หลินหยุนกับซิงเฟยอยู่ข้างๆ ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน
ซิงเฟยพูดเบาๆ ว่า “ที่แท้ท่านนี้คือคุณชายเทียนซิน”
รถลากเลื่อนโดยกวาง เคลื่อนตัวช้าๆ แต่ไม่นานก็หยุดลง
ทันใดนั้น จึงเรียกสายตาของผู้คนอีกครั้ง
ไม่นาน ชายวัยกลางคนหนึ่งคน วิ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีแผ่นหยกในมือด้วย
หลินหยุนกับซิงเฟยเห็นดังนั้น จึงชะงักฝีเท้าลงทันที
ชายวัยกลางคนไม่มองหลินหยุนสักนิด
สายตาหยุดลงที่ซิงเฟย
“แม่นางท่านนี้”
“ผมเป็นคนรับใช้ของคุณชายเทียนซิน”
“แผ่นหยกนี้ เป็นสิ่งที่คุณชายเทียนซิน ให้ผมเอามาให้แม่นาง!”
“สามวันหลังจากนี้!”
“คุณชายตระกูลผม กำลังจะจัดงานเลี้ยงอัจฉริยะผู้มีความสามารถขึ้นในเมืองนี้”
“นี่เป็นบัตรเชิญ!”
“หวังว่าแม่นางจะมาร่วมงานได้!”
“เมื่อถึงตอนนั้นจะมีอัจฉริยะอายุน้อยจำนวนมาก ทั่วทั้งโลกคุนชาง มาร่วมงานด้วย!”
ซิงเฟยอึ้งไป จากนั้นจึงมองหลินหยุนแวบหนึ่ง
แล้วจึงยื่นมือไปรับแผ่นหยก
ชายวัยกลางคนเห็นดังนั้น จึงหันหลังเดินตามรถลากเลื่อนโดยกวาง
รถลากเลื่อนโดยกวางเคลื่อนตัวต่อไป หายไปจากสายตาของผู้คน
ส่วนฝั่งหลินหยุนกับซิงเฟย
พูดให้ถูกก็คือฝั่งซิงเฟย มีสายตาของทุกคนมองมา
เดิมทีซิงเฟยเป็นที่ดึงดูดสายตามากพอแล้ว
ตอนนี้ยิ่งกว่านั้นอีก ทุกคนพากันทอดถอนใจขึ้นมา
หน้าตาของซิงเฟย บวกกับการแต่งกายด้วยชุดกระโปรงยาวสีขาว งดงามมากจริงๆ
ไม่เหมือนคนทั่วไปเลยสักนิด
ทุกคนเริ่มพากันคาดเดาตัวตนของหลินหยุนกับซิงเฟย
แต่ดูเป็นคนแปลกหน้าเกินไป จึงไม่มีใครรู้จัก
ไม่เพียงแต่ซิงเฟยที่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ หลินหยุนก็เช่นกัน
ซิงเฟยเก็บแผ่นหยก ทั้งสองเดินต่อไปข้างหน้า
หอเทียนซิน
ทั้งสองเดินขึ้นไปบนชั้นสอง และหาที่นั่ง
กินอะไรง่ายๆ นิดหน่อย
หลินหยุนอะไรก็ได้ แต่หลักๆ คือซิงเฟย ทุกครั้งเมื่อมาถึงที่ใดที่หนึ่ง ต้องหาสถานที่ดีๆ เพื่อกินอะไรสักหน่อย
เมื่อกินเสร็จ ทั้งสองหาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง และพักที่นี่
ภายในห้อง ซิงเฟยเอาแผ่นหยกออกมาอีกครั้ง
มองหลินหยุนแล้วพูดว่า “เอายังไง เราจะไปไหม”
หลินหยุนมองท่าทางกระตือรือร้นของเธอ จึงอดขำไม่ได้ แล้วพูดว่า “เธออยากไปมากเหรอ”
ซิงเฟยไม่ได้ปฏิเสธ รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “แน่นอนอยู่แล้ว! ฉวี่เทียนซินจัดงานเลี้ยงแบบนี้ ต้องมีอัจฉริยะอายุน้อยของโลกคุนชางจำนวนมาก มาร่วมงานแน่นอน”
“แต่สิ่งสำคัญคือสามารถสืบข่าวได้ไม่น้อย!”
“และจะได้รู้เรื่องราวโดยรวมของงานประลองยุทธเก้าสำนักที่กำลังจะถึง”
“งานประลองยุทธเก้าสำนักไม่ได้สำคัญอะไร!”
“อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรามากนัก!”
“หลักสำคัญยังมีอีกหนึ่งจุด!”
“นายสนใจทะเลกวางยักษ์มากไม่ใช่เหรอ”
“งั้นยิ่งต้องไป!”
“ทั้งเมืองกวางยักษ์ แม้กระทั่งทั่วทั้งโลกคุนชาง ใครจะรู้เรื่องทะเลกวางยักษ์ดีที่สุดล่ะ!”
“เชื่อฉันสิ”
“คนที่รู้จักทะเลกวางยักษ์ดีที่สุด มีเพียงสำนักกวางยักษ์ มีเพียงตระกูลฉวี่!”
“ตระกูลฉวี่เป็นตระกูลเจ้าสำนักกวางยักษ์!”
หลินหยุนเงียบครู่หนึ่ง อดพยักหน้าพูดไม่ได้ว่า “ก็มีเหตุผล ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเราก็ไปกันเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...