของอีอีในปีหน้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก