จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์ นิยาย บท 6

กู้เหมยตั่วอ่านออกเขียนได้แล้ว เช่นนั้นพี่ชายและน้องชายของนางก็สามารถเรียนรู้ตามได้ ไม่ว่าจะอยู่ในโลกไหน คนไม่รู้หนังสือย่อมเสียเปรียบเสมอ

ยามที่พี่ชายและน้องชายว่าง นางก็จะสอนพวกเขาท่องคัมภีร์สามอักษร แม้จะไม่รู้จักตัวอักษร ก็ให้ท่องจำประโยคให้ได้เสียก่อน

นางวางแผนว่าต่อไปจะสอนตัวเลขหนึ่งสองสามสี่ห้า สอนการบวกลบอย่างง่าย และตอนสอนก็จะแอบสอดแทรกความรู้จากชาติก่อนเข้าไปบ้าง พยายามให้พี่ชายและน้องชายได้เรียนรู้มากขึ้น

นางพบว่าพี่ชายและน้องชายล้วนมีสติปัญญาสูงส่ง โดยเฉพาะน้องชายทั้งสอง เรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ แทบจะสอนเพียงสองครั้งก็จำได้แล้ว

ตัวนางเองนั้นมีตัวช่วยพิเศษ จำได้จึงเป็นเรื่องปกติ แต่เด็กน้อยวัยห้าขวบสองคนสามารถจำได้ นั่นย่อมหมายถึงพรสวรรค์สูงส่งอย่างแท้จริง

เด็กทั้งสองอ่านออกเขียนได้ ก็ให้เดินในเส้นทางสอบขุนนาง หากที่บ้านมีคนรับราชการได้สักคน ก็จะไม่ถูกรังแก

หมู่บ้านเซี่ยไท่ที่บ้านของกู้เหมยตั่วตั้งอยู่ ทางใต้ของหมู่บ้านมีแม่น้ำสายเล็ก ทางตะวันออกมีภูเขาลูกใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่อิงภูเขาเลียบน้ำ สภาพแวดล้อมเช่นนี้มอบความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายแก่ชาวบ้านอย่างมาก

ยามว่างเว้นจากการทำนา ชาวบ้านจะขึ้นเขาไปตัดฟืน พอสะสมได้มากแล้ว ก็จะนำไปขายที่อำเภอซึ่งอยู่ห่างออกไปราวสี่ห้าสิบลี้

ครอบครัวกู้คนเยอะ ผู้เฒ่ากู้รับปากโรงเตี๊ยมในอำเภอว่าจะส่งฟืนแห้งให้สองร้อยมัด เนื่องจากต้องการเร่งด่วน แรงงานในบ้านจึงต้องขึ้นเขากันทั้งหมด

ใกล้ถึงเวลานัดส่งฟืนแล้ว กลุ่มของกู้เหล่าต้าและกู้เหล่าซื่อเพิ่งตัดได้เพียงสามสิบมัด ยังขาดอีกยี่สิบมัด

กู้เหล่าต้ากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "ตอนบ่ายน้องสี่ไม่ได้ทำงาน ให้เขาทำชดเชยแล้วกัน"

ผู้เฒ่ากู้เหลือบมองกู้เหล่าต้าแวบหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยคำใด

กู้เหล่าซื่อถลึงตามองพี่ใหญ่ พูดอะไรไม่ออก กู้เหมยตั่วเห็นสีหน้าของพ่อก็รู้ทันทีว่าเขาถูกท่านลุงใหญ่หลอกเอาเปรียบอีกแล้ว

กู้เหมยตั่วหยิบไม้พลองออกมา กล่าวกับกู้เหล่าต้า "ท่านลุงใหญ่ ให้โอกาสท่านครั้งหนึ่ง พูดความจริงมา"

กู้เหล่าต้ามองไม้พลอง ไม่เชื่อว่ากู้เหมยตั่วจะกล้าตีตน

"เห็นๆ อยู่ว่าพ่อของเจ้าต่างหากที่ไม่ทำงาน"

กู้เหมยตั่วถือไม้พลองเข้าไปในห้องโถงใหญ่ หิ้วคอลูกชายคนเล็กวัยสี่ขวบของกู้เหล่าต้า นามกู้ชุนไหลออกมา แล้วชูขึ้นสูงลิ่ว

กู้เหล่าต้าเห็นเข้า แทบจะขวัญหนีดีฝ่อ

กู้เหมยตั่วเขย่าเด็กน้อยไปมา แล้วยิ้มเย็นกล่าวว่า

“จะพูดความจริงไหม?”

เด็กน้อยนึกว่า กู้เหมยตั่วกำลังเล่นด้วย เลยหัวเราะคิกคัก หัวใจของกู้เหล่าต้าก็พลอยแกว่งไกวไปตามแรงขยับของเด็ก

แต่เขาก็ยังกัดฟันพูดออกไปว่า “ก็เพราะพ่อเจ้าขี้เกียจ ไม่ยอมทำงานน่ะสิ”

“ดีมาก!”

กู้เหมยตั่วอุ้มเด็กขึ้นมาจ้องหน้าชัดๆ “อย่าว่าข้าว่าใจร้ายเลยนะ เป็นเพราะพ่อเจ้าน่ะมันเลว ข้าแค่เลียนแบบเขาเท่านั้นเองที่รังแกน้องชาย!”

กล่าวจบ มือก็กวาดเบาๆ ราวกับไร้แรง... ทว่าเด็กน้อยกลับพุ่งเป็นเส้นโค้งดั่งปาฏิหาริย์แห่งกลศาสตร์

กู้เหล่าต้ารีบร้องตะโกน “ข้าพูดแล้ว! ข้าพูดความจริงแล้ว!”

ภรรยาของกู้เหล่าต้ากรีดร้องโหยหวนแทบขาดใจ "ชุนไหล ลูกแม่!" พลางวิ่งตามลูกชายไป

สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลกู้ต่างไม่กล้าขยับเขยื้อนหรือเอ่ยปากห้ามปราม ด้วยว่าหากผู้ใดขยับ กู้เหมยตั่วก็จะพุ่งเข้าใส่ผู้นั้น แล้วใครเล่าจะทานทนได้

แต่แล้วเหตุการณ์ก็พลันเกิดขึ้นรวดเร็ว กู้เหมยตั่วเร่งฝีเท้าทะยานร่างไปเบื้องหน้า ยื่นสองแขนออกไป รับร่างเด็กน้อยที่กำลังร่วงหล่นลงมาไว้ได้อย่างมั่นคง

กู้เหมยตั่วโยนเด็กน้อยส่งให้กู้เหล่าต้า กู้เหล่าต้ารับไว้ด้วยสองมืออันสั่นเทา เกือบจะรับไว้ไม่ทัน

ใบหน้าของผู้เฒ่ากู้มืดครึ้มราวกับเมฆฝนทะมึนที่ตั้งเค้า แลดูน่ากลัวยิ่งนัก เจ้าลูกชายคนโตตัวดี! อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาต้องส่งฟืนแล้ว แต่ยังขาดอยู่อีกตั้งยี่สิบมัด

กู้เหมยตั่วเยื้องย่างเข้ามาข้างกายผู้เฒ่ากู้ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเป็นพิเศษว่า

"ท่านปู่เจ้าขา แท้จริงแล้วในใจท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าผู้ใดกันที่มิได้ทำงาน ใช่หรือไม่เจ้าคะ? เพียงเพราะพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของข้าเป็นบัณฑิต ท่านจึงลำเอียงเข้าข้างท่านลุงใหญ่ ด้วยกลัวว่าพี่ใหญ่จะต้องเสียหน้า ใช่หรือไม่เจ้าคะ?"

ผู้เฒ่ากู้เหลือบมองกู้เหมยตั่วแวบหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยคำใด

ตอนที่ 6 แล้วข้าจะต้องตามใจใครอีก? 1

ตอนที่ 6 แล้วข้าจะต้องตามใจใครอีก? 2

ตอนที่ 6 แล้วข้าจะต้องตามใจใครอีก? 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์