เมื่อเห็นข้อความจากยันต์สื่อสาร มันเหมือนกับของหลานเหอ ทำให้ฝูเหลยพูดอะไรไม่ออกเลย
ตอนนี้ เขาได้ล้มเลิกความคิดที่จะไปหาเรื่องหลินหยุนแล้ว
ในตอนนี้ เขาได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งและน่ากลัวของหลินหยุนแล้ว
แม้แต่ซ่านเต้าที่ฝึกฝนจนถึงยาทองระดับห้ามาหลายปี แต่เขาก็โดนหลินหยุนสังหารแล้ว เขายังมีโอกาสอีกเหรอ?
ไม่มีแล้ว! เขาไม่มีโอกาสอีกแล้ว!
……
ในเวลาเดียวกัน วิหารผนึกวิญญาณในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รวมทั้งประมุขอู๋ยู่ด้วย ทูตวิญญาณหลายๆคนได้มารวมตัวกันที่ห้องประชุม
เมื่อพวกเขาได้ข่าวเรื่องที่หลินหยุนสังหารซ่านเต้าแล้ว สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที แม้แต่ประมุขอู๋ยู่ก็เป็นเหมือนกัน
ด้านในห้องประชุม เงียบสงัดขึ้นมาทันที
ผ่านไปสักพัก ทูตวิญญาณที่หนึ่งถอนหายใจยาวๆออกมา เขากลืนน้ำลายตัวเองและพูด "ก่อนหน้านี้ ท่านประมุขกับทุกคนไม่เชื่อคำพูดของฉันกับเจ้าสี่! ตอนนี้ทุกคนคงเชื่อแล้วใช่ไหม?"
"หลินหยุนคนนั้น เขาน่ากลัวอย่างนี้จริงๆ!"
"ถ้าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ตาย ในอนาคตข้างหน้า เขาต้องกลายเป็นภัยอันตรายต่อโลกคุนชางอย่างแน่นอน!"
"ท่านประมุข ฉันขอแนะนำว่าให้เอาเรื่องของหลินหยุนแจ้งไปยังทุกที่ของวิหารผนึกวิญญาณเลย!"
"เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้บาดหมางอะไรกับเด็กหนุ่มคนนี้มากนัก พวกเราแค่สูญเสียจินอู่เซิงเพียงคนเดียวเท่านั้น!"
ถ้าพวกเราต้องล่วงเกินผิดใจกับอัจฉริยะคนนี้เพื่อจินอู่เซิงเพียงคนเดียว มันไม่คุ้มจริงๆ!"
ทูตวิญญาณที่สี่ที่ไว้หนวดเคราก็รีบพูดขึ้นมาทันที "ท่านประมุข เจ้าหนึ่งพูดถูกแล้ว! พวกเราไม่จำเป็นต้องไปล่วงเกินผิดใจกับเด็กหนุ่มอัจฉริยะและน่ากลัวขนาดนั้นเพื่อจินอู่เซิงเพียงคนเดียวเลย!"
"และการที่เด็กหนุ่มคนนั้นไปที่สำนักสุริยัน ก็เพราะตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลฉินเท่านั้น!"
"เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นคนที่มีคุณธรรมมากๆ!"
"ฉันคิดว่าเป็นมิตรกับเด็กหนุ่มคนนี้ดีกว่าเป็นศัตรูกับเขา!"
บนใบหน้าของประมุขอู๋ยู่นั้นใส่หน้ากากสีดำอยู่ ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้เลย
เขานั่งอยู่บนหัวโต๊ะ ทำให้คนอื่นๆไม่สามารถสัมผัสลมหายใจของเขาได้เลย
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ขยับตัวเลย แต่กลับทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนหายใจลำบาก
ผ่านไปนานมาก อู๋ยู่ก็เอ่ยปากพูด "งั้นก็ทำตามที่เจ้าหนึ่งบอกก็แล้วกัน! มีอีกเรื่องหนึ่ง รีบตรวจสอบประวัติทั้งหมดของหลินหยุน! เด็กหนุ่มคนนี้ลึกลับมากๆ วิหารผนึกวิญญาณของเราต้องรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน!"
ทุกคนรับปากด้วยความเคารพ
เมื่ออู๋ยู่ขยับตัว เขาก็หายไปจากห้องประชุมทันที
ผ่านไปไม่นาน เรื่องที่หลินหยุนสังหารซ่านเต้าก็ได้แพร่กระจายมาถึงเมืองมี่หยุน
เมื่อตระกูลต่างๆในเมืองมี่หยุนรู้ว่าหลินหยุนไปที่สำนักสุริยัน และต่อสู้กับซ่านเต้าจนสังหารเขาเสียชีวิต ทำให้คนของตระกูลต่างๆตกตะลึงอีกครั้ง
โจงหมิงที่เป็นเจ้าเมือง กับฉู่จิงเผิงที่เป็นรองเจ้าเมือง เดิมทีพวกเขาคิดจะทำอะไรไม่ดีต่อเขา แต่เมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้ว การกระทำของพวกเขาก็หยุดทันที
ทุกคนในตระกูลฉิน เมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน
หลังจากที่พวกเรายืนยันเรื่องนี้ไปหลายรอบ และได้รับการยืนยันว่ามันเป็นเรื่องจริง ทำให้ทุกคนนิ่งเงียบทันที
คนส่วนใหญ่ของตระกูลฉินจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลินหยุนเป็นใครมาจากไหนกันแน่
ตอนนี้พวกเขาคาดเดากันเอง หลินหยุนกับฉินเหมยต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถบอกใครได้แน่ๆ
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ข่าวที่เผยแพร่ออกมาจากสำนักสุริยัน มันเหมือนกับมีดคมๆที่อยู่กลางศีรษะของทุกคนในตระกูลฉิน ทำให้บรรยากาศในตระกูลฉินเต็มไปด้วยความตึงเครียด
แต่ใครก็คาดคิดไม่ถึงจริงๆ หลินหยุนกล้าปรากฏตัวที่นั่น!
เขาไม่เพียงปรากฏตัว แต่เขายังสังหารรองเจ้าสำนักของสำนักสุริยันด้วย!
คือ……
ถึงแม้คนของตระกูลฉินจะยืนยันเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน
ฉินเหมยในเวลานี้ เขานั่งเงียบๆตัวคนเดียวอยู่ในห้องนอน
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ทำให้เธอกลั้นน้ำตาไม่อยู่และน้ำตาก็ไหลออกมาทันที ช่วงก่อนหน้านี้เธอแบกรับแรงกดมหาศาล
ในตอนนี้ แรกกดดันทุกอย่างได้หายไปหมดแล้ว
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ในสวนดอกไม้ที่อยู่หลังบ้านของตระกูลฉู่
ฉินชิงถงอยู่กับฉู่เทียนด้วยใบหน้าที่มีความสุข
หลังจากทั้งสองคนรู้เรื่องนี้แล้ว สีหน้าของฉู่เทียนแย่มากๆจนไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...