เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตระกูลฉิน เนื่องจากได้รับการช่วยเหลือจากสามเยว่ ทำให้เรื่องนี้สิ้นสุดลงชั่วคราว ภายใต้ความตกใจของทุกคนในตระกูลฉินที่อยู่ในเมืองมี่หยุน
สุดท้ายแล้วมันจะเกิดปัญหาอะไร เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้เลยว่าสำนักเทียนหยุนจะยอมปล่อยตระกูลฉินไปง่ายๆแบบนี้ไหม
แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง สำหรับข่าวการปะทะระหว่างสำนักเทียนหยุนกับสำนักหยุนเยว่ในเมืองมี่หยุนก็ได้เผยแพร่ไปทั่ว
ส่วนทางฝั่งหลินหยุน เขาไม่รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
หลินหยุนในเวลานี้ ไม่สนใจโลกภายนอกเลย เขาเก็บตัวฝึกฝนอยู่
การเดินทางในช่วงเวลานี้ ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนและเตรียมตัวที่จะสร้างรากฐานแดนยาทองอีกครั้ง
เขารู้ตัวดี ตอนนี้เขามีพลังที่แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่
ยกตัวอย่างเช่นผู้อาวุโสสี่ของสำนักเทียนหยุน ยาทองของเขาอยู่ในระดับเหลือง ถ้ายาทองของเขาเป็นยาทองระดับดำ เขาก็คงไม่อ่อนแอขนาดนี้
แต่พูดกันตามตรง เขาอ่อนแอมากๆเหรอ?
มันไม่ใช่อย่างนั้นอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้วิชาย่ำฟ้าเก้าทีออกมา เขาคงไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ง่ายขนาดนี้อย่างแน่นอน
ถ้าศัตรูของเขาคือยอดฝีมือยาทองระดับดิน ถ้าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ มันคงลำบากมากขึ้นหลายเท่าตัว
ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงโลกคุนชางเลย แค่พูดถึงสำนักแห่งหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงเก้าสำนักใหญ่ แค่พูดถึงสิบแปดสำนักเต๋า ถ้าเกิดความบาดหมางที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เขาก็สามารถรับมือไหวอยู่แล้ว
ไม่ต้องพูดถึงสำนักอื่น แค่พูดถึงสำนักสุริยันก็พอแล้ว
หลินหยุนสังหารซ่านเต้าที่เป็นรองเจ้าสำนัก ทำให้สำนักสุริยันขายหน้ามากๆ แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ไม่กล้ามาหาเรื่องเขาเลย
นั่นเป็นเพราะเจ้าสำนักใหญ่ที่ชื่อฉิวหรงกำลังเก็บตัวฝึกฝนอยู่
ถ้าฉิวหรงออกจากการเก็บตัวฝึกฝน สถานการณ์ก็อาจจะไม่เหมือนเดิม
ถ้าโลกคุนชางเล็กๆแบบนี้ก็ไม่สามารถสยบได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ ทำอะไรก็มีคนคอยขัดขวาง ก็ไม่ต้องคิดเรื่องที่จะออกจากโลกคุนชางและไปหาเย่เยว่แล้ว!
อย่าคิดว่าหลินหยุนเป็นคนสงบนิ่งมากๆ มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ดี จิตใจของเขาต้องการไปหาเธอมากแค่ไหน
ดังนั้นเขาก็เลยพยายามฝึกฝนตลอดเวลา
วันนี้ ซิงเฟยแต่งตัวสวยๆและมาที่วิมาน
เมื่อเธอมาถึง เธอก็พูดด้วยความภาคภูมิใจ "ตอนนี้ฉันเป็นศิษย์ในของสำนักฉีซานแล้ว ฉันเก่งมากๆเลยใช่ไหม?"
หลินหยุนพูด "ด้วยพรสวรรค์ของคุณ การเป็นศิษย์ในของสำนักฉีซาน มันไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว"
ซิงเฟยหัวเราะด้วยความดีใจ "เรื่องนี้มันแน่อยู่แล้ว! ถึงแม้ฉันจะเทียบอัจฉริยะอย่างคุณไม่ได้ แต่เมื่อเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น ฉันก็ต้องมีพรสวรรค์มากกว่าคนพวกนั้นอยู่แล้ว!"
"พอได้แล้ว พูดเรื่องจริงจังกันเถอะ ฉันตรวจสอบข้อมูลมาพอสมควรแล้ว มู่หงคนนั้นเหมือนกับเจียงยี่เลย เมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากที่เขากลับมาพร้อมกับเจียงยี่ เขาก็เก็บตัวฝึกฝนตลอด ดูเหมือนเขาต้องการฝึกฝนให้ถึงแดนยาทองระดับสี่!"
"ฉันคิดว่าพวกเขาสองคนเก็บตัวฝึกฝนเหมือนกัน บางทีพวกเขาอาจจะเจอเรื่องอันตรายจากสถานที่แห่งหนึ่ง หรือไม่ก็คงเกิดเรื่องอะไรกับพวกเขา ทำให้พวกเขาสองคนพยายามทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อกลับไปผจญภัยอีกครั้ง!"
"คุณคิดว่าคำพูดของฉัน มันจะเป็นไปได้ไหม?"
หลินหยุนนิ่งเงียบทันที
มันแน่อยู่แล้ว! และคุณก็ทายถูกด้วย แต่คำพูดเหล่านี้ เรื่องเหล่านี้ ฉันบอกคุณไม่ได้!
เมื่อเห็นว่าหลินหยุนไม่เอ่ยปากพูด ซิงเฟยนิ่งไปชั่วครู่แล้วพูดอีกครั้ง "ตอนนี้สามารถคาดเดาได้อย่างชัดเจน! มู่หงจะต้องฝึกฝนจนถึงแดนยาทองระดับสี่ เขาถึงจะยอมออกมา!"
"จากข้อมูลภายในของสำนักฉีซาน เขาคงจะออกจากการฝึกฝนในไม่ช้า เพราะการแข่งขันคัดเลือกของสำนักใกล้จะเริ่มแล้ว!"
"ด้วยฐานะและความสามารถของมู่หง เขาต้องเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกในสำนักอย่างแน่นอน เพราะหลังจากนั้นจะเป็นการแข่งขันของเก้าสำนักใหญ่ เขาต้องออกจากการเก็บตัวฝึกฝนก่อนการแข่งขันเก้าสำนักใหญ่อย่างแน่นอน !"
"เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว มันก็ใกล้จะถึงแล้ว!"
"แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเขาจะออกมาจริงๆ แต่โอกาสที่เขาจะออกมามันมีสูงมากๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...