เธอเกิดความเคร่งเครียดขึ้นแล้วจริง ๆ
ซ่านเต้าเจ้าสำนักรองของสำนักสุริยัน
ยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้า และอาจจะใกล้เคียงที่สุดกับแดนยาทองระดับหกแล้ว!
อย่าได้มองว่าตอนที่หลินหยุนเผชิญหน้ากับยอดฝีมือยาทองระดับสี่นั้น เขาคนเดียวยังสามารถรับมือกับสามคนได้
แต่นี่คือยาทองระดับห้า
ซึ่งมันไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน
ถึงขนาดที่ว่ามีความแตกต่างกันมากเลยทีเดียว!
ทำไมหลินหยุนถึงสามารถสังหารผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันได้ล่ะ?
นั่นเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่หลินหยุนได้รับการถ่ายทอดนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก!
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซ่านเต้า!
นั่นไม่ใช่ว่าจะใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แล้วจะสามารถขยับพลังอานุภาพให้ใกล้เคียงกันได้สักหน่อย!
หลินหยุนหันกลับมาแล้วมองไปยังซิงเฟยด้วยสายตาที่ไร้ความกังวล จากนั้นก็มองไปที่ซ่านหง และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ไปเถอะ! ฉันจะดูหน่อยว่า ตกลงแล้วสำนักสุริยันนั้นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายแบบไหนกันแน่! ”
ซ่านหงได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาขึ้น “แน่ใจใช่ไหม? อย่างนั้นก็ตามฉันมา ไปดูแล้วก็จะได้รู้เอง! ”
เมื่อสักครู่ หลินหยุนเอาชนะหลานเหอลงได้อย่างง่ายดาย
ซ่านหงก็เห็นด้วยกับตาของตนเอง
โดยทำให้เขาตื่นตะลึงอย่างมากเช่นกัน
ถึงขนาดภายในใจ ก็ยังเกิดความหวาดกลัวลึก ๆ อยู่บ้าง
แต่ว่า ตอนนี้เขาเป็นตัวแทนของสำนักสุริยัน ซึ่งก็คือพ่อของเขา ดังนั้นต่อให้จะเกรงกลัวแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะแสดงออกมาได้
ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่หลินหยุนกล้าตอบตกลงที่จะไปยังสำนักสุริยัน!
โดยที่ไม่ว่าไอ้หนุ่มผู้นี้จะเก่งกาจมากเพียงใด ก็คงต้องตายอยู่ดี!
ซ่านหงหันหลังแล้วก็กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศ มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ
หลินหยุนกับซิงเฟยก็ติดตามไปด้วยทันที
ทั้งสามคนจากไปไม่นาน ยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระบางคนที่อยู่ในเมืองสุริยันนั้น รวมถึงยอดฝีมือของแต่ละตระกูลใหญ่ ก็ได้ทยอยกลายร่างเป็นลำแสง มุ่งหน้าติดตามไปยังทิศที่ตั้งอยู่ของสำนักสุริยันด้วย
ต่อจากนี้ อาจจะเกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ก็เป็นได้
สถานการณ์แบบนี้ ในรอบหลายปีถึงจะเกิดขึ้น จึงไม่มีใครที่อยากจะพลาด
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต่างยังคงแปลกใจอย่างมากกับหลินหยุน
ไม่มีใครรู้ถึงประวัติความเป็นมาของหลินหยุน!
ดังนั้นพวกเขาต่างก็ต้องการเห็นว่า หลินหยุนผู้ที่โดดเด่นไม่ธรรมดานี้ ตกลงจะมีความสามารถเก่งกาจถึงขั้นไหนกันแน่!
หลังจากเวลาประมาณธูปหนึ่งดอกไหม้หมดลง
หลินหยุนกับซิงเฟย ก็ได้ติดตามซ่านหงจนมาหยุดอยู่ที่ภูเขาสูงลูกหนึ่ง
หลังจากที่ซ่านหงหันหลังกลับไปมองสองคนนั้นแล้ว ก็กลายร่างเป็นลำแสง ทะยานมุ่งหน้าไปยังยอดเขา
จากนั้นก็มีเสียงของเขาดังขึ้น
“หลินหยุน หากมีความกล้าหาญก็ขึ้นเขาตามมาสิ! ”
“นายอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่า พวกเราได้จัดเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้กับนาย? ”
“อีกไม่นานนายก็จะได้รับรู้แล้ว! ”
หลินหยุนสายตาเป็นประกายขึ้น
ซิงเฟยที่อยู่ด้านหลังรีบพูดขึ้นว่า “หลินหยุน ระวังตัวด้วย! ที่นี่คือสำนักสุริยัน ซ่านเต้านั้นเป็นถึงยอดฝีมือยาทองระดับห้า! ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด! ”
“ไม่อย่างนั้น พวกเรากลับกันไปดีกว่า! ”
หลินหยุนส่ายศีรษะเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “จะกลับตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ พลังอำมหิตอันหนาวยะเยือกบริเวณโดยรอบก็ได้ปะทุขึ้นมาในทันที
จากนั้น เงาร่างสีดำจำนวนสิบกว่าร่างก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
“จุ๊จุ๊จุ๊ ไอ้หนุ่ม มีสายตาที่ใช้ได้ทีเดียว! ”
“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ซึ่งไม่สนใจว่านายจะเป็นใคร ต่างก็ไม่สามารถกลับออกไปได้อีก! ”
“จัดค่ายกล! ”
คนชุดดำที่เป็นผู้นำได้ยิ้มเยาะและพูดขึ้น โดยสิบกว่าคนนั้นได้โยกย้ายหายตัวแวบไปมา เพื่อโอบล้อมหลินหยุนกับซิงเฟยเอาไว้
ทันใดนั้น ทรายสีเหลืองก็ตลบอบอวลไปทั่ว ปกคลุมท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์
เพียงครู่เดียวก็กีดขวางการมองเห็นของหลินหยุนและซิงเฟยทั้งหมด
ส่วนยอดฝีมือทั้งหลายที่เพิ่งมาถึงนั้น มองเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ต่างก็สูดหายใจลึกกันทั้งหมด
“นี่คือสิบสองพิทักษ์ของสำนักสุริยันล่ะสิ? ”
“สิบสองคนบำเพ็ญฝึกฝนค่ายกลสุริยัน! ”
“พลังบำเพ็ญแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...