บทที่ 56
“พูดมาก น่ารำคาญ พ่อคะ แม่คะ เรากลับกันเถอะค่ะ” ตีรณาทำหน้าไม่สบอารมณ์ แล้วหันไปจับจูงบุพการีให้เดินออกไปด้วยกัน แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตู เธอก็หันกลับมาอีกครั้ง จากนั้นก็เดินตรงดิ่งมาที่มีนาซึ่งยังอุ้มเด็กน้อยเอาไว้
“ขอโทษนะ ไว้น้าจะชดเชยให้” ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูแข็งไปบ้าง แต่ทุกคนก็อดยิ้มไม่ได้ที่ได้ยินคำนี้หลุดจากปากของผู้หญิงอย่างตีรณา
“ส่วนคนอื่น อย่าหวังจะได้ยินคำขอโทษจากฉัน เพราะฉันจะไม่พูด ถ้าฉันไม่รู้สึก” อา…นี่สินะผู้หญิงอย่างตีรณาต้องไม่ทิ้งลายสินะ เห็นแบบนี้มีนาก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อีก
“เฮอะ! ฉันเองก็ไม่ขอโทษเธอเหมือนกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้นถือว่าเราหายกัน” มีนาตอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้ และนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายโวยขึ้นมาเสียงดังทันที
“จะหายกันได้ยังไง ฉันตีเธอแค่ทีเดียว แต่เธอตบฉันตั้งสามที”
“นี่! เธอตีฉันด้วยไม้นะ”
“ก็แล้วใครใช้ให้เธอเอาหลังเข้ามารับล่ะ ช่วยไม่ได้เธออยากแส่หาเรื่องเจ็บตัวเอง” ดูเหมือนสงครามน้ำลายจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ทำเอาคนรอบข้างเห็นแล้วก็พากันถอนหายใจอย่างเอือมระอา โดยเฉพาะเจตต์ที่รีบเข้ามาดึงลูกสาวมาอุ้มไว้แล้วรีบเดินออกไปจากความวุ่นวายนั้น ปล่อยให้สองสาวทะเลาะกันให้หนำใจ ด้วยรู้ว่าต่อให้เถียงกันแทบตาย สุดท้ายเหตุการณ์ก็จะไม่ลงเอยแบบเดิม
“จันทร์เจ้าคะ หนูรู้ใช่ไหมว่าถึงหนูจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ป๊ะป๋าก็รักหนูมาก ไม่ว่าใครจะพูดอะไร หนูไม่ต้องเอามาใส่ใจรู้ไหมคะ รู้แค่ว่าป๊ะป๋าจะไม่มีวันทิ้งหนูก็พอ โอเคไหมคะ” หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายผ่านพ้นไป ก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องหันมาปลอบประโลมหัวใจเด็กน้อยให้กลับมาสดใสดังเดิม
“ลูกแท้ๆ คืออะไรคะ ทำไมถึงชอบพูดคำนี้กันจัง คุณน้าก็ชอบพูดให้หนูฟังบ่อยๆ” คำถามไร้เดียงสาของเด็กน้อย ทำให้ทั้งเจตต์และมีนาหันมามองหน้ากัน
“คุณน้าเคยพูดให้หนูฟังเมื่อไหร่คะ” ผู้เป็นพ่ออดถามไม่ได้
“ก็ทุกครั้งที่คุณน้ามา คุณน้าก็ชอบพูดคำนี้ให้ฟังตลอด”
“อื้อฮือ! ร้ายนักนะยัยตัวแสบ รู้งี้ตบให้หนักกว่านั้นก็ดีหรอก” มีนาแอบหันไปพูดเสียงลอดไรฟันอีกทาง ก่อนจะหันไปกระซิบถามคนข้างๆ ด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล
“เอาไงดีคุณ”
“เขายังเด็กเกินไป ฉันไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้ไปใส่หัวเขา รอให้เขาโตกว่านี้ เข้าใจอะไรๆ มากกว่านี้ ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากันอีกที จริงๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่ฉันคิดมันถูกรึเปล่า แต่ในฐานะพ่อ ฉันไม่อยากให้มีอะไรมากระทบจิตใจเขา เขาควรมีความสุขกับชีวิตในวัยเด็กของเขาให้เต็มที่” เขาว่าพลางหันไปมองลูกสาวตัวน้อยที่ตอนนี้ลงไปนั่งเล่นกับสุนัขตัวโปรดที่พื้นเสียแล้ว ดูเหมือนหนูน้อยจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองถามอะไรไป แต่…เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ดูคุณจะรักแม่ของจันทร์เจ้ามากเลยนะคะ ถึงได้ยอมทำขนาดนี้” จากเรื่องที่ได้รู้มา ทำให้มีนาอดคิดไม่ได้ แล้วก็อดอิจฉาด้วยไม่ได้เหมือนกัน
“หึงเหรอ” เขาเลิกคิ้วหยั่งเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ