แววตาของวูแสหยุนเกิดความหวาดกลัวอย่างที่สุด จ้องเขม็งไปที่ผางเห้อด้วยสภาพที่ภายนอกเข้มแข็งแต่ภายในอ่อนแอพร้อมกับตวาดขึ้นว่า “ผางเห้อ ฉันเป็นคุณชายของปราสาทตระกูลวู! และยังเป็นอัจฉริยะที่สำนักเต๋าเสินเซียวให้ความสำคัญมากที่สุดด้วย! ”
“นายกล้าฆ่าฉัน ไม่ว่าจะเป็นปราสาทตระกูลวู หรือสำนักเต๋าเสินเซียว ต่างไม่มีทางที่จะไว้ชีวิตนายอย่างเด็ดขาด! ”
“นายก็แค่ผู้ฝึกอิสระเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นจะทำให้นายต้องจนตรอกสิ้นไร้หนทางอย่างแน่นอน! ”
ผางเห้อเหมือนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว สำหรับการข่มขู่คุกคามของวูแสหยุนนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจอะไร
เขากัดฟันเหล็กในปากอย่างแน่น หัวเราะเสียงแข็งและพูดขึ้นว่า “จริงเหรอ? ปราสาทตระกูลวู สำนักเต๋าเสินเซียว เมื่ออยู่ต่อหน้าของฉันแล้ว ล้วนถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ฉันเองก็ยังพอเกรงกลัวอยู่บ้าง! ”
“แต่ก็แค่เกรงกลัวเท่านั้น! ”
“เพียงแค่ผลลัพธ์สิ่งตอบแทนคุ้มค่ามากพอ งั้นก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไร! ”
“วูแสหยุน อัจฉริยะในสำนักใหญ่ที่หลงระเริงโอ้อวดอย่างนายนี้ ฉันพบเจอมามากแล้ว! ”
“นายคิดว่าอย่างนายนี้ ลำพังแค่อาศัยสำนักที่อยู่เบื้องหลัง ก็สามารถที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัวเหรอ? มันทำได้ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ? ”
“ดอกไม้ในเรือนกระจกอย่างนายนี้ คิดว่าโลกนี้มันง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ! ”
“ไม่ฆ่านาย ก็เพราะสิ่งตอบแทนมันยังไม่คุ้มค่าก็เท่านั้น! ”
“เมื่อสิ่งตอบแทนมันคุ้มค่ามากพอ ฆ่านายก็เหมือนกับฆ่าสุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น! ”
“บางทีนายอาจจะเป็นอัจฉริยะอะไรก็ตาม หรืออาจจะเป็นผู้ที่สำนักเต๋าเสินเซียวให้ความสำคัญ! ”
“แต่ต้องมีเงื่อนไขว่า นายจะต้องมีชีวิตอยู่! ”
“อัจริยะคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว จะไปมีคุณค่าอะไรที่ควรพูดถึงกันล่ะ? ”
“ปราสาทตระกูลวู กับสำนักเต๋าเสินเซียวของนายนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมากก็จริง! ”
“เหอะเหอะ แต่โลกคุนชางยิ่งใหญ่กว่ามากนัก! ”
“ฉันเพียงแค่ตั้งใจหลบซ่อนตัว ต่อให้มีอิทธิพลอำนาจยิ่งใหญ่แล้วอย่างไรล่ะ? ”
ขณะที่พูด ลำแสงอันแหลมคมของกระบี่ยาวก็ได้ฟาดฟันทะลุท้องฟ้า พุ่งตรงเข้าสังหารวูแสหยุนทันที
วูแสหยุนตกใจอย่างมาก และจ้องมองด้วยความโกรธแค้น
ในเวลานี้ เขาหวาดกลัวแล้วจริง ๆ!
เขารู้สึกถึงความหวาดกลัวของความตายเป็นครั้งแรกในชีวิต
เขาเป็นถึงคุณชายของปราสาทตระกูลวู เขาเป็นถึงลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักเต๋าเสินเซียว ที่เป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่เลย!
หรือว่าวันนี้เขาจะต้องตายลงแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เวลานี้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจในภายหลังอย่างที่สุด
เขาโอ้อวดหยิ่งผยองมากเกินไปจริง ๆ
เขารู้มานานแล้วว่าตนเองหยิ่งผยอง แต่เขาคิดอยู่เสมอว่า เขาเองนั้นมีต้นทุนคุณสมบัติที่เพียงพอจะหยิ่งผยองได้
แต่ตอนนี้ ต้นทุนคุณสมบัติในการหยิ่งผยองของเขานั้นได้สูญสิ้นไร้ค่าไป เขาจะต้องตายแล้ว
ไม่มีใครที่จะยื่นมือออกมาขัดขวาง แต่ละคนล้วนมองดูกันอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้าง
เพราะว่าผางเห้อพูดได้ถูกต้อง นี่ต่างหากคือโลกคุนชางที่แท้จริง
เพียงแค่มีสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่ามากพอ ไม่มีเรื่องอะไรที่จะทำไม่ได้ และก็ไม่มีผู้ใดที่ฆ่าไม่ได้!
มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อย ที่เวลานี้ถึงขนาดหัวเราะเยาะ
“วูแสหยุนอัจฉริยะของสำนักใหญ่ที่หลงระเริงขนาดนี้ ที่จริงแล้วก็ถือเป็นเรื่องปกติ! ”
“อัจฉริยะของสำนักใหญ่คนไหน ที่จริงแล้วต่างก็มีลักษณะนิสัยแบบนี้กันทั้งนั้น! ”
“อาศัยว่ามีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ก็คิดว่าไม่มีใครกล้าที่จะลงมือทำร้ายพวกเขา”
“แต่เมื่อถึงขั้นที่ต้องลงมือจริง ๆ พวกเขาก็ถูกฆ่าเหมือนกับลูกไก่ก็เท่านั้น! ”
“นี่ก็คือการที่ไม่เคยโดนผู้อื่นลงมือทำร้ายมาก่อน! ”
“นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอัจฉริยะจำนวนเท่าไรที่จะต้องพบกับความตายแบบนี้! ”
“เพียงแค่วันนี้มาถึงคราวของวูแสหยุนก็เท่านั้นเอง! ”
“เหอะเหอะ! ”
“วูแสหยุนนี้จะตายหรือไม่ตาย ถึงอย่างไรก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรพวกเราในการแย่งชิงหินผลึกนี้อยู่แล้ว! ”
“จะตายก็ตายไปเถอะ! ”
“เมื่อเขาตายไป ก็หมดสิ้นการขัดขวางของสำนักเต๋าเสินเซียว พวกเราก็จะสะดวกสบายมากขึ้นอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...