อ่านสรุป บทที่ 1207 เปลี่ยนสถานที่ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 1207 เปลี่ยนสถานที่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
แววตาของวูแสหยุนเกิดความหวาดกลัวอย่างที่สุด จ้องเขม็งไปที่ผางเห้อด้วยสภาพที่ภายนอกเข้มแข็งแต่ภายในอ่อนแอพร้อมกับตวาดขึ้นว่า “ผางเห้อ ฉันเป็นคุณชายของปราสาทตระกูลวู! และยังเป็นอัจฉริยะที่สำนักเต๋าเสินเซียวให้ความสำคัญมากที่สุดด้วย! ”
“นายกล้าฆ่าฉัน ไม่ว่าจะเป็นปราสาทตระกูลวู หรือสำนักเต๋าเสินเซียว ต่างไม่มีทางที่จะไว้ชีวิตนายอย่างเด็ดขาด! ”
“นายก็แค่ผู้ฝึกอิสระเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นจะทำให้นายต้องจนตรอกสิ้นไร้หนทางอย่างแน่นอน! ”
ผางเห้อเหมือนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว สำหรับการข่มขู่คุกคามของวูแสหยุนนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจอะไร
เขากัดฟันเหล็กในปากอย่างแน่น หัวเราะเสียงแข็งและพูดขึ้นว่า “จริงเหรอ? ปราสาทตระกูลวู สำนักเต๋าเสินเซียว เมื่ออยู่ต่อหน้าของฉันแล้ว ล้วนถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ฉันเองก็ยังพอเกรงกลัวอยู่บ้าง! ”
“แต่ก็แค่เกรงกลัวเท่านั้น! ”
“เพียงแค่ผลลัพธ์สิ่งตอบแทนคุ้มค่ามากพอ งั้นก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร! ”
“วูแสหยุน อัจฉริยะในสำนักใหญ่ที่หลงระเริงโอ้อวดอย่างนายนี้ ฉันพบเจอมามากแล้ว! ”
“นายคิดว่าอย่างนายนี้ ลำพังแค่อาศัยสำนักที่อยู่เบื้องหลัง ก็สามารถที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัวเหรอ? มันทำได้ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ? ”
“ดอกไม้ในเรือนกระจกอย่างนายนี้ คิดว่าโลกนี้มันง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ! ”
“ไม่ฆ่านาย ก็เพราะสิ่งตอบแทนมันยังไม่คุ้มค่าก็เท่านั้น! ”
“เมื่อสิ่งตอบแทนมันคุ้มค่ามากพอ ฆ่านายก็เหมือนกับฆ่าสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น! ”
“บางทีนายอาจจะเป็นอัจฉริยะอะไรก็ตาม หรืออาจจะเป็นผู้ที่สำนักเต๋าเสินเซียวให้ความสำคัญ! ”
“แต่ต้องมีเงื่อนไขว่า นายจะต้องมีชีวิตอยู่! ”
“อัจริยะคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว จะไปมีคุณค่าอะไรที่ควรพูดถึงกันล่ะ? ”
“ปราสาทตระกูลวู กับสำนักเต๋าเสินเซียวของนายนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง! ”
“เหอะเหอะ แต่โลกคุนชางยิ่งใหญ่กว่ามากนัก! ”
“ฉันเพียงแค่ตั้งใจหลบซ่อนตัว ต่อให้มีอิทธิพลอำนาจยิ่งใหญ่แล้วอย่างไรล่ะ? ”
ขณะที่พูด ลำแสงอันแหลมคมของกระบี่ยาวก็ได้ฟาดฟันทะลุท้องฟ้า พุ่งตรงเข้าสังหารวูแสหยุนทันที
วูแสหยุนตกใจอย่างมาก และจ้องมองด้วยความโกรธแค้น
ในเวลานี้ เขาหวาดกลัวแล้วจริง ๆ!
เขารู้สึกถึงความหวาดกลัวของความตายเป็นครั้งแรกในชีวิต
เขาเป็นถึงคุณชายของปราสาทตระกูลวู เขาเป็นถึงลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักเต๋าเสินเซียว ที่เป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่เลย!
หรือว่าวันนี้เขาจะต้องตายลงแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เวลานี้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจในภายหลังอย่างที่สุด
เขาโอ้อวดหยิ่งผยองมากเกินไปจริง ๆ
เขารู้มานานแล้วว่าตนเองหยิ่งผยอง แต่เขาคิดอยู่เสมอว่า เขาเองนั้นมีต้นทุนคุณสมบัติที่เพียงพอจะหยิ่งผยองได้
แต่ตอนนี้ ต้นทุนคุณสมบัติในการหยิ่งผยองของเขานั้นได้สูญสิ้นไร้ค่าไป เขาจะต้องตายแล้ว
ไม่มีใครที่จะยื่นมือออกมาขัดขวาง แต่ละคนล้วนมองดูกันอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้าง
เพราะว่าผางเห้อพูดได้ถูกต้อง นี่ต่างหากคือโลกคุนชางที่แท้จริง
เพียงแค่มีสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ามากพอ ไม่มีเรื่องอะไรที่จะทำไม่ได้ และก็ไม่มีผู้ใดที่ฆ่าไม่ได้!
มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อย ที่เวลานี้ถึงขนาดหัวเราะเยาะ
“วูแสหยุนอัจฉริยะของสำนักใหญ่ที่หลงระเริงขนาดนี้ ที่จริงแล้วก็ถือเป็นเรื่องปกติ! ”
“อัจฉริยะของสำนักใหญ่คนไหน ที่จริงแล้วต่างก็มีลักษณะนิสัยแบบนี้กันทั้งนั้น! ”
“อาศัยว่ามีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ก็คิดว่าไม่มีใครกล้าที่จะลงมือทำร้ายพวกเขา”
“แต่เมื่อถึงขั้นที่ต้องลงมือจริง ๆ พวกเขาก็ถูกฆ่าเหมือนกับลูกไก่ก็เท่านั้น! ”
“นี่ก็คือการที่ไม่เคยโดนผู้อื่นลงมือทำร้ายมาก่อน! ”
“นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอัจฉริยะจำนวนเท่าไรที่จะต้องพบกับความตายแบบนี้! ”
“เพียงแค่วันนี้มาถึงคราวของวูแสหยุนก็เท่านั้นเอง! ”
“เหอะเหอะ! ”
“วูแสหยุนนี้จะตายหรือไม่ตาย ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรพวกเราในการแย่งชิงหินผลึกนี้อยู่แล้ว! ”
“จะตายก็ตายไปเถอะ! ”
“เมื่อเขาตายไป ก็หมดสิ้นการขัดขวางของสำนักเต๋าเสินเซียว พวกเราก็จะสะดวกสบายมากขึ้นอีก”
“ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้สหายผางเห้อก็มีอาการบาดเจ็บอยู่! ”
“ฉันคิดว่าท่านทั้งสามไม่ว่าใครที่ต้องการหินผลึกสมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้น ก็นำสิ่งของบางอย่างออกมา แบ่งปันให้กับทุกคนบ้าง! ”
“ไม่อย่างนั้นหากเกิดการลงมือปะทะกันจริง ผลแพ้ชนะก็ไม่อาจเป็นที่ทราบได้! ”
“สหายทั้งสาม หรือว่าพวกท่านจะเจรจาปรึกษากันก่อนสักเล็กน้อย? ”
ได้ยินคำพูดของทูตวิญญาณที่สอง สีหน้าของผางเห้อก็ย่ำแย่ลง
นี่คิดที่จะแบ่งแยกเขากับกู่มู่ และหลินหยุนทั้งสามคนออกจากกัน
เพียงแค่ในสามคนนี้มีหนึ่งคนที่มีความคิดเห็นอื่น อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถอาศัยช่วงจังหวะชุลมุนแย่งชิงสิ่งของไปได้แล้ว
ผางเห้อหันหน้ามองไปที่กู่มู่และหลินหยุนอย่างระแวดระวัง และพูดขึ้นว่า “สหายทั้งสอง พวกท่านเห็นว่าอย่างไร? จะลงมือกำจัดพวกคนฝ่ายตรงข้ามนี้ก่อนแล้ว พวกเราสามคนจึงค่อยมาทำการเจรจา หรือว่าจะตอบรับความคิดเห็นของทูตวิญญาณที่สอง? ”
แม้ว่าเขาจะมั่นใจอย่างมากว่า กู่มู่กับหลินหยุนจะตัดสินใจเลือกได้อย่างถูกต้อง
แต่ใครก็ไม่สามารถที่จะมุดเข้าไปในสมองเพื่อดูได้ว่า กู่มู่กับหลินหยุนนั้นจะตัดสินใจอย่างไร เขาจึงไม่สามารถที่จะยืนยันชัดเจนได้
กู่มู่พูดขึ้นว่า “ฉันค่อนข้างจะเห็นด้วยว่า ลงมือกำจัดพวกเขาเสียก่อน! พวกเราสามคนจึงค่อยมาเจรจาปรึกษากัน! ”
กู่มู่พูดจบ ทั้งสองคนก็เดินตรงเข้ามาหาหลินหยุนพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ไม่จำเป็นจะต้องจัดการอะไรเลย แค่เปลี่ยนสถานที่ก็พอแล้ว! ”
ขณะที่พูด ร่างของเขาก็กระพริบ แวบหายไปในอากาศในพริบตา
วินาทีต่อมา ก็ถือหินผลึกอยู่ในมือแล้ว
ในขณะเดียวกัน ก็คว้าร่างของซิงเฟยขึ้นแล้วก็กระโดดขึ้นในอากาศมุ่งหน้าไปทางทิศใต้
ผางเห้อกับกู่มู่เห็นเหตุการณ์ดังนั้น แววตาก็เปลี่ยนทันที จากนั้นก็รีบมุ่งหน้าไล่ตามไปทางทิศใต้
ยอดฝีมืออีกสิบกว่าคนก็ทยอยกระโดดขึ้นในอากาศ แล้วก็ติดตามไป
แต่ว่า ยังมียอดฝีมือขั้นยาทองระดับหนึ่งและขั้นยาทองระดับสองอีกกว่าหกเจ็ดคนที่ไม่ได้ไล่ตามไป โดยเลือกที่จะอยู่ที่ตรงนี้
ในจำนวนนี้รวมไปถึงโจงหมิงกับฉู่จิงเผิงทั้งสองคน
เห็นทุกคนทยอยกระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วก็มุ่งหน้าจากไป โจงหมิงกับฉู่จิงเผิงก็ได้มองหน้าสบตาซึ่งกันและกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...