บทที่ 11
“เอ่อ…คือฉันมีเรื่องอยากถาม คุณจำคืนวันแต่งงานพี่เมพี่สาวฉันได้ไหม เอ่อ…คืนนั้นคุณได้…” เธอตัดสินใจที่จะถามในเรื่องที่พยายามหาคำตอบมาตลอด แต่ความกลัวก็ทำให้เธออึกอักและลังเลเกินกว่าจะพูดออกไปได้
“จะพูดอะไรก็รีบๆ พูดมา ฉันไม่มีเวลามารอเธอทำใจทั้งวันหรอกนะ ฉันมีงานต้องทำ ไม่ได้ว่างเหมือนเธอ”
“แล้วใครว่าฉันว่าง ฉันก็มีงานมีการ แล้วก็มีนัด…เออใช่! ฉันมีนัด ตายแล้ว! จะทันไหมเนี่ย” เธอยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่ลาคนทางนี้สักคำ ทำเอาคนที่รอคำถามเก้อถึงกับยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ไหนบอกจะถามไง ยัยผู้หญิงใจโลเล อยู่ๆ นึกจะไปก็ไป นึกว่าอยากรอฟังนักรึไง ไม่อยากเลย แล้วจะยืนรอทำซากอะไรวะไอ้เจตต์ กลับไปทำงานสิ ให้ตายสิ! ทำไมต้องรีบขนาดนั้น จะรีบทำไมนักหนา” คนไม่อยากรอเดินกลับขึ้นห้องอย่างหัวเสีย แต่ก็ไม่วายเดินบ่นไปตลอดทาง
ผ่านมาหลายชั่วโมงที่คนทางนั้นยังหงุดหงิดงุ่นง่านไม่หาย ถึงขนาดลงทุนโทรไปหวังจะคุยกันให้รู้เรื่อง แต่แม่คุณก็ดันไม่รับสายอีก
“ไม่รับสาย กล้าดียังไงถึงไม่ยอมรับสาย” เขาว่าพลางมองโทรศัพท์มือถือในมือประหนึ่งว่ามันคือคนที่กำลังโทรหา
แน่นอนว่าเจ้าของเบอร์ที่เขากำลังพยายามโทรก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว เรียกว่าแทบไม่ได้สนใจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเลยด้วยซ้ำ เมื่อเธอกำลังสนุกสนานอยู่ในงานปาร์ตี้สละโสดของพี่สาวและบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งดูเหมือนทั้งงานจะมีกันอยู่แค่สี่คน แล้วตอนนี้น้องเล็กอย่างเธอก็กลายเป็นบาร์เทนดี้จำเป็นของงาน หรือพูดง่ายๆ ก็คือเธอมีหน้าที่ชงเหล้าให้พวกพี่ๆ ดื่มนั่นเอง และเพราะฝีมือการชงเหล้าของเธอ จู่ๆ ศิศิราพี่สาวคนสวย (จากเรื่อง “Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง”) ก็ลุกขึ้นมาวาดลวดลาย
“ขอเพลงที่มันมีงูออกมาหน่อย” เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แน่นอนว่าเธอเห็นเบอร์ของเขาโชว์อยู่ แต่จะให้โทรกลับไปตอนนี้ คาดว่าคนที่เรียกร้องอยากฟังเพลงคงได้อาละวาดเป็นแน่ สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะเปิดเพลง Bern it down : Ahzee ft. Faydee ให้ตามคำสั่งแทนที่จะโทรกลับหาเขาอย่างที่ควรจะเป็น
“ดีมาก รู้ใจเจ้ ไม่เหมือนใครบางคน เชยมาก…ไม่รู้จักเพลงที่มันมีงูได้ไง เออะ! พูดถึงงู จู่ๆ ก็คิดถึงงูขึ้นมา งูตัวใหญ่มากด้วย” ดูเหมือนเหล้าสูตรนี้จะทำให้คนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวพูดมากขึ้นอีกเท่าตัว ที่สำคัญดันพูดเรื่องอย่างว่าต่อหน้าสาวที่ประสบการณ์เรื่องอย่างว่าเป็นศูนย์อย่างมีนา
“พี่ศิ! พูดอะไรของพี่เนี่ย เมาแล้วลามกนะเราเนี่ย” มีนาถึงกับหน้าแดง
“อ้อ! โทษๆๆ ลืมไปว่าแกกับไอ้พรีมยังซิงอยู่ ใช่ไหมวะพรีม” พริมรตาถึงกับสะดุ้งแล้วออกอาการเลิ่กลั่กจนน่าสงสัย (จากเรื่อง “ถึงป๋าดุหนูก็ไหว”)
“อย่าบอกนะว่าแกแอบไปเสียซิงโดยที่ไม่บอกพวกฉันสองคนน่ะ” ในขณะที่ศิศิราหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด คนที่แทบไม่รู้จักความรักเลยอย่างมีนาถึงกับนั่งมองตาแป๋วด้วยความสงสัยใคร่รู้
“จะมาจ้องจับผิดอะไรฉันนักหนา จะมาปาร์ตี้ไม่ใช่รึไง” พริมรตาโวยวายบ้าง
“เออจริง! เรามาปาร์ตี้สละโสดกันนะเว้ยศิ ปล่อยคนโสดไปเถอะ จะไปหาเรื่องคนไม่เคยเสียซิงให้มันได้อะไรวะ พูดไปมันก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องถูกลากขึ้นเตียงทุกวันหรอก เออ…แต่จะว่าไปก็น่าเสียดายนะ ถ้าไอ้พรีมมันมีแฟนเราจะได้แต่งงานพร้อมกันไปเลยทีเดียวสามคู่เนอะ” คำพูดของแวววิวาห์ (จากเรื่อง “ท่านประธานขา พาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที”) ทำเอาคนสงสัยใคร่รู้โพล่งออกมาเสียงดัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ