จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 42

บทที่ 41

“เอาละ ฉันมีสปิริตพอที่จะไม่ทะเลาะกับคุณตอนนี้คุณเจตต์ เพราะเรายังมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำ เดี๋ยวเราสองคนกอดเอวกัน จากนั้นฉันจะส่งเสียงนับตลอดทางเพื่อให้เราก้าวไปพร้อมกัน พร้อมนะคุณ พร้อมไหมคะจันทร์เจ้า” เด็กน้อยพยักหน้า ในขณะที่เธอก็ขยับมาชิดตัวเขา พร้อมกับเอามือโอบเอวให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อม ในขณะที่คนถูกโอบกลับชะงักตัวแข็งทื่อเพียงเพราะเนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธอที่เบียดชิดเข้ามา

“เอ้า! รีบโอบเอวฉันสิคุณ เกมจะเริ่มแล้วเนี่ย” เมื่อเห็นพ่อคุณมัวยืนนิ่ง เธอจึงเป็นฝ่ายจับมือเขามาโอบเอวตัวเอง กระทั่งเสียงสัญญาณเริ่มขึ้น

ปี๊ด…! ทุกทีมออกจากจุด Start บางทีมออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่กับพื้น ในขณะที่บางทีมก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงท่ามกลางเสียงเชียร์จากข้างสนาม โดยเฉพาะทีมของเธอกับเขาที่คนหนึ่งส่งเสียงเป็นสัญญาณในทุกก้าว ในขณะที่เขาก็เป็นฝ่ายพยุงในบางจังหวะที่เธอเกือบจะล้ม

ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงจุดปลดเชือกเพื่อเริ่มด่านต่อไป ในขณะที่ทุกคนช่วยกันปลดเชือก เธอก็แจกแจงหน้าที่ของแต่ละคนไปด้วย

“เอาละค่ะทุกคน ในขณะที่พี่มัดวิ่งไปเป่าแป้งเพื่อเอากุญแจมาเปิดกล่องปิงปอง ให้ทุกคนรีบวิ่งไปประจำที่พร้อมกับเอาช้อนมาคาบไว้ เพราะเราจะต้องคาบช้อนแล้วตักลูกปิงปองมาส่งให้กัน จันทร์เจ้า...หนูจะเป็นคนแรกที่ตักปิงปองมาส่งให้คุณพ่อ ส่งเสร็จก็รีบกลับไปตักมาใหม่ ส่วนคุณรับลูกปิงปองเสร็จก็เดินไปเวียนเสาต้นนั้นหนึ่งรอบ จากนั้นก็เอามาส่งให้ฉัน ประจำที่เลยค่ะทุกคน” เธอส่งสัญญาณพร้อมกับวิ่งไปเป่าแป้งทำตามขั้นตอนที่แจกแจงไว้

ปิงปองลูกแล้วลูกเล่าถูกส่งมายังเธอเพื่อเอาไปสะสมไว้ที่กล่องปลายทาง กระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา เด็กน้อยที่กำลังคาบช้อนตักลูกปิงปองเพื่อส่งให้ผู้เป็นพ่อ แต่ยังไม่ทันได้ส่งลูกปิงปองก็ร่วงหล่นจากช้อน เด็กน้อยถึงกับยืนอึ้งไปชั่วขณะ ยังไม่ทันที่ผู้เป็นพ่อจะได้ปลอบ เสียงเธอก็ดังมาแต่ไกล

“ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ แล้วไปเอามาใหม่นะคะจันทร์เจ้า” เสียงตะโกนจากมีนาทำให้จันทร์เจ้ารีบวิ่งกลับไปตักมาใหม่ กระทั่งลูกปิงปองถูกส่งมายังเธอ และเสี้ยววินาทีสุดท้ายที่เธอใส่มันลงกล่อง

ปี๊ด…! เสียงนกหวีดหยุดเวลา พร้อมกับมีนาที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างคนหมดแรง

“เราจะชนะไหมคะพี่มัดขา” ระหว่างรอผลการนับคะแนนจากจำนวนลูกปิงปองที่อยู่ในกล่องของแต่ละทีม เด็กน้อยกับคุณพ่อก็เดินมาสมทบพร้อมกับนั่งลงบนพื้นข้างๆ เธอ

“แล้วจันทร์เจ้าว่าเมื่อกี้เราทำเต็มที่กันรึยังคะ” เธอย้อนถาม ซึ่งเด็กหญิงก็พยักหน้าอย่างแข็งขัน

“งั้นไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง เราก็ต้องยอมรับมันถูกไหมคะ สมมุติว่าผลเกิดออกมาว่าเราไม่ชนะ หนูจะเสียใจไหมคะ” คำถามนี้ทำเด็กน้อยยืนนิ่ง ก่อนพยักหน้าตอบตามความรู้สึกจริงๆ

“แน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะต้องเสียใจ พี่มัดเองก็เสียใจ แต่มีอยู่เรื่องที่พี่มัดจะไม่เสียใจ ออกจะภูมิใจซะด้วยซ้ำ รู้ไหมว่าเรื่องอะไร” เด็กน้อยเอียงคอด้วยความอยากรู้

“ก็เรื่องความสามัคคีของทีมเราไงคะ พี่มัดกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า…ทีมเราเป็นทีมเวิร์กที่สุดยอดมาก ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะหนู ไม่ว่าผลมันจะออกมายังไง สำหรับพี่มัด…หนูเก่งที่สุดเลยค่ะ” เธอบอกพลางลูบหัวเด็กน้อยอย่างให้กำลังใจ

“เธอเองก็เก่ง เก่งกันทั้งคู่นั่นแหละ” เขาบอกพลางลูบหัวทั้งคู่

“ชอบเวลาที่คุณลูบหัวแบบนี้จัง” เธอมองเขานัยน์ตาออดอ้อน

“เพ้อเจ้อ แล้วดูหน้าซิ มีแต่แป้งเต็มไปหมด ไม่อายเขาบ้างรึไง” เขาแก้เก้อด้วยการบ่นงึมงำ พร้อมกันนั้นก็ช่วยเช็ดแป้งที่ติดอยู่ที่หน้าที่ผมให้ เด็กน้อยเห็นแบบนั้นก็ช่วยด้วยอีกแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ