เหตุการณ์ขายหลานของสกุลกู้ลงเอยด้วยผลลัพธ์ว่าพ่อเฒ่ากู้ยอมควักเงินออกมายี่สิบสองตำลึง เพื่อไถ่ตัวหลานชายตัวน้อยทั้งสองคนคืนมา
ตอนแรกกู้เหมยตั่วตกลงกันไว้ชัดเจนแล้วว่า ให้นายหน้าค้าคนพวกนั้นเก็บเงินยี่สิบสองตำลึงไปเถอะ ส่วนที่เกินมาเจ็ดตำลึง ให้นายหน้าสองตำลึง ให้ต้าเยียนไต้ห้าตำลึง ถือเป็นสินน้ำใจตอบแทนที่ช่วยออกแรงกัน
แม่เฒ่าซุนโกรธจนล้มป่วยลง หลานชายขายไม่ได้ แถมยังเสียสินสอดของหลานสาวไป ไม่พอ ยังต้องจ่ายเพิ่มอีกสี่ตำลึง เจ็บใจจนนอนครวญครางอยู่บนเตียง
คฤหาสน์ลวี่อี้
“คุณชายขอรับ... นี่คือเรื่องราวทั้งหมด เด็กสาวผู้นั้นช่างเจ้าเล่ห์และดุร้ายเกินไปแล้วขอรับ” เด็กรับใช้ข้างกายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ไม่ลืมที่จะแสดงความคิดเห็นของตน
ท่านผู้เฒ่าเซี่ยงกล่าว “เมื่อมีความไม่เป็นธรรม ย่อมมีเสียงร้องทุกข์ ย่าของบ้านนี้ทำเกินไปแล้วจริงๆ”
เซี่ยงอวิ่นเจ๋อคิดในใจ ย่าที่ทำเกินไปมีอยู่มากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นเด็กสาวบ้านไหนกล้าต่อปากต่อคำกับย่าเช่นนี้ แถมยังกล้าลงไม้ลงมือกับผู้ใหญ่อีก เด็กสาวผู้นี้ช่างอกตัญญูเสียจริง
แม่เฒ่าซุนล้มป่วยลง สะใภ้ซุนเข้ามาปรนนิบัติในห้องเป็นครั้งคราว ท่านป้าดีกับนางไม่น้อย ดีกับลูกๆ ของนางด้วย โดยเฉพาะกับลูกสาวคนโตของนาง ระดับความรักใคร่เอ็นดูในตระกูลกู้ ถือเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว
“ท่านแม่ รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? หรือจะให้ข้าพยุงท่านลุกขึ้นเดินเล่นหน่อยไหมเจ้าคะ?”
“เฮ้อ อีกไม่กี่วันชุนลี่ก็จะกลับมาแล้ว แต่สินสอดนี่สิ... ทำให้ข้ากลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว”
แม่เฒ่าซุนทำหน้าอมทุกข์ รู้สึกว่ายิ่งปวดหัวหนักขึ้นไปอีก จึงเริ่มครวญครางออกมาอีกครั้ง
“ท่านแม่ ข้ามีความคิดหนึ่งเจ้าค่ะ ถ้าสำเร็จ ไม่เพียงแต่จะได้เงินมา ยังสามารถกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจของท่านได้ด้วยนะเจ้าคะ”
แม่เฒ่าซุนพอได้ฟัง ก็รีบลุกพรวดขึ้นมาทันที ไหนเลยจะเหมือนคนป่วย เงินเป็นเรื่องเล็ก แค่นางได้ยินคำว่าเสี้ยนหนามหัวใจ ก็มีกำลังวังชาขึ้นมาทันที ก็เพราะเด็กเหลือขอคนนี้นั่นแหละที่ขัดขวางเรื่องดีๆ ของนางไปตั้งเท่าไหร่ หากกำจัดนางได้ คาดว่าคงหัวเราะตื่นกลางดึกเป็นแน่
“รีบพูดมา เจ้ามีความคิดดีๆ อะไร?”
“ท่านแม่ ข้าได้ยินมาว่า แถวชายเมืองว่านหยาง มีบ้านหลังหนึ่งรับซื้อเด็กผู้หญิง สามสิบตำลึงต่อคน ถ้าหน้าตาดี เงินก็จะยิ่งเยอะ นังเด็กเหลือขอนั่นหน้าตาดี คนก็ฉลาดหลักแหลม ข้าคาดว่า น่าจะขายได้ถึงห้าสิบตำลึงเจ้าค่ะ”
“รู้หรือไม่ว่าพวกเขารับซื้อเด็กไปทำไม?”
“พวกเราจะไปสนใจทำไมกันเล่าเจ้าคะ ให้เงินก็พอแล้วนี่”
แม่เฒ่าซุนมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าไปดูหน่อย สืบข่าวให้ละเอียด แล้วกลับมาพวกเราค่อยปรึกษากันอีกที ต้องทำให้รอบคอบไม่มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด”
“วางใจเถอะเจ้าค่ะ ท่านแม่”
พอเดินออกมาจากห้องของแม่เฒ่าซุน ก็มองเห็นกู้เหมยตั่วอยู่ไกลๆ กำลังเล่นกับน้องชาย สอนพวกเขาอ่านหนังสือ สะใภ้ซุนสะใจอยู่ในอก กล่าวในใจว่า ก็ให้เจ้าเหิมเกริมได้อีกไม่กี่วันหรอก จากนั้นก็บิดเอวเดินจากไปอย่างมีความสุข
สะใภ้ซุนไหนเลยจะรู้ แค่แววตาที่ได้ใจแวบเดียวนั้น ก็ทำให้กู้เหมยตั่วมองเห็นช่องทางแล้ว
แม่เฒ่าซุน สะใภ้ซุน นี่มันช่างเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ เสียด้วย มองแล้วก็รู้สึกรังเกียจ ดูท่าทางแล้ว คงไม่ได้คิดการดีอะไรอีกแน่ ข้าขอดูหน่อยเถอะ พวกเจ้าจะทำอะไรกันแน่
ดังนั้น กู้เหมยตั่วจึงจับตาดูสะใภ้ซุนตลอดเวลา ไม่นานก็รู้ชัดเจนว่าสองแม่ลูกที่น่าชังนี่จะทำอะไรกันแน่ ช่างหาเรื่องตายเสียจริง
ท่านป้าสะใภ้สามเจ้าขา ท่านคิดร้ายกับบ้านสี่ของพวกเราทุกวัน ถ้าเช่นนั้นตามหลักต้องตอบแทนกัน ข้าควรจะคิดบัญชีกับพวกท่านบ้างหรือไม่นะ?
แม่เฒ่าซุนกำหนดไว้ว่าอีกสามวัน ให้พวกนั้นมายกคนไป ค่าตัวคือห้าสิบตำลึง ครั้งนี้แม่เฒ่าซุนได้รับบทเรียนจากคราวก่อน จะต้องไปรับคนด้วยตนเอง แล้วก็ส่งกลับไปที่เมืองด้วยตนเอง จะเกิดเรื่องผิดพลาดอีกไม่ได้เด็ดขาด
เพื่อสินสอดของหลานชายคนโต แม่เฒ่าซุนก็ทุ่มสุดตัวเช่นกัน
สามวันผ่านไปในพริบตา แม่เฒ่าซุนไปรับชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคนมาจากในเมืองด้วยตนเอง นี่ก็เป็นสิ่งที่แม่เฒ่าซุนร้องขอ นางบอกว่าเด็กสาวคนนี้แรงเยอะ คนน้อยกลัวนางจะอาละวาด แน่นอนว่า ก็เลือกเวลาที่คนในบ้านลงนาไปทำงานแล้วนั่นเอง
กู้เหมยตั่วจัดการตั้งแต่เช้า ให้ท่านแม่พาน้องชายไปทำงานเย็บปักถักร้อยที่บ้านท่านป้าสะใภ้รอง ให้ท่านป้าสะใภ้รองช่วยดูแลน้องชายด้วย พร้อมทั้งกำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า อีกสักครู่ ไม่ว่าในลานบ้านจะมีเสียงอะไรดังขึ้น ให้ลงสลักประตูให้แน่น ห้ามใครออกไปเด็ดขาด เรื่องในลานบ้าน นางจัดการเองได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จากสาวบ้านนา สู่ฮูหยินจอมพยัคฆ์