เวลานั้นเอง กู้เหมยตั่วก็เดินเตาะแตะกลับมาถึงบ้านในที่สุด
“ท่านปู่ ท่านพ่อ พวกท่านกลับมากันแล้วหรือเจ้าตะ? โอ๊ย ท่านอาห้า ท่านดูท่าจะโชคหล่นทับ หน้าตาเปล่งปลั่งเป็นพิเศษเลยวันนี้!”
ชาวบ้านได้ยินแล้วก็แอบหัวเราะคิกคัก
จู่ๆ แม่เฒ่าซุนก็ร้อง “โอ๊ย!” แล้วพุ่งเข้ามา “พูดมา! เจ้าเอาชุนไหลกับชุนเซิ่งไปซ่อนไว้ใช่ไหม?”
ทุกคนพากันคิดว่าแม่เฒ่าซุนชักจะหาเรื่องเกินไปหน่อย กู้เหมยโต๊ะจะไปซ่อนลูกชาวบ้านทำไมกันเล่า?
แต่ใครจะคิดล่ะ ว่ากู้เหมยตั่วจะพูดขึ้นมาเฉยๆ ว่า “ข้าไม่ได้ซ่อนพวกเขานี่ ข้าแค่ส่งให้ ต้าเยียนไต้ไปแล้วเอง ต้าเยียนไต้เป็นคนซ่อนต่างหาก”
ทุกคนถึงกับตาโต “หืม? ต้าเยียนไต้ ใครกัน?”
เถียนซื่อกับเจิ้งซื่อพุ่งเข้ามาพร้อมกัน มือก็คว้ากู้เหมยตั่วไว้แน่น “รีบบอกมา! ต้าเยียนไต้ เป็นใคร!”
กู้เหมยโต้ตอบหน้าตาเฉย “ต้าเยียนไต้ก็นายหน้าค้าคนนั่นแหละ ท่านย่าไม่ได้บอกพวกท่านเหรอ? ว่าท่านย่าติดต่อต้าเยียนไต้ จะขายหลานชายสองคนของบ้านเรา น้องชายข้าทั้งสองก็ห้าขวบแล้ว ไม่ใช่เด็กสุดท้องหรอก แล้วหลานชายสองคนนั้น จะไม่ใช่ชุนไหลกับชุนเซิ่งได้ยังไงล่ะ?”
แม่เฒ่าซุนถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตะโกนลั่น “เพ้อเจ้อ! ข้าไม่ได้จะขายพวกเขาสักหน่อย!” แต่ทันทีที่คำพูดหลุดจากปาก นาง ก็รู้ทันทีว่า...แย่แล้ว
กู้เหมยตั่วจ้องนางเขม็ง ดวงตาไม่กระพริบ “อย่างนี้นี่เอง แปลว่า...คนที่ท่านย่าตั้งใจจะขายแต่แรก ก็คือน้องชายสองคนของข้าน่ะสิ”
แม่เฒ่าซุนจะไปยอมรับได้ยังไงล่ะ! รีบหันเหเรื่องทันควัน
“พูดมา! เจ้าให้ต้าเยียนไต้พาชุนไหลกับชุนเซิ่งไปที่ไหน!”
แต่กู้เหมยตั่วไม่ยอมปล่อยประเด็นเด็ด “ท่านย่าตั้งใจจะขายเสี่ยวซื่อกับเสียวหวู่จริงๆ ใช่ไหมล่ะ?”
กู้เหมยตั่วฉุดกระชากท่านพ่อของนางเข้ามา
“ทุกท่านดูนี่ นี่คือพ่อของข้า กู้เหล่าซื่อ ทั้งชีวิตของเขา รู้จักแต่ทำงาน พ่อแม่ให้ทำอะไรก็ทำ ให้กินเท่าไหร่ก็รับเท่านั้น ไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว”
กู้เหมยตั่วลากพี่ชายทั้งสองเข้ามาอีก “นี่คือพี่ชายของข้า เหมือนกับพ่อข้า เชื่อฟังอย่างยิ่ง ข้าคาดว่า ต่อให้เป็นทาสที่ซื้อมา ก็ยังไม่เชื่อฟังเท่านี้เลย”
กู้เหมยตั่วปาดน้ำตา “ยังมีท่านแม่เถาซื่อของข้า ให้กำเนิดบุตรชายสี่คนแก่สกุลกู้ เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดถึง นางนั้นถูกตีไม่สู้ตอบ ถูกด่าไม่โต้เถียง ให้ทำอะไรก็ทำ ใช้งานได้ดียิ่งกว่าทาสเสียอีก”
“ฮือๆ...”
คราวก่อนที่ระบายความทุกข์ มีเพียงคนในบ้านตระกูลกู้อยู่ ตอนนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านอยู่กันพร้อมหน้า นางต้องเรียกคะแนนความเห็นใจ การแยกบ้านถึงจะราบรื่น
กู้เหมยตั่วเช็ดจมูก กล่าวเสียงสะอื้น “ทุกท่านดูสิ ก็แค่ครอบครัวคนซื่อๆ เช่นนี้ ยายแก่ผู้นี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยไป คราวก่อนเพื่อหาค่าเล่าเรียนให้กู้ชุนลี่ ก็จะขายน้องชายทั้งสองของข้า คราวนี้เพื่อรวบรวมสินสอดให้กู้ชุนลี่ ก็จะขายน้องชายทั้งสองของข้าอีก”
“พ่อและพี่ชายของข้าหาเงินให้พวกเขาไม่พอ ยังจะใช้น้องชายข้าแลกเงินอีก ความรู้สึกของบ้านสี่พวกเราก็คือเครื่องมือแลกเงินให้พวกท่านสินะ พวกท่านยังเห็นพวกเราเป็นคนในครอบครัวอยู่หรือไม่? หา...?!”
คำว่า “หา” สุดท้ายนี้ กู้เหมยตั่วตะโกนออกมาสุดเสียง “นี่คือยิ่งซื่อสัตย์ยิ่งสมควรตาย ยิ่งอันธพาลยิ่งได้ดีใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกท่านได้เห็น ว่าใครอันธพาลกว่ากัน!”
กู้เหมยตัวกระชากแม่เฒ่าซุนเข้ามา แล้วกดนางให้นั่งลงกับพื้นดังตุบ ราวกับจับต้นหอมปักดินไว้อย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็ลากพ่อเฒ่ากู้ให้มานั่งข้างๆ ด้วยอีกคน ก็พ่อแท้ๆ ของตัวเองนี่นะ จะไปลงไม้ลงมือก็ใช่ที่ไหน ได้แต่จับมานั่งประจันหน้าไว้ก่อน!
กู้เหมยตั่วไม่สนใจเสียงโหยหวนของแม่เฒ่าซุน ฉุดกระชากกู้เหล่าต้ามา ยกสองมือขึ้น โยนไปข้างหน้า ทิ้งลงบนกองฟางไกลๆ จากนั้นก็เป็นกู้เหล่าซาน กู้เหลาหวู่ โยนไปทั้งหมด ตกกระแทกจนพวกเขาร้องโหยหวนราวกับภูตผี
กู้เหมยตั่วดึงสะใภ้ซุนและเจิ้งซื่อเข้ามาอีก ผลักคนละที ให้พวกนางนั่งลงกับพื้นไป
กู้เหมยตั่วหยิบไม้พลองจากตะกร้าสานออกมา ชี้ไปยังคนบ้านกู้ที่อยู่บนพื้น “พูดมา พวกท่านอยากจะขึ้นสวรรค์ใช่หรือไม่? ข้าจะสนองให้ อย่างมากก็แค่ชีวิตแลกชีวิต ข้าจะสู้ตายกับพวกท่าน”
กู้เหล่าซานและคนอื่นๆ รีบลุกขึ้นยืน กล่าวว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา?”
กู้เหมยตั่วหัวเราะเหอะๆ “พวกท่านก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ตอนทำงานพวกท่านมักจะอู้งานไม่พอ ยังชอบโยนงานของพวกท่านให้พ่อกับพี่ชายข้าทำอีก ทำไมไม่ขี้เกียจจนตายไปเลยล่ะ”
“คำพูดของข้าก่อนหน้านี้ พวกท่านคิดว่าเป็นแค่ผายลมหรือ? รังแกคนยังไม่พอใช่ไหม? วันนี้ถือโอกาสที่ชาวบ้านมากมายอยู่ในที่นี้ ข้าขอประกาศ ข้าต้องการแยกบ้าน บ้านสี่ของสกุลกู้พวกเราจะแยกออกจากบ้านใหญ่สกุลกู้ ไอ้พวกขี้เกียจสันหลังยาว ไอ้พวกใจดำอำมหิตเหล่านี้ พวกเราไม่ขอรับใช้แล้ว”
พอได้ยินกู้เหมยตั่วจะแยกบ้าน แม่เฒ่าซุนก็รีบคลานลุกขึ้นมา นางดูถูกบ้านสี่ก็จริง แต่นางไม่เคยคิดจะแยกบ้าน โดยเฉพาะการแยกบ้านสี่ออกไป นี่มันแรงงานชั้นดีทั้งครอบครัวเลยนะ
“ข้าไม่ยอม นังเด็กเปรตสารเลว ไอ้ตัวอกตัญญูเนรคุณ ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ข้าถึงจะให้เจ้าแยกบ้าน!”
กู้เหมยตั่วยืนนิ่งอย่างมั่นคง มองแม่เฒ่าซุนด้วยสายตาเย็นชา
แม่เฒ่าซุนหวาดกลัว ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า
ตอนนั้นเองกู้เหล่าต้าก็ตะโกนขึ้น “อย่าพูดเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย รีบบอกมา เด็กๆ ไปไหนแล้ว? จะฆ่าข้าหรือไงหา ชุนไหลของข้า!”
พอเขาร้องตะโกน เถียนซื่อก็ร้องไห้ตาม เจิ้งซื่อก็ร้องด้วย ในลานบ้านตระกูลกู้มีแต่เสียงร้องไห้ระงม คนที่ไม่รู้เรื่องคงคิดว่าบ้านไหนกำลังจัดงานศพอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์