จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1187

เธอเกิดความเคร่งเครียดขึ้นแล้วจริง ๆ

ซ่านเต้าเจ้าสำนักรองของสำนักสุริยัน

ยอดฝีมือแดนยาทองระดับห้า และอาจจะใกล้เคียงที่สุดกับแดนยาทองระดับหกแล้ว!

อย่าได้มองว่าตอนที่หลินหยุนเผชิญหน้ากับยอดฝีมือยาทองระดับสี่นั้น เขาคนเดียวยังสามารถรับมือกับสามคนได้

แต่นี่คือยาทองระดับห้า

ซึ่งมันไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน

ถึงขนาดที่ว่ามีความแตกต่างกันมากเลยทีเดียว!

ทำไมหลินหยุนถึงสามารถสังหารผู้อาวุโสใหญ่สำนักสุริยันได้ล่ะ?

นั่นเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่หลินหยุนได้รับการถ่ายทอดนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก!

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซ่านเต้า!

นั่นไม่ใช่ว่าจะใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แล้วจะสามารถขยับพลังอานุภาพให้ใกล้เคียงกันได้สักหน่อย!

หลินหยุนหันกลับมาแล้วมองไปยังซิงเฟยด้วยสายตาที่ไร้ความกังวล จากนั้นก็มองไปที่ซ่านหง และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ไปเถอะ! ฉันจะดูหน่อยว่า ตกลงแล้วสำนักสุริยันนั้นเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายแบบไหนกันแน่! ”

ซ่านหงได้ยินดังนั้น ก็ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชาขึ้น “แน่ใจใช่ไหม? อย่างนั้นก็ตามฉันมา ไปดูแล้วก็จะได้รู้เอง! ”

เมื่อสักครู่ หลินหยุนเอาชนะหลานเหอลงได้อย่างง่ายดาย

ซ่านหงก็เห็นด้วยกับตาของตนเอง

โดยทำให้เขาตื่นตะลึงอย่างมากเช่นกัน

ถึงขนาดภายในใจ ก็ยังเกิดความหวาดกลัวลึก ๆ อยู่บ้าง

แต่ว่า ตอนนี้เขาเป็นตัวแทนของสำนักสุริยัน ซึ่งก็คือพ่อของเขา ดังนั้นต่อให้จะเกรงกลัวแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะแสดงออกมาได้

ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่หลินหยุนกล้าตอบตกลงที่จะไปยังสำนักสุริยัน!

โดยที่ไม่ว่าไอ้หนุ่มผู้นี้จะเก่งกาจมากเพียงใด ก็คงต้องตายอยู่ดี!

ซ่านหงหันหลังแล้วก็กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศ มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ

หลินหยุนกับซิงเฟยก็ติดตามไปด้วยทันที

ทั้งสามคนจากไปไม่นาน ยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระบางคนที่อยู่ในเมืองสุริยันนั้น รวมถึงยอดฝีมือของแต่ละตระกูลใหญ่ ก็ได้ทยอยกลายร่างเป็นลำแสง มุ่งหน้าติดตามไปยังทิศที่ตั้งอยู่ของสำนักสุริยันด้วย

ต่อจากนี้ อาจจะเกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ก็เป็นได้

สถานการณ์แบบนี้ ในรอบหลายปีถึงจะเกิดขึ้น จึงไม่มีใครที่อยากจะพลาด

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต่างยังคงแปลกใจอย่างมากกับหลินหยุน

ไม่มีใครรู้ถึงประวัติความเป็นมาของหลินหยุน!

ดังนั้นพวกเขาต่างก็ต้องการเห็นว่า หลินหยุนผู้ที่โดดเด่นไม่ธรรมดานี้ ตกลงจะมีความสามารถเก่งกาจถึงขั้นไหนกันแน่!

หลังจากเวลาประมาณธูปหนึ่งดอกไหม้หมดลง

หลินหยุนกับซิงเฟย ก็ได้ติดตามซ่านหงจนมาหยุดอยู่ที่ภูเขาสูงลูกหนึ่ง

หลังจากที่ซ่านหงหันหลังกลับไปมองสองคนนั้นแล้ว ก็กลายร่างเป็นลำแสง ทะยานมุ่งหน้าไปยังยอดเขา

จากนั้นก็มีเสียงของเขาดังขึ้น

“หลินหยุน หากมีความกล้าหาญก็ขึ้นเขาตามมาสิ! ”

“นายอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่า พวกเราได้จัดเตรียมของขวัญอะไรไว้ให้กับนาย? ”

“อีกไม่นานนายก็จะได้รับรู้แล้ว! ”

หลินหยุนสายตาเป็นประกายขึ้น

ซิงเฟยที่อยู่ด้านหลังรีบพูดขึ้นว่า “หลินหยุน ระวังตัวด้วย! ที่นี่คือสำนักสุริยัน ซ่านเต้านั้นเป็นถึงยอดฝีมือยาทองระดับห้า! ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด! ”

“ไม่อย่างนั้น พวกเรากลับกันไปดีกว่า! ”

หลินหยุนส่ายศีรษะเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “จะกลับตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว! ”

เมื่อพูดจบ พลังอำมหิตอันหนาวยะเยือกบริเวณโดยรอบก็ได้ปะทุขึ้นมาในทันที

จากนั้น เงาร่างสีดำจำนวนสิบกว่าร่างก็ได้ปรากฏตัวขึ้น

“จุ๊จุ๊จุ๊ ไอ้หนุ่ม มีสายตาที่ใช้ได้ทีเดียว! ”

“ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ซึ่งไม่สนใจว่านายจะเป็นใคร ต่างก็ไม่สามารถกลับออกไปได้อีก! ”

“จัดค่ายกล! ”

คนชุดดำที่เป็นผู้นำได้ยิ้มเยาะและพูดขึ้น โดยสิบกว่าคนนั้นได้โยกย้ายหายตัวแวบไปมา เพื่อโอบล้อมหลินหยุนกับซิงเฟยเอาไว้

ทันใดนั้น ทรายสีเหลืองก็ตลบอบอวลไปทั่ว ปกคลุมท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์

เพียงครู่เดียวก็กีดขวางการมองเห็นของหลินหยุนและซิงเฟยทั้งหมด

ส่วนยอดฝีมือทั้งหลายที่เพิ่งมาถึงนั้น มองเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ต่างก็สูดหายใจลึกกันทั้งหมด

“นี่คือสิบสองพิทักษ์ของสำนักสุริยันล่ะสิ? ”

“สิบสองคนบำเพ็ญฝึกฝนค่ายกลสุริยัน! ”

“พลังบำเพ็ญแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์