เมื่อได้ยินคำพูดของสี่เยว่
เจ็ดเยว่กับแปดเยว่และเก้าเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็พูดออกมาทันที "พวกเราก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน!"
สี่เยว่ขมวดคิ้วและมองไปที่หลินหยุน "ก่อนหน้านี้ ฉันไม่เคยเห็นเจ้าพระคุณใช้วิชาอิทธิฤทธิ์ที่เหมือนกับสำนักหยุนเยว่ของพวกเรา!"
"แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อพี่น้องคนอื่นๆก็เห็นหมดแล้ว มันก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ฉันยอมรับฐานะของเจ้าพระคุณ!"
"อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฐานะของเจ้าพระคุณจะสูงศักดิ์มากๆ แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะสามารถเข้าไปได้!"
"ตั้งแต่สำนักหยุนเยว่ก่อตั้งมาจนถึงตอนนี้ นอกจากจู่ซือผู้ก่อตั้งสำนักแล้ว ไม่เคยมีใครเข้าไปในหอว่างหยุนเลย!"
"ยิ่งไปกว่านั้น ในคำสอนที่สืบทอดมาแต่โบราณ ก็ไม่ได้พูดว่าเจ้าพระคุณสามารถเข้าไปได้!"
"ดังนั้น ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้เจ้าพระคุณเข้าไปในหอว่างหยุน!"
เจ็ดเยว่กับแปดเยว่และเก้าเยว่ก็พยักหน้าทันทีและพูด "เรื่องนี้สำคัญมากๆ คำพูดของพี่สี่มีเหตุผลมากๆ! ถึงแม้คุณจะเป็นเจ้าพระคุณ คุณก็ไม่ควรเข้าไป มันคือการแสดงความไม่เคารพต่อจู่ซือผู้ก่อตั้งสำนัก!"
คนที่อยู่ในเหตุการณ์มีทั้งหมดเก้าคน ตอนนี้มีสี่คนไม่เห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วยเกือบถึงครึ่งหนึ่งแล้ว
สองเยว่ที่อยู่ข้างๆรีบมองไปที่หลินหยุนและพูด "เจ้าพระคุณ คุณคิดยังไง?"
หลินหยุนพูดเบาๆ "หอว่างหยุน ฉันจำเป็นต้องเข้าไป! เพราะในนั้นมีสมบัติของฉันอยู่"
ใช่แล้ว สมบัติเหล่านั้นเป็นของเขา
เย่เยว่คือภรรยาของเขา สมบัติที่เย่เยว่เหลือเอาไว้ มันก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติล้ำค่าเหล่านั้น เย่เยว่เหลือเอาไว้ให้เขาเอามาสร้างรากฐานยาทอง
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของสี่เยว่และคนอื่นๆเคร่งขรึมทันที พวกเธอมองไปที่หลินหยุนและพูด "เจ้าพระคุณ ถ้าท่านยืนกรานที่จะทำแบบนั้น พวกเราก็คงต้องล่วงเกินท่านแล้ว!"
สำหรับเธอแล้ว เธอสงสัยฐานะที่แท้จริงของหลินหยุนอยู่แล้ว
ตอนนี้ หลินหยุนจะเข้าไปในหอว่างหยุน ยังไงเธอก็ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน!
สี่เยว่ครุ่นคิดชั่วครู่และเอ่ยปากพูด "ฉันขอเตือนเจ้าพระคุณ คุณอย่างทำจะดีกว่า มิฉะนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะพัฒนาไปจนถึงจุดที่พวกเราไม่อยากจะเห็นก็ได้"
ดวงตาของหลินหยุนกระตุกทันที เขามองไปที่สี่เยว่และคนอื่นๆ และถอนหายใจเบาๆ
เขาเงียบไปชั่วครู่ และเอ่ยปากพูด "ก็ได้ ในเมื่อพวกเธอไม่ยอม ตอนนี้ฉันไม่เข้าไปก็ได้! อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันคิดว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจะกลับมาอีกครั้ง!"
เขาหันหน้ากลับไปมองซิงเฟยที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้เธอตกใจมากๆจนอึ้งไปเลย "พอได้แล้ว พวกเราไปกันเถอะ!"
เมื่อพูดจบ เธอเดินออกจากตำหนักทันที
ซิงเฟยได้สติคืนมา เธอรีบวิ่งตามออกไปทันที
เมื่อออกจากสำนักหยุนเยว่แล้ว ซิงเฟยกลืนน้ำลายทันที เธอจับชายเสื้อของหลินหยุน และถามด้วยความเหลือเชื่อ "เฮ้! เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมพวกเธอถึงเรียกนายว่าเจ้าพระคุณ? นายณมีฐานะอะไรกันแน่?"
หลินหยุนสามารถเข้าสำนักหยุนเยว่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว แต่เขายังได้รับความเคารพด้วย
มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ!
เดิมทีเธอคิดว่าหลินหยุนคืออัจฉริยะที่สำนักหยุนเยว่สร้างขึ้นมา
แต่ความจริงมันต่างกันราวฟ้ากันเหว
สองเยว่ที่เป็นผู้นำกับประมุขยอดเขาต่างๆของสำนักหยุนเยว่ ทุกคนต่างเคารพหลินหยุนและเรียกเขาว่าเจ้าพระคุณ
สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าใครมองเห็น ปฏิกิริยาของคนๆนั้นก็คงเหมือนกับเธอเลย เรื่องนี้คงทำให้คนๆนั้นตกใจมากๆ
หลินหยุนพูดเบาๆ "ฉันกับผู้ก่อตั้งสำนักหยุนเยว่มีความสัมพันธ์บางอย่าง ดังนั้นพวกเธอก็เลยเรียกฉันว่าเจ้าพระคุณ! แต่มันก็เป็นแค่คำเรียกคำหนึ่งเท่านั้น! ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย!"
ซิงเฟย "……"
อะไรเรียกว่าตอแหล?
อันนี้เรียกว่าตอแหลชัดๆ
ที่นี่คือสำนักหยุนเยว่! พวกเขาเป็นหนึ่งในเก้าสำนักที่มีอิทธิพลมากๆนะ?
ในสายตาของคุณ กลายเป็นสำนักธรรมดาไปเลย?
สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว?
คุณกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับนิสัยของหลินหยุน เธอก็พอจะเดาออกเล็กน้อย
โดยส่วนใหญ่ ผู้ชายคนนี้จะไม่อวดเก่งเลย และไม่อยากเป็นจุดสนใจด้วย
แต่ถ้ามีคนบีบคั้นจนทำให้เขาจำเป็นต้องลงมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...